#โปรโมชั่นสุดพิเศษร้านอาหารดัง, ‼️​ ฉลองเคาท์ดาวน์ปีใหม่ “ไอคอนสยาม” ดื่มด่ำบรรยากาศ ณ โซนทัศนานคร เทอเรซ สุดยอดจุดชมไฮไลท์พลุปีใหม่ 2020‼️🎉✨


#ไอคอนสยาม ชวนทุกท่านสัมผัสประสบการณ์สุดแสนประทับใจในค่ำคืนปีใหม่ด้วยโปรโมชั่นพิเศษแพ็กเกจอาหารมื้อค่ำฉลองปีใหม่ ในบรรยากาศเอาท์ดอร์ที่เปี่ยมไปด้วยสีสันแห่งความสุข สนุกสนาน จากร้านอาหารชื่อดัง ณ โซนทัศนานคร เทอเรซ ชั้น 6 ไอคอนสยาม อาทิ ร้าน HOBS (ฮอบส์) ร้าน Fallabella (ฟาลาเบลล่า) ซึ่งเป็นโซนเอาท์ดอร์รวมพลร้านอาหารและเอาท์ดอร์บาร์ชื่อดังที่คนไทยและนักท่องเที่ยวต่างชาติสามารถเอร็ดอร่อยกับหลากหลายเมนูอาหารและเครื่องดื่มชั้นเลิศ พร้อมดื่มด่ำทัศนียภาพริมสองฝั่งแม่น้ำเจ้าพระยาแบบพาโนรามายามค่ำคืนได้อย่างดีที่สุด โดยเฉพาะในค่ำคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่กับการฉลองมื้อพิเศษพร้อมไปกับการชมสุดยอดไฮไลท์พลุปีใหม่เหนือคุ้งน้ำเจ้าพระยาด้วยจำนวนมากกว่า 20,000 ดอก ระยะทาง 1,400 เมตร ในช่วงวินาทีนับถอยหลังเคาท์ดาวน์ปีใหม่กับงาน Amazing Thailand Countdown 2020 ในวันอังคารที่ 31 ธันวาคมนี้! สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 1338
Share:

ไทยเบฟ จับมือ กลุ่มอาคเนย์ ชูแนวคิดความยั่งยืน ผุดไอเดียทำต้นคริสต์มาสจากขวดน้ำแร่ช้างที่ใช้แล้วต้นแรกของประเทศ พร้อมเปิดไฟฉลองสัปดาห์แห่งการให้...ที่อาคเนย์ สีลม

กรุงเทพฯ (24 ธันวาคม 2562) :  บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ชูแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์กร ร่วมกับอาคเนย์ กลุ่มธุรกิจประกันและการเงิน จัดทำต้นคริสต์มาสจากขวดน้ำแร่ช้างที่ใช้แล้วเป็นครั้งแรก จำนวน 1,800 ขวด ความสูงกว่า 4 เมตร เพื่อส่งความสุขในวันคริสต์มาสและเทศกาลปีใหม่ให้กับชาวสีลมและประชาชนทั่วไป สะท้อนแนวคิด Reduce Reuse และ Recycle มาปรับใช้ ลดขยะ ลดผลกระทบต่อส่งแวดล้อม โดยมีการเปิดไฟฉลองสัปดาห์แห่งการให้ (Week of Sharing) ส่งท้ายปีในงานอาคเนย์ Green Mart เมื่อเร็ว ๆ นี้

คุณโฆษิต สุขสิงห์ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุดกลุ่มธุรกิจต่อเนื่อง กล่าวว่า       “ไทยเบฟ มีความมุ่งมั่นตั้งใจที่จะขับเคลื่อนและพัฒนาธุรกิจบนพื้นฐานของความยั่งยืน และพร้อมที่จะสนับสนุนกิจกรรมต่าง ๆ ที่เป็นการรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยเชื่อว่า หากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ เอกชน และประชาชนทุกคน ร่วมมือกันจะทำให้สามารถสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ยั่งยืนในภาพรวมให้กับประเทศได้อย่างแท้จริง”
โดยล่าสุด ไทยเบฟฯ ได้ร่วมกับ กลุ่มอาคเนย์ จัดทำต้นคริสต์มาสจากขวดน้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง        ขนาด 1 ลิตร จำนวน 1,800 ขวด ที่มีความสูงถึง 4 เมตร ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของการนำขวดพลาสติกมาดัดแปลงการใช้ประโยชน์ (Reuse) ก่อนจะนำไปผลิตเป็นเสื้อกีฬา และ ผ้าห่มต่อไป (Recycle) โดยต้นคริสต์มาสจากขวดน้ำแร่ธรรมชาติตราช้างนั้นจัดตั้งอยู่ด้านหน้าตึกอาคเนย์ สำนักงานใหญ่ สีลม โดยมีการเปิดไฟฉลองสัปดาห์แห่งการให้ (Week of Sharing) ในงานอาคเนย์ Green Mart

