ททท.ปักธงส่งเสริมการท่องเที่ยวชนบท (Rural Tourism) ทั่วประเทศ โดยเริ่มนำร่องจากภาคเหนือก่อนขยายฐานไปภาคอื่น

กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ออกมาตรการส่งเสริมการท่องเที่ยวชนบท (Rural Tourism) ทั่วประเทศ โดยเริ่มจากลงพื้นที่ในภาคเหนือเป็นอันดับแรก เพื่อเจาะกลุ่มการท่องเที่ยวชนบท มุ่งเป้าขยายสู่การเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชื่อมโยงพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากทั้งระบบในปี พ.ศ.2563
เนื่องจากการเติบโตด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทยมีพัฒนาการและประสบความสำเร็จได้ตามเป้าหมายเป็นอย่างดียิ่งมาต่อเนื่อง สร้างรายได้เข้าประเทศในระดับพันล้าน ส่งผลให้การท่องเที่ยวกลายเป็นอุตสาหกรรมที่รัฐบาลให้ความสำคัญ ในฐานะเป็นภาคอุตสาหกรรมที่เข้มแข็ง นอกจากนั้นการท่องเที่ยวยังได้ส่งผลถึงการกระจายรายได้เข้าสู่ชุมชน สร้างรายได้ในฐานะเจ้าของพื้นที่ท่องเที่ยว และผู้ผลิตสินค้าชุมชนได้มีตลาดในการขายสินค้าเพิ่มมากขึ้น ทำให้เศรษฐกิจฐานรากของประเทศเกิดความเข้มแข็ง
กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จึงมีการจัดโครงการในพัฒนาพื้นที่ท่องเที่ยวชุมชนอย่างต่อเนื่อง โดยมีการวางเป้าหมายในการพัฒนาโดยเริ่มจากพื้นที่ภาคเหนือก่อน ประกอบด้วยจังหวัด เชียงราย, พะเยา,เชียงใหม่, แม่ฮ่องสอน, ลำพูน, ลำปาง, แพร่ และน่าน ซึ่งจะเป็นโครงการที่เริ่มดำเนินการในปี พ.ศ. 2562 ต่อเนื่องในปี พ.ศ.2563 โดยการทำงานจะเป็นการทำงานในลักษณะของการสร้างภาคีเครือข่าย ทั้งผู้ประกอบการด้านที่พัก ชุมชน รวมถึงนักท่องเที่ยว นอกจากนั้นการส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นที่ให้ได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น ททท.ยังจะเน้นในการสร้างจิตสำนึกของทุกภาคส่วนในการสร้างให้เกิดการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ เพื่อให้การท่องเที่ยวเติบโตได้อย่างยั่งยืน
โดยนโยบายนี้ จะนำเสนอและประชาสัมพันธ์ให้เกิดการรับรู้ผ่านงาน “ประชารัฐสร้างไทย พัฒนาล้านนา” สร้างการรับรู้ในเรื่องของแนวคิด “การรับผิดชอบต่อประเทศชาติ และรับผิดชอบต่อชุมชนที่สำคัญ” เพื่อสร้างแนวคิดในการพัฒนาชุมชนฐานราก ให้สามารถรองรับการเดินทางของนักท่องเที่ยว โดยใช้แนวคิดการอนุรักษ์และหวงแหนเอกลักษณ์ชุมชนซึ่งเป็นแนวคิดหนึ่งของการท่องเที่ยว Responsible Tourism
Share:

เชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมบริจาคเเละร่วมงานเทศน์มหาชาติ 13 กัณฑ์ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง


จัดขึ้นในวันที่ 1 พย. นี้ 

ณ  มูลนิธิช่วยคนปัญญาอ่อนเเห่งประเทศไทย 
ในพระราชินูปถัมภ์  ตั้งเเต่เวลา07.00-17.00 น. 

