งานแถลงข่าว และบันทึกข้อตกลง MOU “ร่วมใจเดินหน้าคูปองครู สู่นวัตกรรมการศึกษาไทย”

 “หน่วยพัฒนาครู

ร่วมใจเดินหน้าคูปองครู
สู่นวัตกรรมการศึกษาไทย”

“คูปองครู สู่ผู้เรียน” ปลายทาง...ของกระแสธารการศึกษาไทย

เมื่อวันที่ 31 สิงหาคม 2562 เวลา  09.00 น. ถึง 12.00 น ณโรงแรมวังสวนสุนันทา มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทากรุงเทพฯ ดร.สุรัตน์ ยุทธเสรี ประธานสมาพันธ์หน่วยพัฒนาครูแห่งประเทศไทย ได้นำหน่วยพัฒนาที่ขึ้นทะเบียนกับสถาบันคุรุพัฒนามารวมพลังร่วมกันแถลงข่าวและให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ดังนี้
ความเป็นมา : ดร.สุรัตน์ ยุทธเสรี ประธานสมาพันธ์ กล่าวว่า “สมาพันธ์หน่วยพัฒนาครูแห่งประเทศไทยได้ก่อตั้งขึ้นโดยการรวมตัวกันของสถาบันการศึกษา นิติบุคคล เป็นครั้งแรก เมื่อวันอาทิตย์ ที่ 30มิถุนายน 2562ณ โรงแรมเอเชีย โดยมีวัตถุประสงค์หลักคือการรวมพลังหน่วยพัฒนาครูจัดอบรมครูตามโครงการพัฒนาครูรูปแบบครบวงจรหรือ “คูปองครู” ได้อย่างมีคุณภาพเพื่อพัฒนาคุณภาพครูสู่การยกระดับคุณภาพของผู้เรียนปัจจุบันมีสมาชิกประมาณ 100 หน่วยพัฒนา จากรากฐานทั้งหมด 883 หน่วยและจะทวีจำนวนเพิ่มขึ้นตามลำดับ
โครงการคูปองครูเกิดขึ้นเมื่อปี 2560 ริเริ่มโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ นายแพทย์ธีระเกียรติ เจริญเศรษฐศิลป์ ซึ่งได้รับแรงบันดาลใจมาจากพระราชดำรัสของในหลวงรัชกาลที่ 9 ความว่า “ส่งเสริมให้ครูรักเด็กและให้เด็กรักครู”
โดยครูต้องเริ่มต้นด้วยการเขียนแผนพัฒนาตนเอง (ID plan)จากการวิเคราะห์ปัญหาของผู้เรียน แล้ว Shopping เลือกหลักสูตรเข้าอบรมกับหน่วยพัฒนาครูและนำกลยุทธ์ที่ได้รับมาแก้ไขปัญหาผู้เรียนด้วยกิจกรรม PLC*กับเพื่อนครู จนผู้เรียนมีผลสัมฤทธิ์ที่สูงขึ้นครูจึงสะสมผลงาน รับการประเมินเพื่อเลื่อนวิทยฐานะ ว21/2560  โดยเฉพาะวิทยฐานะ “ชำนาญการพิเศษ” จะสิ้นสุดที่โรงเรียนซึ่งเป็นการกระจายอำนาจและลดภาระงานราชการแต่เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ผู้เรียนอย่างแท้จริง ดังนั้น สมาพันธ์หน่วยพัฒนาครูจึงเป็นศูนย์กลางของการพัฒนาครูสู่ผู้เรียนที่มีขุมกำลังอันมหาศาล มีผู้ทรงคุณวุฒิและผู้เชี่ยวชาญอย่างหลากหลายทั้งในวงการศึกษา และนอกวงการศึกษา
มีหลักสูตรการพัฒนาครูเปี่ยมด้วยคุณภาพมุ่งพัฒนาความรู้ ทักษะ และคุณลักษณะความเป็นครู ที่มีความลุ่มลึก ก้าวหน้าทันสมัย นับตั้งแต่รากฐานทางวัฒนธรรม ภูมิปัญญา ศาสตร์พระราชา เทคโนโลยีสมัยใหม่ ทักษะการเรียนรู้ในศตวรรษที่ 21 และทักษะแห่งอนาคต สมาพันธ์พร้อมที่จะหลอมรวมพลังดังกล่าว ปฏิบัติภารกิจเพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษาแบบก้าวกระโดดอย่างเข้มแข็ง ให้กับประเทศไทยของเราตลอดไป”
เป็นอยู่ : ผศ.ดร.ฉัตรแก้ว ใจงาม ที่ปรึกษาสมาพันธ์ กล่าวถึงคุณค่าของโครงการพัฒนาครูรูปแบบครบวงจรว่า “คูปองครูนับเป็นนวัตกรรมการพัฒนาครูที่แปลกใหม่น่าตื่นเต้นสามารถพัฒนาครู