นายโชติพัฒน์ พีชานนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร อาคเนย์ กลุ่มธุรกิจประกันและการเงิน กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า “อาคเนย์ ร่วมกับเครื่องดื่ม ตราช้าง จัดทำต้นคริสต์มาสที่สร้างจากขวดน้ำแร่ช้างเป็นครั้งแรก     เพื่อสร้างความสดใส ร่วมลดโลกร้อน โดยเราได้ Reuse ขวดน้ำแร่ช้างมาดัดแปลงเป็นต้นคริสต์มาสให้ทุกคนได้มาร่วมถ่ายภาพกัน และเมื่อจบเทศกาล ขวดน้ำแร่ทั้งหมดเหล่านี้จะถูกนำไป Recycle เพื่อสร้างประโยชน์ให้กับผู้อื่นต่อไป และยังได้สร้างสีสันให้กับถนนสีลมตลอดช่วงคริสต์มาสและเทศกาลปีใหม่นี้”

ในสัปดาห์แห่งการให้นี้ (Week of Sharing) อาคเนย์ กลุ่มธุรกิจประกันและการเงิน ได้จัดงาน “อาคเนย์ Green Mart” ต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 ในการสนับสนุนให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดี โดยเชิญชวนให้ชาวสีลมและประชาชนทั่วไปชิม ช้อป สินค้าออร์แกนิก ผลิตภัณฑ์ธรรมชาติปลอดสารพิษจากเกษตรกรและผู้ผลิตโดยตรง นอกจากนี้ร่วมรณรงค์รักษ์โลกร้อนด้วยการใช้ถุงผ้าแทนถุงพลาสติก และสามารถอุดหนุนของกิน ของใช้ และเกมส์สนุก ๆ จากการออกร้านของพนักงานอาคเนย์กับกิจกรรม “อาคเนย์ Charity Fun Fair” โดยรายได้จากทั้ง 2 กิจกรรมร่วมสมทบทุนมูลนิธิชัยพฤกษ์ เพื่อแบ่งปันน้ำใจสร้างรอยยิ้มและเป็นทุนการศึกษาให้กับน้อง ๆ ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุข

นอกจากนี้ ไทยเบฟฯ ยังสนับสนุนน้ำแร่ธรรมชาติตราช้าง จำนวน 200 แพ็ค โดยรายได้จากการจัดจำหน่ายทั้งหมดจะสมทบทุนกับทางกลุ่มอาคเนย์บริจาคให้กับมูลนิธิชัยพฤกษ์ เรียกได้ว่าเป็นงานที่ได้ครบทั้งอิ่มกายกับอาหารและสินค้าออร์แกนิคจากผู้ผลิต อิ่มใจในการร่วมแบ่งปัน และยังมีโอกาสร่วมเป็นส่วนเล็ก ๆ ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสิ่งแวดล้อม ด้วยการลดขยะผ่านการใช้ถุงผ้า (Reduce) การใช้ซ้ำผลิตภัณฑ์ให้เกิดประโยชน์สูงสุด (Reuse) และ การนำผลิตภัณฑ์ใช้แล้วไปผลิตสินค้าอุปโภคบริโภคอื่น ๆ ต่อไป (Recycle) ซึ่งสามารถตอบโจทย์เรื่องความยั่งยืนอย่างแท้จริง

Share:

ททท. นำร่องกิจกรรม เปิดตัวโครงการ Make My Day เที่ยวเมืองรองภาคกลาง สัมผัส อันซีน...ลพบุรี สุดประทับใจ