ในงานมีกระเช้าผลไม้มงคลชุดละ  999 บาท เพื่อให้ผู้มีจิตศรัทธาได้ถวาย เเละนำกลับบ้านเพื่อเป็นสิริมงคลกับตนเองเเละครอบครัว  สนใจสามารถเดินทางได้อย่างสะดวกมาร่วมงานได้ ทางรถยนต์ มีที่จอดรถรองรับสำหรับท่านที่ขับรถมาเอง
ส่วนการเดินทางโดยขนส่งสาธารณะสามารถขึ้น
บีทีเอส มาลงสถานี ราชเทวี ออกทางออกที่3
เลี้ยวลงสะพานลอยด้านที่ัจะไปทางอุรุพงษ์-กิ่งเพชร 
เดินมาประมาณ200เมตร  มูลนิธิฯ อยู่ติดริมถนนปากซอยเพชรบุรี12

ขอเชิญชวนทุกท่านร่วมงานในครั้งนี้  
เเละร่วมบริจาคเป็นเจ้าภาพทั้ง13 กัณฑ์

สนใจ ติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่
มูลนิธิช่วนคนปัญญาอ่อนฯ  02 2150781-5
Share:

สมาคมนักออกแบบตกแต่งคิ้ว ประเทศไทย PMAT​ จัดเต็ม การแข่งขันบิวตี้ชิงแชมป์ประเทศไทย ครั้งที่ 5


สมาคมนักออกแบบตกแต่งคิ้ว ประเทศไทย  PMAT  เวทีที่สร้างแชมป์โลก แชมป์เอเซีย แชมป์ต่างประเทศ มามากมาย จัดเต็ม  การแข่งขันบิวตี้ชิงแชมป์ประเทศไทย ครั้งที่ 5  พร้อมงาน  Thank you Party ปิดแมทช์การแข่งขัน ในวันที่ 27 พ.ย 62 ณ โรงแรม ทีเค พาเลส แจ้งวัฒนะ (🇹🇭5th  Thailand Championship  Beauty Contest  2019 & Thank you party)



เปิดโอกาสให้ช่างฝีมือสักคิ้ว ต่อขนตา นวดหน้า และแต่งหน้าได้เข้าร่วมแข่งขันชิงแชมป์ประเทศไทยดังนี้
1.แข่งขันสักคิ้วลายเส้น ไม่จำกัดเทคนิค (หนังนูน)
2.แข่งขันสักคิ้วสไลด์ ไม่จำกัดเทคนิค (หนังนูน)
3.แข่งขันต่อขนตา(หัวหุ่นยาง)
4.แข่งขัดนวดหน้า(คนจริง)
5.แข่งขันแต่งหน้าเจ้าสาว (คนจริง)
ผู้ชนะเลิศที่ 1 ได้รับถ้วยรางวัลและเป็นตัวแทนประเทศไทยไปแข่งขีนชิงแชมป์โลกที่ต่างประเทศ

ผู้ชนะเลิศที่ 2-3 ได้รับถ้วยและของรางวัลจากผู้สนับสนุนการจัดงานมากมาย

ผู้เข้าแข่งขันทุกท่านจะได้รับถ้วยที่ระลึกและใบ Certificate

และเข้าร่วมงาน Thank you party ทุกท่าน ขอบคุณผู้ร่วมงาน แต่งตัวตามสบายแบบสุดเหวี่ยง ประกวดชุดสุดเหวี่ยงพร้อมเต้น และรับถ้วยรางวัลและของกำนัลมากมาย
เกี่ยวกับสมาคมนักออกแบบตกแต่งคิ้ว ประเทศไทย PMAT
ก่อตั้งมา 5 ปี ดำเนินงานด้านการสักคิ้วเป็นลำดับแรก รายแรกของไทย ที่ริเริ่มการสักคิ้ว เริ่มต้นจากการสักคิ้วและขยายไลน์ให้กว้างออกไป จึงรวมการต่อขนตา การนวดหน้า การแต่งหน้า เข้ามา และจัดการแข่งขัน เฟ้นหาผู้มีฝีมือและความชำนาญ เริ่มจากจัดการแข่งขันระดับจังหวัดก่อน นำแชมป์ระดับจังหวัดมาแข่งขัน เพื่อหาแชมป์ระดับภาค นำแชมป์ระดับภาคมาแข่งขัน เพื่อหาแชมป์ของประเทศไทยแล้วส่งแชมป์ประเทศไทย เข้าแข่งขันระดับนานาชาติ หาผู้ชนะเลิศเพื่อส่งชิงแชมป์โลก Intetnational ซึ่งครั้งล่าสุดที่เพิ่งผ่านมาเมื่อสองสัปดาห์ที่แล้ว ไทยชนะเลิศผู้เข้าแข่งขัน 16 ประเทศ และได้เป็นแชมป์สักคิ้วที่ 1 ของโลก
ประวัติสถาบัน สอนสักคิ้ว มิสเฟม Miss Fame สถาบันได้ก่อตั้งมาแล้วกว่า 13 ปี เดิมอยู่ถนนรามอินทรา 11 ปี และย้ายมาที่ถนนงามวงศ์วาน ทำธุรกิจนำอุปกรณ์สักคิ้วเข้ามาเมืองไทยเป็นคนแรก และเปิดสถาบันสอนสักคิ้วเป็นคนแรก จัดการแข่งขันสักคิ้ว และส่งคนไปแข่งขันต่างประเทศ  พาคนไปเรียนสักคิ้วต่างประเทศ นำอาจารย์ต่างประเทศเข้ามาสอนสักคิ้ว ทุกอย่างทำเป็นเจ้าแรก เป็นผู้นำมาตลอด สร้างผู้เชี่ยวชาญการสักคิ้วมากมาย รวมถึงการนำนวัตกรรมการสักคิ้วใหม่ ๆ เข้าสู่วงการสักคิ้ว อาทิ การสักคิ้ว 5 ธาตุ ตามศาสตร์โบรานของจีน เสริมดวง แก้โหวงเฮ้ง โหวงเฮ้งเปลี่ยน ชะตาชีวิตเปลี่ยน หากเปลี่ยนผิด ชะตาชีวิตเจอแต่มรสุมร้าย หากเปลี่ยนถูกต้อง ส่งผลให้เจ้าชะตาประสบความสำเร็จ รุ่งโรจน์และร่ำรวย ปราศจากอุปสรรคขัดขวาง ล่าสุดส่งเทรนด์สักคิ้วใหม่ สามารถเปลี่ยนรูปแบบตามสมัยนิยมได้ทุก 3 และ 6 เดือน สำหรับดารา นักแสดง นักร้อง ที่ต้องการรูปคิ้วที่แตกต่างและสร้างงานให้สำเร็จอย่างรวดเร็วและง่ายดาย.





