ภาระหนี้สินช่วงนี้เยอะเหลือเกิน เเต่มีภาระผ่อนคอนโดฯ ก้อนโตเป็นอุปสรรค
อยากให้หมดไปไวๆ ทำยังไงดี...ถ้าอยากรู้วันนี้เรามีเทคนิคมาเเนะนำเป็นตัวช่วยให้คุณ!
1.เพิ่มเงินงวดหรือเงินผ่อนต่อเดือนให้มากขึ้น
ยอมอดทนผ่อนมากขึ้นจะได้ไม่มีหนี้สินมากวนใจอีกต่อไป เช่น เพียงแค่เพิ่มอีก 10% จากที่จ่ายเงินงวดเดิม ก็ช่วยให้ผ่อนคอนโดได้เร็วขึ้นแล้ว เช่น ปกติจ่ายเงินงวดเดือนละ 10,000 บาท ให้เพิ่มอีกเดือนละ 1,000 บาท
2.ผ่อนค่างวดเพิ่มอีก 1 เดือน
ปกติเราจ่ายค่างวด 10 เดือน ให้เพิ่มอีก 1 เดือน เป็น 11 เดือน โดยอีก 1 เดือนที่จ่ายเพิ่มนั้น เราจะไปทบในเดือนไหนก็ได้
3.ขอปรับลดอัตราดอกเบี้ยกับเจ้าหนี้
เพราะหลังจากหมดโปรโมชั่นดอกเบี้ยราคาถูกในปีแรกๆแล้ว ดอกเบี้ยเงินกู้จะถูกปรับเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่จะเลือกรีไฟแนนซ์ไปธนาคารอื่นที่ให้ดอกเบี้ยเงินกู้ถูกกว่า แต่ต้องรอให้ครบ 3 ปี ถึงจะรีไฟแนนซ์ได้ แต่การรีไฟแนนซ์จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมา ซึ่งอาจจะไม่คุ้มกับดอกเบี้ยที่ลดลงไป ดังนั้นผู้กู้สามารถติดต่อขอลดดอกเบี้ยกับธนาคารเดิมได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับนโยบายของธนาคารด้วย เพราะบางธนาคารไม่ให้ลูกค้าจากธนาคารเดิมมาขอลดดอกเบี้ยเงินกู้
4.การรีไฟแนนซ์
วิธีนี้จะช่วยให้ผ่อนบ้านหมดเร็วขึ้น แต่จะรีไฟแนนซ์ได้ก็ต่อเมื่อครบ 3 หรือ 5 ปี แล้วแต่เงื่อนไข แต่สิ่งที่จะตามมาจากการรีไฟแนนซ์ก็คือ ค่าใช้จ่ายที่เป็นค่าธรรมเนียมต่างๆ
5.โปะเงินก้อน
เมื่อได้โบนัส เงินพิเศษ หรือเบี้ยขยัน ให้รีบนำมาโปะเพิ่มจากเงินค่างวด
ทั้งนี้เรื่องการเพิ่มเงินในการผ่อนค่างวด หรือจะวิธีไหนก็ตามต้องวางแผนเรื่องการเงินให้ดีก่อน และต้องไม่กระทบกับแผนการเงินในชีวิตประจำวันของเรา
อยากให้หมดไปไวๆ ทำยังไงดี...ถ้าอยากรู้วันนี้เรามีเทคนิคมาเเนะนำเป็นตัวช่วยให้คุณ!
1.เพิ่มเงินงวดหรือเงินผ่อนต่อเดือนให้มากขึ้น
ยอมอดทนผ่อนมากขึ้นจะได้ไม่มีหนี้สินมากวนใจอีกต่อไป เช่น เพียงแค่เพิ่มอีก 10% จากที่จ่ายเงินงวดเดิม ก็ช่วยให้ผ่อนคอนโดได้เร็วขึ้นแล้ว เช่น ปกติจ่ายเงินงวดเดือนละ 10,000 บาท ให้เพิ่มอีกเดือนละ 1,000 บาท
2.ผ่อนค่างวดเพิ่มอีก 1 เดือน
ปกติเราจ่ายค่างวด 10 เดือน ให้เพิ่มอีก 1 เดือน เป็น 11 เดือน โดยอีก 1 เดือนที่จ่ายเพิ่มนั้น เราจะไปทบในเดือนไหนก็ได้
3.ขอปรับลดอัตราดอกเบี้ยกับเจ้าหนี้
เพราะหลังจากหมดโปรโมชั่นดอกเบี้ยราคาถูกในปีแรกๆแล้ว ดอกเบี้ยเงินกู้จะถูกปรับเพิ่มขึ้น ส่วนใหญ่จะเลือกรีไฟแนนซ์ไปธนาคารอื่นที่ให้ดอกเบี้ยเงินกู้ถูกกว่า แต่ต้องรอให้ครบ 3 ปี ถึงจะรีไฟแนนซ์ได้ แต่การรีไฟแนนซ์จะมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นมา ซึ่งอาจจะไม่คุ้มกับดอกเบี้ยที่ลดลงไป ดังนั้นผู้กู้สามารถติดต่อขอลดดอกเบี้ยกับธนาคารเดิมได้ แต่ก็ขึ้นอยู่กับนโยบายของธนาคารด้วย เพราะบางธนาคารไม่ให้ลูกค้าจากธนาคารเดิมมาขอลดดอกเบี้ยเงินกู้
4.การรีไฟแนนซ์
วิธีนี้จะช่วยให้ผ่อนบ้านหมดเร็วขึ้น แต่จะรีไฟแนนซ์ได้ก็ต่อเมื่อครบ 3 หรือ 5 ปี แล้วแต่เงื่อนไข แต่สิ่งที่จะตามมาจากการรีไฟแนนซ์ก็คือ ค่าใช้จ่ายที่เป็นค่าธรรมเนียมต่างๆ
5.โปะเงินก้อน
เมื่อได้โบนัส เงินพิเศษ หรือเบี้ยขยัน ให้รีบนำมาโปะเพิ่มจากเงินค่างวด
ทั้งนี้เรื่องการเพิ่มเงินในการผ่อนค่างวด หรือจะวิธีไหนก็ตามต้องวางแผนเรื่องการเงินให้ดีก่อน และต้องไม่กระทบกับแผนการเงินในชีวิตประจำวันของเรา
ที่มา : นิตยสาร The Condominium เดือนมกราคม 2559
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น