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดย นายอภิชัย ฉัตรเฉลิมกิจ ผู้อำนวยการภูมิภาค ภาคกลาง เชิญชวนทุกท่าน เที่ยวเมืองรองภาคกลาง กับกิจกรรมการท่องเที่ยวสุดคูล ในจังหวัดใกล้กรุงเทพฯ ภายใต้แนวคิด Make My Day ตอบโจทย์นักท่องเที่ยว พร้อมสิทธิประโยชน์ที่หลากหลาย ด้วยโรงแรม ที่พัก ร้านอาหาร นำร่องด้วยกิจกรรม Media Fam Trip ประเดิมอันซีนจังหวัดลพบุรี เป็นที่แรก 2 วัน 1 คืน โดยมีสื่อมวลชนและบล็อกเกอร์ สัมผัสเส้นทางสายผจญภัย เพื่อบอกต่อความประทับใจและความทรงจำที่ไม่รู้ลืม
นายไพรัชช์ ทุมเสน ผู้อำนวยการกองการตลาดภาคกลาง (ททท.) กล่าวถึงการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาดกระตุ้นการท่องเที่ยว ภายใต้แนวคิด Make My Day เที่ยวเมืองรองภาคกลาง ว่า “เรานำเสนอรูปแบบกิจกรรมการท่องเที่ยว เพื่อรองรับกลุ่มความชอบ (Tourism Segment) โดยเฉพาะกลุ่ม Gen Y    ที่กำลังมองหาสถานที่เที่ยวในจังหวัดใกล้ ๆ กรุงเทพฯ หรือออกมาเที่ยวในจังหวัดเมืองรองของภาคกลาง ที่น่าสนใจ โดยเน้น 7 จังหวัดเมืองรองของภาคกลาง ได้แก่ สมุทรสงคราม ราชบุรี ลพบุรี ชัยนาท สิงห์บุรีสุพรรณบุรี และ อ่างทอง
โดย ททท. ได้รวบรวมรูปแบบเส้นทางท่องเที่ยวรองรับความต้องการเอาไว้มากมาย ไม่ว่าจะเป็น เส้นทางสำหรับคนรักการผจญภัย (Adventure) ในแบบอันซีน อย่างถ้ำเทวาพิทักษ์ จังหวัดลพบุรี เส้นทางท่องเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนสาว (Girl Gang) เส้นทางท่องเที่ยวที่เหมาะหรับผู้ที่ต้องการเดินทางสัมผัสประสบการณ์ใหม่ในการท่องเที่ยวคนเดียว (Solo Travel) เส้นทางท่องเที่ยวสัมผัสประสบการณ์ท้องถิ่น (Local Experience) เส้นทางท่องเที่ยวเอาใจคนรักน้องหมา (Dog Lover) ที่รวบรวมที่พักที่สามารถพาสัตว์เลี้ยงเข้าพักได้ เส้นทางไหว้พระขอพรสิ่งศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนี้สำหรับสายชิลด์ เรายังได้รวบรวมเส้นทางท่องเที่ยวถ่ายรูปชมวิถีเมืองเก่ากับเสน่ห์ที่ไม่เคยลบเลือน จิบกาแฟรสกลมกล่อมพร้อมขนมหวานจากร้านคาเฟ่ขึ้นชื่อสุดฮิพริมแม่น้ำ ซึ่งเส้นทางท่องเที่ยวทั้งหมดที่ยกตัวอย่างมานี้ สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมที่ https://makemyday.buzz/