Share:

มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง บรรเทาทุกข์ชาวอุทัยธานี มอบศาลาที่พักผู้โดยสารเพื่อหลบแดดหลบฝน และแท็งก์น้ำเพื่อการบริโภคยามภัยแล้ง

วันนี้ (26 ตุลาคม 62) มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง นำโดยนายจารุรัตน์ คุณัตถานนท์ กรรมการและรองเลขาธิการ พร้อมด้วยนายพินัย ศรีพนาสณฑ์ รักษาการผู้จัดการฝ่ายสังคมสงเคราะห์ ทำพิธีมอบศาลาที่พักผู้โดยสาร ณ บริเวณหน้าโรงเรียนอุทัยวิทยาคม อำเภอเมือง หน้าโรงเรียนทัพทันอนุสรณ์ อำเภอทัพทัน และหน้าโรงเรียนสว่างอารมณ์วิทยาคม อำเภอสว่างอารมณ์ จ.อุทัยธานี รวมทั้งสิ้น 3 หลัง ให้เยาวชนและผู้ใช้รถใช้ถนนได้หลบแดดหลบฝน และเป็นสาธารณประโยชน์ประชาชนต่อไป โดยมีคณะกรรมการสมาคมพาณิชย์จังหวัดอุทัยธานี และทีมงานฝ่ายสังคมสงเคราะห์มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ร่วมในพิธี
นอกจากนี้ มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ทำพิธีมอบแท็งก์น้ำเพื่อการบริโภค ขนาดบรรจุ 20,000 ลิตร เพื่อเป็นสาธารณประโยชน์ แก่ประชาชนที่ขาดแคลนน้ำในการบริโภคในช่วงภัยแล้ง ณ บริเวณวัดเขาลูกช้าง อำเภอทัพทัน จ.อุทัยธานี
รวมมูลค่าการจัดสร้างศาลาที่พักผู้โดยสารและแท็งก์น้ำ เพื่อการบริโภคเพื่อเป็นสาธารณประโยชน์แก่ชาวอุทัยธานีในครั้งนี้เป็นเงินทั้งสิ้น 537,000 บาท (ห้าแสนสามหมื่นเจ็ดพันบาท)


## ป่อเต็กตึ๊ง ช่วยชีวิต รักษาชีวิต สร้างชีวิต ##
#ติดต่อ-สอบถาม#ทีมงานสื่อสารองค์กร 086-854-1418 
#แอปพลิเคชันป่อเต็กตึ๊ง1418
#ช่วยจริงอุ่นใจแม้ในนาทีฉุกเฉิน
Share:

นายกรัฐมนตรีมอบรางวัล “Digital Government Awards 2019” ครั้งแรก พร้อมกำชับทุกหน่วยงานเร่งเชื่อมข้อมูลเตรียมต่อยอดสู่บริการ OSS