ไปพร้อม ๆ กันได้กว่าสามแสนคน เพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาและพัฒนาผู้เรียนปีละกว่าสามล้านคน โดยเปิดประตูรั้วกระทรวงศึกษาธิการ ให้หน่วยพัฒนามืออาชีพจากทุกภาคส่วนมาร่วมกันพัฒนาครูไปสู่เด็ก ทำให้ประหยัดงบประมาณลงจากเดิมถึง 10 เท่า โดยมีขั้นตอนที่โปร่งใสเป็นธรรม  กล่าวคือ สถาบันคุรุพัฒนากลั่นกรองและรับรองหลักสูตรที่หลากหลาย สำนักพัฒนาครูของ สพฐ. กำหนดราคา และครูเลือกหลักสูตรที่สอดคล้องกับแผน ID Plan แล้วนำไปใช้พัฒนาผู้เรียน”
ที่ปรึกษาสมาพันธ์กล่าวต่อว่า “จากผลการประเมินโครงการคูปองครูโดยสำนักพัฒนาครูฯ ของสพฐ. พบว่าในปี 2560 ครูมีความพึงพอใจเฉลี่ยร้อยละ 84.41 และปี 2561 ค่าเฉลี่ยร้อยละ 99.08  ซึ่ง ฯพณฯนายกรัฐมนตรีนำไปประโคมข่าวว่าเป็นนโยบายดีเด่นของรัฐมนตรีรัฐบาลในที่ประชุมนานาชาติแต่ในปี 2562 เมื่อมีการผลัดเปลี่ยนรัฐบาลนโยบายคูปองครูที่สถาบันคุรุพัฒนาได้ประกาศรับรองหลักสูตรเกือบ 3,000 หลักสูตรแล้ว กลับมีแนวโน้มชะงักงันลงกลางคันในขณะที่หน่วยพัฒนาครูได้ลงทุนและเตรียมการมาเป็นอย่างดี
เนื่องจากมีกระแสข่าวว่า ในปีงบประมาณ 2563 คูปองครูอาจจะถูกแปรเปลี่ยนไปจากเจตนารมณ์เดิม ที่เปิดประตูกระทรวงศึกษาธิการให้ผู้เชี่ยวชาญทุกภาคส่วนในสังคมมามีส่วนร่วมในการพัฒนาครูและยกระดับคุณภาพการศึกษา ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของท่านรมว.ศธ. คนปัจจุบัน มาเป็นการให้หน่วยราชการจัดกันเองเหมือนในอดีต เป็นการปิดกั้นโอกาสของครู และเด็กไทยที่จะได้รับสิ่งใหม่ ๆ จากโลกที่เปิดกว้างไปอย่างน่าเสียดายยิ่ง”
เป็นไป : อาจารย์ปัญญา ทรงเสรีย์เลขาธิการสมาพันธ์ ในฐานะที่เป็นตัวแทนจากสมาคมพัฒนาวิชาชีพครูแห่งประเทศไทย แถลงปิดท้ายว่า “ผมชื่นชมศรัทธาต่อท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการที่มาจากภาคประชาชน และนโยบายที่ทันสมัย ทันโลกของท่านแต่สำหรับ เรื่อง คูปองครูนั้น ท่านเพิ่งเข้ามาใหม่ยังไม่ทราบถึง “หัวใจ” ของโครงการที่แท้จริงตัวแทน
สมาพันธ์จึงจะเข้าไปพบท่านในวันที่ 6 กันยายน นี้ เพื่อช่วยท่านสร้าง แบรนด์ใหม่ ที่จะโดนใจเด็กไทยและผู้ปกครองนับสิบล้านคน คือ “คูปองครู สู่ผู้เรียน” เราจะไม่ขอร้องให้ท่านทำเพื่อหน่วยพัฒนาครู หรือทำเพื่อครูเพราะ หัวใจของคูปองครู คือ “กระบวนการสร้างครู สู่การสร้างเด็ก” หรือ ผู้เรียน ซึ่งเป็นปลายทางแห่งสายธารของการศึกษาไทย  แบรนด์นี้ จะยิ่งใหญ่รองรับการมาจากภาคประชาชนของท่าน และพ่อแม่ผู้ปกครองจะไม่ผิดหวัง ดังที่ท่านให้สัญญาไว้”
อาจารย์ปัญญา กล่าวทิ้งทวนว่า “สมาพันธ์จะเสนอว่าให้ กระทรวงศึกษาธิการประกาศ เดินหน้าคูปองครูต่อโดยควบรวมปี 2562-2563 เพื่อให้ครูไม่เสียสิทธิเก็บชั่วโมงการพัฒนาทุกปี และใช้ระบบโครงการพัฒนาครูรูปแบบครบวงจร ที่ทำมา 2 ปีแล้วและได้ผลดี สมาพันธ์มิได้เรียกร้องเกินกว่าเหตุแต่เราอยากช่วยให้ท่านรัฐมนตรีรักษาระบบที่ดีไว้ อย่าทำแบบครึ่ง ๆ กลาง ๆ แล้วล้มเลิก แต่ควรดำเนินการต่อให้ครบวงจรตามชื่อโครงการ เสร็จแล้วจึงประเมินผลอย่างเป็นระบบแบบที่อารยประเทศเขาทำกัน”