นางจิรารัตน์ มีงาม ผู้อำนวยการ ททท. สำนักงานลพบุรี กล่าวว่า “จังหวัด ลพบุรี เป็นหนึ่งใน 7 จังหวัดเมืองรองภาคกลาง ที่มีหลายสถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจ โดยเฉพาะสถานที่อันซีน เช่น ถ้ำเทวาพิทักษ์ ที่พวกเราได้เดินทางมาสำรวจและสัมผัสในครั้งนี้ มีความสวยงาม ลึกลับ และปรากฏการณ์พิเศษ อย่างหินงอกหินย้อย ให้ทุกคนได้สัมผัสกับความอันซีนพิเศษในครั้งนี้ ทุ่งทานตะวัน ที่ทิวเขาจีนแล ก็เป็นทุ่งดอกทานตะวันที่เราถือว่าเป็นดอกทานตะวันที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ทุ่งดอกคอสมอสที่เพิ่มขึ้นมาสำหรับปีนี้ ก็สวยสดใสไม่แพ้กัน นักท่องเที่ยวหลายท่านอาจจะยังไม่เคยมา สื่อมวลชน และบล็อกเกอร์ ที่ได้มาชมทริปนี้ ก็ได้เผยแพร่ภาพสวย ๆ ให้ได้ชมกัน และอย่าลืมแวะมาเที่ยวเมืองลพบุรี ของดีภาคกลางนะคะ”
นายสมบัติ  ท้าวสาบุตร ผู้ใหญ่บ้าน ต. ช่องสาลิกา ให้ข้อมูลที่น่าสนใจเอาไว้ว่า “ถ้ำเทวาพิทักษ์    เป็นหนึ่งในหลายถ้ำที่อยู่ในพื้นที่ของเขตห้ามล่าสัตว์ป่าเขาเอราวัณ ชาวบ้านและเจ้าหน้าที่ต้องใช้เวลาหลายปี กว่าจะต่อสู้ให้ได้เป็นพื้นที่อนุรักษ์ ถ้ำเทวาพิทักษ์มีหินงอกหินย้อยที่สวยงามจำนวนมาก แต่ละมุมก็จะมีหลากหลายจินตนาการ ให้ได้นึกภาพสะท้อนไปว่าเหมือนอะไรบ้าง และที่น่าสนใจกว่าถ้ำอื่น ๆ คือ ภายในถ้ำ  มีเจดีย์หินอ่อนที่บรรจุวัตถุที่เชื่อกันว่าเป็นพระธาตุไว้ภายใน โดยวัตถุก้อนกลมหลายก้อนเหล่านี้พบอยู่ภายในน้ำและเจดีย์ก็ถูกสร้างขึ้นในตำแหน่งที่พบวัตถุเหล่านี้ อีกทั้งที่ผนังถ้ำเทวาพิทักษ์ยังมีซากฟอสซิลหอยทะเล  ดึกดำบรรพ์ปรากฎบนผนังถ้ำอีกด้วย
เส้นทางสู่ถ้ำเทวาพิทักษ์เป็นทางขึ้นเขาชันระยะทางประมาณ 150 เมตร ส่วนทางเข้าถ้ำเป็นโพรงแคบลึกซึ่งต้องไต่บันไดลงไป บริเวณปากถ้ำเป็นทางแคบ นักท่องเที่ยวจำเป็นต้องคลานมุดลอดผ่านเข้าไป แต่หลังจากนั้นจะเป็นโถงถ้ำขนาดใหญ่ สามารถเดินได้สบาย แต่มีทางแคบให้แทรกตัวผ่านเล็กน้อย”

จากนั้นไปต่อกันที่ ทิวเขาจีนแล เสพความเบ่งบานของดอกทานตะวันสีเหลืองอันสดใส ที่แผ่ขยายทั้งดอกและใบ ในทุ่งดอกทานตะวันที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ก่อนกลับกรุงเทพฯ รุ่งขึ้นของอีกวัน เรามุ่งหน้าไปยังสวนรุกขชาติ น้ำตกวังก้านเหลือง ที่ต่างพากันพักกายหย่อนใจไปกับธรรมชาติที่งดงาม เพราะความร่มรื่น อุดมสมบูรณ์ ของไม้พรรณอันเขียวขจี เรื่องราวดี ๆ ในทริปแห่งความทรงจำ ที่ต้องบอกต่อ
นอกจากกิจกรรม Make My Day ได้รวบรวมเส้นทางและจัดเป็นทริปสุดคูลเอาไว้แล้ว ยังมอบโปรโมชั่นและสิทธิประโยชน์ให้แก่นักท่องเที่ยวมากมาย ด้วยส่วนลดสุดคุ้มสูงสุดถึง 30% กับโรงแรม ร้านอาหาร คาเฟ่ และบาร์ กว่า 36 แห่ง  สามารถแอดไลน์แอดรับคูปองได้ที่ Line Ads @makemydayth  หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมผ่านทางเว็บไซต์  www.makemyday.buzz

ลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ตั้งแต่ วันที่ 20 ธ.ค. 2562 ถึงวันที่ 29 กุมภาพันธ์ 2563 และติดตามข่าวสารแคมเปญและการร่วมสนุกกับกิจกรรมแจกของรางวัลมากมายได้ทาง Facebook : “Thailand so much fun”
นอกจากนี้ ททท. ยังร่วมกับผู้ประกอบการในภาคส่วนอุตสาหกรรมท่องเที่ยว สนับสนุนการกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวเมืองรอง ไม่ว่าจะเป็น Grab ที่มามอบโค้ดส่วนลด 300 บาทสำหรับนักท่องเที่ยวเดินทางจากกรุงเทพฯ ไปจังหวัดใดก็ได้ในภาคกลาง สำหรับ GrabVan GrabSUV GrabRent (Car and Van) โปรโมชั่นแคมเปญจาก Agoda มอบส่วนลด 100 บาท สำหรับที่พักในจังหวัดภาคกลาง ทริปท่องเที่ยวราคาพิเศษจาก Friday Trip Local Alike และ Lover Travel และ Traveloka มอบโค้ดส่วนลด 100 บาท สำหรับลูกค้าที่จองที่พักในภาคกลาง สำหรับลูกค้าทรู ลุ้นรับของขวัญสุดพิเศษจากโครงการกับกิจกรรม lucky draw ในแอพพลิเคชั่น True you ภายใต้แคมเปญ Free Gift ลุ้นเดินทางฟรีตลอดโครงการกับ Thairoute แพลตฟอร์มจองตั๋วรถเดินทางที่เปรียบเทียบดีลดีที่สุดให้คุณ

ซึ่งที่กล่าวมาทั้งหมด สามารถติดตามแคมเปญได้ที่ facebook : “Thailand so much fun”
นักท่องเที่ยว สายท้าทายที่รักการผจญภัย สายชิลที่ชอบคาเฟ่ สายฮันเตอร์หัวใจอาร์ต หรือจะสายรักสัตว์ จะต้องประทับใจไปกับกิจกรรมและแคมเปญการท่องเที่ยว Make My Day เที่ยวเมืองรองภาคกลาง ที่เมื่อได้สัมผัสแล้ว ทุกท่านจะหลงรัก และเต็มไปด้วยความสุข ความสนุกสนาน สุดคุ้ม  และจะกลายเป็นช่วงเวลาอันน่าจดจำ...แบบไม่มีวันรู้ลืม ...

#MakeMyDay #เที่ยวภาคกลาง #Amazingไทยเท่ #MoreLegacyวิถีเมืองรองภาคกลาง
สอบถามรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : Thailand so much fun
Share:

วช.ร่วมกับ ม.มหิดล ม.จุฬาฯ และ สธ. มอบกายอุปกรณ์สำหรับผู้พิการ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก

โครงการกายอุปกรณ์สำหรับผู้พิการ เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เกิดจากการประสานความร่วมมือระหว่างรัฐบาลและศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน 904 วปร. โดยการน้อมนำพระราชดำริ พระราชปณิธาน และพระราโชบายของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทร มหาวชิราลงกรณฯ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว มาแปลงเป็นยุทธศาสตร์ในการพัฒนา ด้านสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตของประชาชน
ศาสตราจารย์นายแพทย์ สิริฤกษ์ ทรงศิวิไล ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กล่าวว่า  วช. ได้สนับสนุนทุนวิจัยในการขยายผลนวัตกรรมกายอุปกรณ์ขาเทียมให้กับคณะแพทย์ศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล และคณะวิศวะกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เพื่อจัดทำกายอุปกรณ์ขาเทียมสำหรับ ผู้พิการ นวัตกรรมกายอุปกรณ์ที่พัฒนาขึ้นเป็นฝีมือคนไทย คุณภาพสูงทัดเทียมกับสินค้าจากต่างประเทศ
สามารถผลิตได้ในประเทศไทย ลดต้นทุนการนำเข้า ช่วยอำนวยความสะดวกในการสวมใส่ และลดการเสียดสีระหว่างผู้สวมกับอุปกรณ์ มีความทนทานแข็งแรง มีน้ำหนักเบา และเหมาะกับสรีระของผู้พิการแต่ละราย รวมถึงช่วยให้ผู้ป่วยและคนพิการมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น ยังส่งผลดีต่อครอบครัว สังคม และประเทศชาติอีกด้วย
ดังนั้น เพื่อช่วยส่งเสริมและสนับสนุน การพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้พิการ สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.)  จึงได้ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข โรงเรียนกายอุกรณ์ มหาวิทยาลัยมหิดล และคณะวิศวะกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มอบกายอุปกรณ์เพื่อนำไปใช้ประโยชน์ และพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้พิการ ภายใต้โครงการกายอุปกรณ์สำหรับผู้พิการ เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ณ ห้องประชุมเจษฎาบดินทร์  ชั้น 9 อาคารเจษฎาบดินทร์ โรงพยาบาลพระนั่งเกล้า อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี วันที่ 25 ธันวาคม 2562 โดยมี  พลอากาศเอก สุบิน ชิวปรีชา กรมวังผู้ใหญ่ ในพระองค์ 904 เป็นประธานในพิธี
การส่งมอบนวัตกรรมกายอุปกรณ์ ในครั้งนี้ ได้มอบเบ้าอ่อนขาเทียมแบบถุงซิลิโคน (Low Cost Local Made Silicone Liner) และเท้าเทียม ไดนามิกส์เอสเพส S – Pace แก่ผู้พิการ จำนวน 67 ราย โดยคาดว่า การมอบกายอุปกรณ์สำหรับผู้พิการในวันนี้ จะเป็นจุดเริ่มของการต่อยอด และขับเคลื่อนให้ผู้พิการได้รับโอกาสที่ดีจากสังคมต่อไป







