การลงทุนโครงข่ายระบบรถไฟฟ้า และรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-บางกะปิ-สำโรง) ระบบรถไฟฟ้ารางเดี่ยว (Monorail) เป็นอีกโครงการที่มาเติมเต็มโครงข่ายขนส่งมวลชน กรุงเทพฯโซนตะวันออก เป็นเส้นทางเชื่อมกรุงเทพฯตอนบนกับตอนล่าง นับตั้งแต่ถนนลาดพร้าว บางกะปิ ศรีนครินทร์ และเทพารักษ์ เมื่อบวกกับปัจจัยสนับสนุนอื่นๆ เช่น ชุมชนขยายตัวและศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่เป็นตัวเพิ่มศักยภาพที่น่าสนใจ ทำให้ตลอดแนวรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่มีระยะทาง 30.4 กม. รวม 23 สถานี นายกฯพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นประธานพิธีกดปุ่มสร้างปลายเดือนสิงหาคม 2561 มีกำหนดก่อสร้างแล้วเสร็จเปิดให้บริการปี 2564 คาดการณ์จะมีผู้โดยสารให้บริการประมาณ 220,000 คน-เที่ยวต่อวัน ส่งผลเกิดการลงทุนโครงการที่อยู่อาศัยคึกคัก
“ไนท์บริดจ์ สุขุมวิท-เทพารักษ์ ” ( Knightsbridge Sukhumvit-Theparak) คอนโดมิเนียมใหม่ล่าสุด!! ที่ บมจ. ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ (ORI) เจ้าของโครงการยืนยันว่าเป็นโครงการบนถนนเทพารักษ์ ทำเลศักยภาพที่พร้อมเจิดจรัส เพียง 0 เมตรจากสถานี MRT ทิพวัล และเชื่อมต่อกับสถานี Interchange สำโรง (สายสีเขียวสุขุมวิท) เพียง 1 สถานี เชื่อมต่อถนนเส้นหลักถึง 2 เส้นทั้งสุขุมวิทและศรีนครินทร์
โครงการ “ไนท์บริดจ์ สุขุมวิท-เทพารักษ์ ” ตั้งอยู่บนเนื้อที่กว่า 1ไร่ พัฒนาเป็นอาคารสูง 35 ชั้น 1อาคาร จำนวน 474 ยูนิต และ 1Shop มีห้องให้เลือกตั้งแต่ขนาดพื้นที่ 23 - 55 ตารางเมตร(ตร.ม.) ราคาขายเฉลี่ยที่ 90,000 บาทต่อตร.ม. มูลค่ารวมทั้งสิ้น 1,490 ล้านบาท มีที่จอดรถ Auto Parking 49% กำหนดเริ่มก่อสร้าง ปี 2562 คาดแล้วเสร็จในปี 2564 (อาคารจะสร้างเสร็จพร้อมรถไฟฟ้าเปิดใช้งาน) โดยกลุ่มลูกค้าเป้าหมายจะเป็นกลุ่มพนักงานบริษัทแนวรถไฟฟ้าสายสีเหลือง และ โซนเทพารักษ์,บางนา,บางพลี,สมุทรปราการ เจาะกลุ่มคนที่มีระดับรายได้ 35,000 บาทต่อเดือนโดยประมาณ
โครงการดังกล่าวออกแบบโดยบริษัท โบว์มอนท์ พาร์ทเนอร์ส จำกัดหนึ่งในผู้ออกแบบที่อยู่อาศัยที่มีความคิดสร้างสรรค์ และมีผลงานมากมายเป็นที่ยอมรับและรู้จักกันดีในประเทศไทย
ด้วยประสบการณ์ของบริษัทผู้ออกแบบผสานกับความเป็นผู้เชี่ยวชาญมีฐานข้อมูลด้านการตลาดของ ออริจิ้น ฯ จึงสร้างความโดดเด่นในโครงการทุกพื้นที่การอยู่อาศัยรวมถึงพื้นที่ส่วนกลางที่โดดเด่น ชั้นบนสุด Rooftop Facility สวนชั้นดาดฟ้า พร้อมจุดชมวิวได้รอบทิศ 360 องศา อีกทั้งยังตอกย้ำจุดเด่นแบรนด์ Knightsbridgeให้แตกต่างจากโครงการการอื่นในย่านเดียวกันนั่นคือ จะเน้นไปที่ความพรีเมี่ยมของทำเล จำนวนยูนิตไม่มากนัก และรวมไปถึงความเป็นส่วนตัวในการใช้พื้นที่ส่วนกลางได้เต็มอิ่มในราคาที่จับต้องได้ มีระบบรักษาความปลอดภัย กล้องวงจรปิด CCTV 24 ชั่วโมง ปัจจุบันเปิดรับลงทะเบียนสำหรับรับข่าวสารข้อมูลโครงการแล้วที่ www.origin.co.th หรือ http://www.origin.co.th/register/knightsbridge-sukhumvit-thepharak หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่ 020-300-000