ทำเนียบรัฐบาล – พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้เกียรติเป็นประธานมอบรางวัล Digital Government Awards 2019 (รางวัลรัฐบาลดิจิทัลประจำปี 2562) และเปิดงาน “ประกาศผลสำรวจระดับความพร้อมรัฐบาลดิจิทัลหน่วยงานภาครัฐของประเทศไทย ประจำปี 2562 จัดขึ้นโดยสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล (องค์การมหาชน) สพร. หรือ DGA ซึ่งภายในงานมีการมอบโล่รางวัลรัฐบาลดิจิทัลระดับกรม 10 รางวัล และระดับจังหวัด 5 รางวัล
ในการนี้ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่อง “รัฐบาลดิจิทัล : กลไกสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศ” ว่า ในยุคเศรษฐกิจดิจิทัล ประเทศไทยจำเป็นต้องมีข้อมูลดิจิทัลที่ถูกต้อง ทันกาล สำหรับการวิเคราะห์และคาดการณ์ เพื่อการกำหนดนโยบายและการตัดสินใจอย่างเหมาะสมและทันท่วงที มีการให้บริการดิจิทัลที่สะดวก รวดเร็ว ตอบโจทย์ชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน และมีข้อมูลสำคัญเปิดเผยสู่สาธารณะเพื่อเพิ่มความโปร่งใส และส่งเสริมนวัตกรรม สำหรับพิธีการมอบรางวัลรัฐบาลดิจิทัลครั้งแรกนี้เป็นสัญญาณที่ดีในการแสดงถึงความพร้อมของหน่วยงานภาครัฐที่มีความมุ่งมั่นตั้งใจในการก้าวสู่รัฐบาลดิจิทัลอย่างจริงจัง เพื่อยกระดับการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลหน่วยงานของภาครัฐให้เกิดการปฏิรูประบบข้อมูลภาครัฐ มุ่งสู่การเป็นรัฐบาลเปิดและเชื่อมต่อกัน (Open and Connected Government) สามารถต่อยอดไปสู่การสร้างบริการดิจิทัลภาครัฐแบบครบวงจรและเบ็ดเสร็จ (One-Stop Service Center) หรือ OSS เพื่อให้สามารถอำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชนได้อย่างแท้จริง และขอแสดงความยินดีกับหน่วยงานที่ได้รับรางวัลรัฐบาลดิจิทัล ในระดับกรม 10 รางวัล และประกาศนียบัตรระดับจังหวัดอีก 5 รางวัล ซึ่งถือเป็นการเช็คความพร้อมและสะท้อนศักยภาพในการพัฒนาของหน่วยงานภาครัฐในปัจจุบันว่าสามารถปรับเปลี่ยนเพื่อมุ่งไปสู่เป้าหมายเดียวกันได้ตามแผนพัฒนารัฐบาลดิจิทัลของประเทศไทย 
นางไอรดา เหลืองวิไล รองผู้อำนวยการ รักษาการแทนผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล กล่าวว่า DGA ดำเนินโครงการสำรวจระดับความพร้อมรัฐบาลดิจิทัลของหน่วยงานภาครัฐ ตั้งแต่ปี 2558 เป็นประจำทุกปี และในปี 2562 นี้ DGA ได้สำรวจหน่วยงานภาครัฐระดับกรมหรือเทียบเท่า จำนวน 323 หน่วยงาน โดยมีหน่วยงานตอบแบบสำรวจฯ กลับ จำนวน 301 หน่วยงาน คิดเป็นร้อยละ 93.2 และหน่วยงานภาครัฐระดับจังหวัดทั้ง 76 จังหวัด (ไม่รวมกรุงเทพฯ) จำนวน 1,533 หน่วยงาน โดยมีหน่วยงานตอบแบบสำรวจฯ กลับ จำนวน 1,356 หน่วยงาน คิดเป็นร้อยละ 88.5 จะเห็นได้ว่าในปีนี้หน่วยงานมีความตื่นตัวและให้ความร่วมมือในการตอบแบบสำรวจอย่างดียิ่ง