Share:

โอเอซิสสปา (สำนักงานใหญ่) จัดงานสังสรรค์ "Sport Night Party” ส่งมอบความสุขให้แก่พนักงาน ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่

โอเอซิสสปา (สำนักงานใหญ่) ส่งมอบความสุขให้แก่พนักงาน ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่
คุณภาคิน พลอยภิชา และคุณโทบี้ อัลเลน ประธานกรรมการโอเอซิสสปา (ประเทศไทย) ร่วมจัดงานเลี้ยงสังสรรค์ประจำปี ส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ สำหรับพนักงาน สำนักงานใหญ่โอเอซิสสปา และบุคลากรโรงเรียนไทยโอเอซิสสปา ภายใต้ธีมงาน "Sport Night Party” เพื่อสร้างขวัญกำลังใจในการทำงาน และสร้างความสัมพันธ์อันดีร่วมกันระหว่างพนักงาน ณ บริษัท เดสทีนี่ เอ็นเตอร์ไพร์ซ จำกัด จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อเร็วๆ นี้






Share:

กคช. ประกาศทีมชนะเลิศ โครงการประกวด “สุดยอดนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัย”

การเคหะแห่งชาติ ประกาศผล “สุดยอดนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัย” โดยทีม FinnVerr  ได้รับรางวัลชนะเลิศ คว้าเงินรางวัล 150,000 บาท ด้วยแนวคิดออกแบบ FinnVerr เว็บไซต์และแอปพลิเคชันช่วยสนับสนุนการซื้อขายที่ดิน อัปเดตราคาประเมินที่ดินตรงกับราคาประเมินของกรมที่ดิน
เพื่อใช้ประกอบการตัดสินใจในการหาซื้อที่ดิน โดยแอปพลิเคชันดังกล่าวจะแสดงข้อมูลเบื้องต้นให้กับผู้ใช้ (User) รวมถึงแสดงพิกัด GPS ให้ทราบ นอกจากนี้ผู้ใช้ยังสามารถดูอัตราการกู้สินเชื่อของแต่ละธนาคารได้ และหลังทำสัญญาการกู้สินเชื่อแล้วยังสามารถเข้าดูภาระและหนี้สินที่มีการอัปเดตข้อมูลตลอดเวลาได้อีกด้วย
ดร.ธัชพล กาญจนกูล ผู้ว่าการการเคหะแห่งชาติ กล่าวว่า การเคหะแห่งชาติ จัดโครงการประกวด “สุดยอดนวัตกรรมเพือการอยู่อาศัย” ขึ้นเป็นปีแรก เพื่อเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ ทั้งนักเรียน นักศึกษา ได้ออกแบบสร้างสรรค์ผลงานที่เกี่ยวเนื่องในการอยู่อาศัย โดยกำหนดให้ส่งผลงานตั้งแต่วันที่ 19 กันยายน ถึง 31 ตุลาคม 2562 
ซึ่งมีผู้ให้ความสนใจส่งผลงานเข้าประกวดเป็นจำนวนมากถึง 231 ทีม และการเคหะแห่งชาติได้คัดเลือกเหลือเพียง 20 ทีมสุดท้ายที่มีความโดดเด่นในการออกแบบที่อยู่อาศัยเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และมีความเป็นไปได้ทางด้านเทคโนโลยี การตลาด และการลงทุนจนสามารถต่อยอดได้จริงในเชิงธุรกิจ
ทั้งนี้ ได้มีการจัดกิจกรรมอบรมรอบ 20 ทีมสุดท้าย (Coaching Day) พร้อมได้พาเยี่ยมชมอาคาร SCG 100 ปี ของบริษัท ปูนซีเมนต์ไทย จำกัด (มหาชน) และเยี่ยมชมศูนย์ TIP GATEWAY Inspiration Chamber ของ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) เพื่อเป็นการปลุกประกายความคิดของผู้เข้ารอบฯ 20 ทีมสุดท้าย ให้เกิดแรงบันดาลใจที่จะสร้างสรรค์ผลงานปรับปรุงรายละเอียดการออกแบบที่อยู่อาศัยให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้น 
การจัดโครงการประกวด “สุดยอดนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัย” ในวันนี้ เป็นการให้ทีมผู้เข้าประกวดรอบ 20 ทีมสุดท้าย ได้นำเสนอผลงานเพื่อให้คณะกรรมการตัดสินความเป็นสุดยอดนวัตกรรมเพื่อการอยู่อาศัย โดยมีหลักเกณฑ์การพิจารณาออกเป็น 3 ด้าน ได้แก่
1.แนวคิดที่ตอบโจทย์วิถีชีวิตในปัจจุบันได้อย่างชัดเจน
2.แนวคิดการออกแบบที่คำนึงถึงประโยชน์การใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ และ
3.แนวคิดที่คำนึงถึงความเป็นไปได้ทางเทคโนโลยี และสามารถนำไปใช้งานได้จริง