นอกจากนี้ยังมีอีก 5 ปัจจัยสำคัญที่นายอภิสิทธิ์ สุนทรชูเกียรติ กรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจคอนโดมิเนียม บริษัท ออริจิ้น ฯ บอกว่าเป็นเหตุผลที่บริษัทฯเลือกลงทุนพัฒนาโครงการ “ ไนท์บริดจ์ สุขุมวิท-เทพารักษ์ ”บนถนนเทพารักษ์ที่มีความโดดเด่นทั้งในปัจจุบันและในอนาคต นั่นคือ
* โครงการอยู่ติดกบรถไฟฟ้าสถานีเทพารักษ์ 0 เมตรและเชื่อมต่อกับ interchange สายสีเขียว สถานีสำโรง ซึ่งมีโครงสร้างและแนวโน้ม ในการรับผลประโยชน์จากการพัฒนาของที่ดินได้ทั้งสองสาย
* ถนนเส้นนี้เป็น 1 ใน ถนนเพียง 3 สายบนแนวรถไฟฟ้าสายสุขุมวิทที่เป็นถนน 4 เลน และ มีรถไฟฟ้าตัดผ่านกลางซอย
* ทำเลเทพารักษ์อยู่เชื่อมต่อ ถนน เส้นหลักถึง 2 เส้น (สุขุมวิท และ ศรีนครินทร์) รวมไปถึงตัวโครงการที่ตั้งอยู่บนถนนหลัก (8 เลน) ที่สามารถรองรับการพัฒนาของที่ดินรวมไปถึงการลงทุนต่างๆได้อย่างมีประสิทธิภาพ
* การขยายตัวของทำเลสุขุมวิท ลูกค้าต่างชาติทั้งเอเซียและยุโรปมีความต้องการห้องพักอาศัยในเมืองใกล้แนวรถไฟฟ้าในทำเลเที่เดินทาง สะดวกและอุดมสมบูรณ์ในราคาค่าเช่าที่ถูกลงพร้อมกับการขยายตัวของแนวรถไฟฟ้าสายสีเขียวและสีเหลืองที่เชื่อมต่อจุด Interchange บางนา-สุวรรณภูมิ
* มีการเจริญเติบโตในด้านการลงทุนต่างๆ ทั้งที่พักอาศัย,Community Mall,โรงแรม และ โรงเรียนนานาชาติ
ด้วยศักยภาพของทำเลที่ตั้งโครงการที่อุดมไปด้วยห้างสรรพสินค้าและ Avenue ชั้นนำ พร้อมความสะดวกสบายในการเดินทางบนถนนเทพารักษ์ที่เป้นถนนที่มีความกว้างถึง 8 เลนเชื่อมกับถนนหลัก 2 เส้นทางทั้งสุขุมวิทและศรีนครินทร์ สะดวกสาบายกับการเดินทางด้วยรถยนต์ใกล้ทางด่วนและวงแหวนอุตสาหกรรม จะช่วยทำให้ชีวิตกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในพื้นที่...ที่ต้องการใช้ชีวิตส่วนตัวที่จะได้รับผลประโยชน์จากการมาของรถไฟฟ้าทั้งสายสีเหลืองและสายสีเขียวในแง่ของการเจริญเติบโตของที่ดิน และโครงการที่อยู่อาศัยต่างๆในอนาต
บริษัทฯมั่นใจว่า โครงการ “ไนท์บริดจ์ สุขุมวิท-เทพารักษ์ ” จะเป็นที่อยู่อาศัยที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้อยู่อาศัยในละแวกนั้นๆที่ต้องการแยกครองครัว หรือใช้ชีวิตส่วนตัว อยากมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง เพื่อจะได้ไม่ต้องเช่าที่อยู่อาศัย และเห็นความสำคัญของรถไฟฟ้าสายสีเหลืองที่จะสร้างเสร็จในปี 2564 และจากข้อมูลที่ได้จากการสำรวจพบว่า มีกลุ่มคนที่เดิมมีบ้านอยู่บริเวณเทพารักษ์ สำโรง ปู่เจ้าสมิงพราย ที่ต้องการแยกครอบครัว แต่ไม่มีเงินมากพอจะซื้อที่อยู่อาศัยแนวราบ จึงเลือกซื้อคอนโดฯแนวรถไฟฟ้าส่วนต่อขยายที่อยู่ใกล้บ้านเดิมของตนเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น