ข้อสรุปที่จะเสนอกระทรวงศึกษาธิการ

1. รักษาระบบที่ดีไว้ ประกาศเดินหน้าคูปองครู ควบรวบปี 2562-2563 อนุมัติงบรายหัวละ 10,000 บาท จัดอบรมครู 1 ตุลาคม 2562 – 31 สิงหาคม 2563
2. ใช้กระบวนการให้ครบวงจร จาก “ครูสู่เด็ก”4 ขั้นตอน     
1) วางแผน ID Plan
2) เลือกหลักสูตรเข้าอบรมกับหน่วยพัฒนาครู
3) ร่วมกิจกรรม PLC รวมพลังครูพัฒนาผู้เรียน และ
4) ทำให้ผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียนสูงขึ้น และครูสะสมผลงานรับการประเมินเพื่อเลื่อนวิทยฐานะ
3. ให้หน่วยพัฒนาครูที่ผ่านการรับรองหลักสูตรจากสถาบันคุรุพัฒนา จากทุกภาคส่วนได้เปิดรุ่นและจัดอบรมครูตามโปรแกรมที่วางไว้ สอดคล้องกับนโยบายของ รมว.ศธ. ข้อ 4 เรื่อง การระดมพหุปัญญาของมนุษย์ที่หลากหลาย และจากการริเริ่มให้มี “สมัชชาแห่งการศึกษา” ของสภาการศึกษา
4. ประเมินผลโครงการอย่างเป็นระบบ เพื่อการปรับปรุงพัฒนา โดยการจัดตั้งกองทุนพัฒนาครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษาตามมาตรา 52 ของ พ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติพ.ศ.2542เพื่อความยั่งยืนต่อไป

Share:

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Recent Posts

ค้นหาบล็อกนี้

Contact Us ::

📲 (+66) 081 4345154
✉️ Insightoutstory@gmail.com

Add Line📲 Click 👇👇

Translate

🚉 ช.ส.ท.พาเที่ยว นครฯ

Review By Nichapa

POPULAR NEWS

Fanpage Facebook

ป้ายกำกับ

คลังบทความของบล็อก