สำหรับผู้ที่ได้รับรางวัลชนะเลิศ ได้รับเงินสด จำนวน 150,000 บาท ได้แก่ ทีม FinnVerr

รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 1 ได้รับเงินสด จำนวน 70,000 บาท ได้แก่ ทีม Keyhomechecker

รางวัลรองชนะเลิศ อันดับ 2 ได้รับเงินสด จำนวน 30,000 บาท ได้แก่ ทีม MERLINUM 

และรางวัลชมเชย จำนวน 7 รางวัล ได้รับเงินสด จำนวน 5,000 บาท ได้แก่ ทีม PROPSUS (พร๊อพสัส) ทีม RichGirl ทีม New and Friend ทีม 2N ทีม Roomesh ทีม TheSpaze และ ทีม Citernist
นอกจากนี้ บริษัท ทิพยประกันภัย จำกัด (มหาชน) มอบกรมธรรม์ประกันอุบัติเหตุ ให้กับสมาชิกทุกคนในทีม โดยทีมชนะเลิศ ได้รับทุนประกันภัยมูลค่า 3,000,000 บาท ทีมรองชนะเลิศอันอับ 1 ได้รับทุนประกันภัย มูลค่า 2,000,000 บาท และทีมรองชนะเลิศอันดับ 2 ได้รับทุนประกันภัยมูลค่า 1,000,000 บาท

Share:

เตรียมพบกับ “Hua Hin Countdown Festival 2020” ที่สุดแห่งงานมิวสิค เซเลเบรชั่น ชวนคุณส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ ร่วมสนุกสนานกับบรรยากาศปาร์ตี้เคาท์ดาวน์แบบเต็มอิ่ม อัดแน่นตลอด 5 วันเต็ม