ผลสำรวจพบว่า หน่วยงานภาครัฐระดับกรมโดยรวมมีคะแนนระดับความพร้อมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลอยู่ที่ 64.60 คะแนน โดยมิติที่ได้คะแนนมากที่สุด คือ มิติด้านโครงสร้างพื้นฐานความมั่นคงปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ มีคะแนนอยู่ที่ 75.36 คะแนน รองลงมา คือ มิติด้านบริการภาครัฐ มีคะแนนอยู่ที่ 68.57 คะแนน ตามมาด้วย มิติด้านศักยภาพเจ้าหน้าที่ภาครัฐด้านดิจิทัล มิติด้านการบริหารจัดการรูปแบบดิจิทัล และมิติด้านแนวนโยบายและหลักปฏิบัติ ซึ่งมีคะแนนอยู่ที่ 66.08 คะแนน 61.97 คะแนน และ 57.21 คะแนน ตามลำดับ ส่วนมิติที่ได้คะแนนน้อยที่สุด คือ มิติด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและการนำไปใช้ มีคะแนนอยู่ที่ 37.46 คะแนน
หน่วยงานภาครัฐระดับจังหวัดโดยรวมมีคะแนนระดับความพร้อมการพัฒนารัฐบาลดิจิทัลอยู่ที่ 51.09 คะแนน จาก 100 คะแนน โดยมิติที่ได้คะแนนมากที่สุด คือ มิติด้านโครงสร้างพื้นฐานความมั่นคงปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ (Secure and Efficient Infrastructure) มีคะแนนอยู่ที่ 59.65 คะแนน รองลงมา คือ มิติด้านศักยภาพเจ้าหน้าที่ภาครัฐด้านดิจิทัล (Digital Capabilities) มีคะแนนอยู่ที่ 57.20 คะแนน ตามมาด้วย มิติด้านบริการภาครัฐ (Public Services) มิติด้านการบริหารจัดการรูปแบบดิจิทัล (Smart Back Office) และมิติด้านแนวนโยบายและหลักปฏิบัติ (Policies / Practices) ซึ่งมีคะแนนอยู่ที่ 53.66 คะแนน 52.57 คะแนน และ 41.07 คะแนน ตามลำดับ ส่วนมิติที่ได้คะแนนน้อยที่สุด คือ มิติด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและการนำไปใช้ (Digital Technological Practices) มีคะแนนอยู่ที่ 22.73 คะแนน

ในปี 2562 นี้ หน่วยงานระดับกรมที่ได้รับโล่รางวัลรัฐบาลดิจิทัลจำนวน 10 รางวัล ได้แก่ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า, สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ, สำนักงานปลัดกระทรวงพาณิชย์, การไฟฟ้านครหลวง, สำนักงานกองทุนสนับสนุนการวิจัย, กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ, สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด, สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ , การประปาส่วนภูมิภาค และสำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม

สำหรับประกาศนียบัตรระดับจังหวัด 5 รางวัล ได้แก่  จังหวัดร้อยเอ็ด ลำพูน ระนอง  เพชรบูรณ์ และอุตรดิตถ์ 

นอกจากนี้ ยังมีรางวัลสนับสนุนนโยบายรัฐบาลตามโครงการยกเลิกสำเนาเอกสารราชการ จำนวน 60 หน่วยงาน ซึ่งสามารถดูรายชื่อเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.dga.or.th
Share:

Dak Galbi เปิดตัวร้านคอนเซ็ปต์ใหม่ DGB. แฟล็กชิพ สโตร์ อร่อยนำทุกเทรนด์ เปิดตัวร้านอาหารโคเรียนสไตล์ ประเดิม สาขาแรกที่ลิโด้ สยามสแคว์

สัมผัสประสบการณ์สุดพิเศษ ทั้งรูป รส กลิ่น เสียง ที่ร้อยเรียงมาอย่างกลมกล่อม และความอร่อยที่นำ ทุกเทรนด์ ล่าสุด Dak Galbi (ทัคคาลบี้) แบรนด์ร้านอาหารเกาหลีกระทะร้อนเจ้าแรกในไทย
เปิดตัวร้าน DGB. (ดีจีบี) แฟล็กชิพ สโตร์ รูปโฉมใหม่ คอนเซ็ปท์ใหม่เอี่ยม ทั้งการตกแต่งร้าน เมนูอาหาร และซอสที่มีให้เลือกหลากหลาย โดยจะมาสร้างปรากฏการณ์ความอร่อยรูปแบบใหม่ พร้อมเสิร์ฟให้อร่อยฮ็อตกว่าเคย ประเดิมสาขาแรกที่ ลิโด้
คอนเน็คท์ สยามสแควร์ โดยมี 2 ผู้บริหารหนุ่มหล่อมากความสามารถแห่งดัคกาลบี้ กรุ๊ป ทศพร วณิชวรพงศ์ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ และกรรมการบริษัท และ สถาพร วณิชวรพงศ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด และกรรมการบริษัท ร่วมพูดคุยถึงโฉมหน้าของ DGB. แฟล็กชิพ สโตร์ คอนเซ็ปต์ใหม่ ที่ DGB. แฟล็กชิพ สโตร์ สาขาลิโด้ คอนเน็คท์ สยามสแควร์ เมื่อเร็ว ๆ นี้
ทศพร วณิชวรพงศ์ ผู้จัดการฝ่ายพัฒนาธุรกิจ และกรรมการ บริษัท ดัคกาลบี้ กรุ๊ป จำกัด เจ้าของ  แบรนด์ร้านอาหารที่หลายคนคุ้นเคย อย่าง ทัคคาลบี้, วอค สเตชั่น กล่าวถึงแบรนด์ร้านอาหารน้องใหม่ล่าสุดในเครือว่า “กว่า 7 ปีที่ Dak Galbi (ทัคคาลบี้) นำเสนออาหารเกาหลีจานร้อนสู่ผู้บริโภคชาวไทย ภายใต้สโลแกน “ผัดร้อน...อร่อยฮ็อต” จนเป็นที่คุ้นเคย ล่าสุด
เราได้สร้างอีกหนึ่งแบรนด์ร้านอาหารสัญชาติเกาหลี คือ DGB. (ดีจีบี) ที่จะช่วยสร้างประสบการณ์พิเศษให้เป็นมากกว่ามื้ออาหาร ไม่ได้เป็นเพียงแค่ร้านอาหารที่มีอาหารเกาหลีอร่อย ๆ เท่านั้น แต่ยังตั้งใจรังสรรค์ทุก ๆ องค์ประกอบของร้าน ไม่ว่าจะเป็น ด้านการออกแบบตกแต่งร้าน หน้าตารสชาติอาหาร เสียงเพลง ฯลฯ เพื่อมอบประสบการณ์พิเศษแบบ K-cult หรือวัฒนธรรมเกาหลีในทุกสัมผัส ทำให้ช่วงเวลาที่ได้มาที่ DGB. เป็นช่วงเวลาพิเศษสำหรับทุกคนที่ชื่นชอบหรืออยากสัมผัส K-Cult อย่างแท้จริง”
สถาพร วณิชวรพงศ์ ผู้จัดการฝ่ายการตลาด และกรรมการ บริษัท ดัคกาลบี้ กรุ๊ป จำกัด กล่าวถึงประสบการณ์ใหม่ที่จะได้พบที่ร้าน DGB. (ดีจีบี) ว่า “ความสนุกของการรับประทานที่ DGB. ที่ทุกคนสามารถครีเอทเมนูได้ตามใจ จากความแตกต่างของรสชาติความอร่อยของซอสทั้ง 4 รสชาติ โดยสามารถเลือกความอร่อยได้ถึง 4 รสชาติใน 1 กระทะ โดย DGB. เราได้เพิ่มซอสใหม่อีก 2 รสชาติ ได้แก่ ซอส Apple Curry (แอปเปิ้ล เคอร์รี่) และ Creamy Cheesy (ครีมมี่ ชีสซี่)
ทั้งมีวัตถุดิบระดับพรีเมียม ให้เลือกอร่อยกัน พร้อมเครื่องเคียงที่มีให้หลากหลาย แบบเติมได้ไม่อั้น เมื่อสั่งเมนูใดก็ตาม จะมีสต๊าฟปรุงให้อย่างพิถีพิถัน ผ่านลีลาการผัด ที่สร้างความเพลิดเพลินเปรียบดั่งการแสดงโชว์ของเหล่าไอคอนที่มารวมตัวกันบน Main Stage นอกจากนี้ยังเพิ่มเครื่องเคียง 8 อย่าง ที่สามารถตักได้ไม่อั้น และช่วยเพิ่มอรรถรสในการรับประทานเมนูคาลบี้ได้อร่อยยิ่งขึ้น ได้แก่ กิมจิ, ยำมะละกอแครอท, สลัดมันฝรั่ง, ยำถั่วงอกหัวโต, ยำผักโขม , หัวไชเท้าดอง, กะหล่ำและผักกาดแก้ว รับประทานคู่กับน้ำสลัดสตรอว์เบอร์รี่ และน้ำสลัดงาดำ”
ผู้บริหารหนุ่มแนะนำเมนูที่ได้รับการมิกซ์ แอนด์ แมทช์ ในแต่ละรสชาติให้อร่อยลงตัว ได้แก่ “ไก่ผัดซอสคาลบี้” เมนูซิกเนเจอร์ที่ได้ความกลมกล่อมจากซอสคาลบี้ แทรกซึมไปในความนุ่มเด้งของเนื้อไก่ ที่เลือกใช้ไก่เบญจา ปลอดสาร ปลอดภัย หรือจะเป็น “เนื้อวัวสันนอกผัดซอสบูลโกกิ” อีกหนึ่งซอสขึ้นชื่อที่รู้จักกันเป็นอย่างดี ด้วยรสชาติที่กลมกล่อม ผสานรสชาติความหวานของน้ำผึ้งและความหอมของพริกไทยดำได้อย่างลงตัว หมักกับเนื้อวัวจนเข้าเนื้อได้รสสัมผัสนุ่ม ชุ่มเนื้อฉ่ำซอส
ส่วนผู้ที่ชื่นชอบแกงกะหรี่ต้องไม่พลาดลิ้มลอง “ซีฟู้ดผัดซอสแอปเปิ้ลเคอร์รี่” เข้มข้นด้วยเครื่องเทศแกงกะหรี่ ซึ่งเข้ากันดีกับซีฟู้ดสด ๆ ที่คัดสรรอย่างดี  อร่อยเหลือล้นจนไม่อยากหยุดรับประทานและห้ามพลาดกับความหอมมันอร่อยที่ชีส เลิฟเวอร์ต้องลอง “หอยเชลล์ฮอกไกโดผัดซอสครีมชีส” ความหอมจากชีสละลายผสมกับครีมซอส เข้ารสกับหอยเชลล์ตัวโตจากฮอกไกโดได้อย่างลงตัว
สำหรับดีไซน์การออกแบบตกแต่ง DGB. ในรูปแบบใหม่ แบ่งเป็น STAGE ต่าง ๆ เน้นความสนุกสนานและสีสันจัดจ้านโดนใจคนรุ่นใหม่ เริ่มด้วย DGB. STAGE โชว์ลีลาการปรุงอาหารในครัวเปิด SIDES STAGE มุมตักเครื่องเคียงได้ตามใจ ส่วน DRINKS STAGE ที่จะมาสร้างสรรค์เมนูเครื่องดื่มให้ลูกค้าได้ดื่มด่ำ 
ด้านอาร์ทิสต์สาวผู้ชื่นชอบอาหารเกาหลี “เนะ” อโณทัย นิรุตติเมธี  เผยเสน่ห์ของอาหารจากแดนกิมจิที่ตกหลุมรักตั้งแต่ได้ลองรับประทานเป็นครั้งแรก ว่า “ชอบรับประทานอาหารเกาหลีอยู่แล้ว ยิ่งเวลาไปเที่ยวเกาหลี ก็ชอบไปนั่งรับประทานอาหารตามร้านข้างถนนเหมือนอย่างในซีรีส์เกาหลี เพราะชอบทั้งบรรยากาศ และรสชาติแบบออริจินัลแท้ ๆ  ซึ่ง DGB. แฟล็กชิพ สโตร์ ก็ได้นำกลิ่นอายร้านในสไตล์เกาหลีมายกไว้ที่นี่
แถมยังมีครัวเปิดที่สามารถเห็นเวลาสตาฟกำลังปรุง รวมทั้งมีเมนูน่ารับประทานมากมาย อย่างโฟร์ คิงส์ดอม เซ็ท รวม 4 รสชาติใหม่ในกระทะเดียว ที่ตอบโจทย์ตัวเองสุด ๆ เพราะชอบลองรับประทานอะไรหลาย ๆ อย่างพร้อมกัน ซึ่งแต่ละซอสก็ให้รสชาติแตกต่างกัน ผสานกับวัตถุดิบต่าง ๆ ที่มีความพรีเมี่ยม ในเซ็ทนี้มีทั้งกุ้งลอบสเตอร์แคนาดาผัดซอสคาลบี้ , เนื้อวากิวผัดซอสบูลโกกิ, เนื้อปูก้อนผัดซอสแอปเปิ้ลเคอร์รี่ และ หอยเชลล์ฮอกไกโดผัดซอสครีมชีส ถือเป็นเมนูไฮไลท์ที่ไม่ควรพลาดลิ้มลอง”
พร้อมกันนี้ เพื่อฉลองการเปิดตัว DGB. แฟล็กชิพ สโตร์ แห่งแรกที่ลิโด้ คอนเน็คท์ สยามสแควร์
ทุกคนจะได้สนุกสนานไปกับบูธเกมส์เต้น ที่จะมาช่วยสร้างสีสันและความเพลิดเพลินกับความเป็น New Age of  K-Cult พร้อมรับสิทธิพิเศษ ตั้งแต่วันนี้ ถึงวันที่ 8 พฤษจิกายน ศกนี้  เพราะในทุกการเปลี่ยนแปลง มีความอร่อยเสมอ 
 "หอยเชลล์ฮอกไกโดผัดซอสครีมชีส”, "เนื้อวัวสันนอกผัดศอสบูลโกกิ", “ซีฟู้ดผัดซอสแอปเปิ้ลเคอร์รี่” และ"ไก่ผัดซอสคาลบี้'" เพิ่ม กุ้งล็อปสเตอร์  ใน 1 กระทะ
เมนู "หอยเชลล์ฮอกไกโดผัดซอสครีมชีส”  และ “ซีฟู้ดผัดซอสแอปเปิ้ลเคอร์รี่” ที่ DGB. (ดีจีบี) แฟล็กชิพ สโตร์ สาขาแรก ที่ลิโด้ คอนเน็คท์ สยามสแควร์
เมนู “ซีฟู้ดผัดซอสแอปเปิ้ลเคอร์รี่” เพิ่มเส้นอูด้ง  และ "ไก่ผัดซอสคาลบี้" เพิ่มข้าวญี่ปุ่น และกุ้งล็อปสเตอร์แคนาดา ที่ DGB. (ดีจีบี) แฟล็กชิพ สโตร์ สาขาแรก ที่ลิโด้ คอนเน็คท์ สยามสแควร์
เมนู "ซีฟู้ดผัดซอสครีมชีส" และ "ไก่ผัดซอสแอปเปิ้ลเคอร์รี่" ที่ DGB. (ดีจีบี) แฟล็กชิพ สโตร์ สาขาแรก ที่ลิโด้ คอนเน็คท์ สยามสแควร์
เมนู "ไก่ผัดซอสคาลบี้" เพิ่มข้าวญี่ปุ่น มอสซาเรลล่าชีส และกุ้งล็อปสเตอร์แคนาดา ที่ DGB. (ดีจีบี) แฟล็กชิพ สโตร์ สาขาแรก ที่ลิโด้ คอนเน็คท์ สยามสแควร์
เมนู "เนื้อวัวสันนอกผัดซอสบูลโกกิ" เพิ่มราเมงซารี่ ที่ DGB. (ดีจีบี) แฟล็กชิพ สโตร์ สาขาแรก ที่ลิโด้ คอนเน็คท์ สยามสแควร์
เมนู “ซีฟู้ดผัดซอสแอปเปิ้ลเคอร์รี่” เพิ่มเส้นอูด้ง ที่ DGB. (ดีจีบี) แฟล็กชิพ สโตร์ สาขาแรก ที่ลิโด้ คอนเน็คท์ สยามสแควร์
เมนู "หอยเชลล์ฮอกไกโดผัดซอสครีมชีส” เพิ่มพาสต้าหมึกดำ ที่ DGB. (ดีจีบี) แฟล็กชิพ สโตร์ สาขาแรก ที่ลิโด้ คอนเน็คท์ สยามสแควร์
พบกับร้าน DGB. แฟล็กชิพ สโตร์ โฉมใหม่! เพิ่มความอร่อยกว่าเดิมได้ที่ ลิโด้ คอนเน็คท์ สยามสแควร์ เปิดให้บริการทุกวันเวลา 10.00-22.00 น. และเตรียมเปิดบริการในอีก 3 สาขา ได้แก่ เซ็นทรัล พลาซ่า ลาดพร้าว, ยูเนี่ยน มอลล์, เทอร์มินอล21 อโศก หรือติดตามความอร่อยที่นำ ทุกเทรนด์ได้ทาง Facebook /Instagram : DGB.dakgalbi 


Share:

Recent Posts

ค้นหาบล็อกนี้

Contact Us ::

📲 (+66) 081 4345154
✉️ Insightoutstory@gmail.com

Add Line📲 Click 👇👇

Translate

🚉 ช.ส.ท.พาเที่ยว นครฯ

Review By Nichapa

POPULAR NEWS

Fanpage Facebook

ป้ายกำกับ

คลังบทความของบล็อก