เมื่อเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ที่หลายคนต่างรอคอยกำลังจะเวียนมาถึงอีกครั้ง หลายคนคงกำลังวางแผนไปเที่ยวพักผ่อนช่วงวันหยุดยาวกับครอบครัว หรือปาร์ตี้เฉลิมฉลองนับถอยหลังเคาท์ดาวน์กับแก๊งค์เพื่อน  งานนี้ พราว กรุ๊ป ผู้นำด้านไลฟ์สไตล์ เดสทิเนชั่น แห่งเมืองหัวหิน ร่วมกับ ธนาคารออมสิน, บริษัท ทิพยประกันชีวิต จำกัด (มหาชน), บริษัท ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค เบเวอเรจ (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัท บาคาร์ดี (ประเทศไทย) จํากัด, บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด , บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จํากัด, และ บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จํากัด
ชวนสายฮิป สายชิลล์ หรือแม้แต่สายแฟมิลี่ เตรียมวางแผนเดินทางมันข้ามปีกันได้เลย  กับเทศกาลส่งท้ายปีครั้งยิ่งใหญ่ “Hua Hin Countdown Festival 2020” ภายใต้คอนเซ็ปต์ Party around Hua Hin  ด้วย 4 สุดยอดเดสทิเนชั่นท่องเที่ยวของหัวหิน เอาใจเหล่านักท่องเที่ยวและชาวเมืองหัวหินด้วยกิจกรรมมากมาย อัดแน่นตลอด 5 วันเต็ม สร้างเส้นทางแบบไลฟ์สไตล์ปาร์ตี้เคาท์ดาวน์ รวมครบจบไว้ที่เดียว ณ เมืองหัวหิน ทั้งที่พัก ที่กิน  ที่แฮงค์เอ้าท์  ไม่ว่าจะเป็นแนวอบอุ่นสนุกสนานสไตล์ครอบครัว หรือสนุกไปกับปาร์ตี้มันสุดเหวี่ยงกับชาวแก๊งค์ ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม  2562 ไปจนถึงวันที่ 1 มกราคม 2563
สำหรับงาน “Hua Hin Countdown Festival 2020”  ได้ถูกจัดขึ้นตามจุดท่องเที่ยวหลักของเมืองหัวหิน โดยเริ่มจากบริเวณ ชายหาดหัวหิน 71 ที่เปรียบเสมือนเป็นคอมมูนิตี้สำหรับทุกเพศทุกวัย กับงาน “Sea Groove Market” เพราะในงานได้รวบรวมร้านอาหารชื่อดัง ฟู้ดทรัคคูลๆ มุมถ่ายรูปเก๋ๆ เอาใจสายโซเชียล แชะและแชร์อย่างจุใจ รวมไปถึงสินค้าบีชแวร์ หรือของที่ระลึกมากมายที่มีตลอด 5 วัน ตั้งแต่วันที่ 27 ธันวาคม 2562 ไปจนถึงวันที่ 1 มกราคม 2563
จุดต่อมาที่บริเวณ สวนน้ำ วานา นาวา วอเตอร์ จังเกิ้ล หัวหิน มาชุ่มฉ่ำสาดกระจายความมันกับงานปาร์ตี้กลางสวนน้ำสไตล์ทรอปปิคอลในงาน “The Count Down” ที่จะถูกจัดขึ้นในวันที่ 30 ธันวาคม 2562 ชวนคุณเตรียมพร้อมซ้อมเค้าท์ดาวน์กันได้เลย กับโชว์การยิงแสงสีแบบ 3 มิติ สุดตระการตาครั้งแรกในประเทศไทย ลงบนทะเลเทียมเวฟพูล ที่เต็มไปด้วยลูกบอลลอยน้ำกว่า 10,000 ลูก
และโซนกิจกรรมมากมายที่พร้อมรองรับทุกความสนุกให้ไม่มีเบื่อ โดยมีไฮไลท์เป็นคอนเสิร์ตที่ขนทัพศิลปินฮิปฮอปชื่อดังแถวหน้าของเมืองไทยมาร่วมสร้างสีสันกันอย่างจุใจ ไม่ว่าจะเป็น ดี เจอราร์ด (D GERRARD), ยัวร์บอยทีเจ (UrboyTJ)  ทูพี (Twopee) และออแกนิก (OG-ANIC) พร้อมด้วยดีเจสายฮิปอีกเพียบ นอกจากนี้เป๊ปซี่ยังเตรียมกิจกรรมซ่า…สุดฟิน มาเซอร์ไพรส์ทุกคนในงานอีกด้วย  คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม !!! เพราะงานนี้ผู้เข้าใช้บริการสวนน้ำฯ เข้าชมคอนเสิร์ตฟรีทันที โดยสามารถเข้าชมคอนเสิร์ตได้ตั้งแต่เวลา 18.00 น. เป็นต้นไป สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.vananavahuahin.com/th/
ต่อมาที่ ริมชายหาดโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน รีสอร์ท แลนด์มาร์คเคาท์ดาวน์จุดยิ่งใหญ่ที่สุดในเมืองหัวหินที่จะจัดงานขึ้นในทุกวันที่ 31 ธันวาคมของทุกปี ในงาน ”Hua Hin Count Down to 2020” พบกับความตระการตาของพลุไฟ ซึ่งใช้ระยะเวลาการจุดนานที่สุดในเมืองหัวหิน ที่จะถูกจุดขึ้นจากบริเวณผิวท้องทะเลประกอบกับเทคนิค แสง สี เสียง สุดอลังการท่ามกลางบรรยากาศเสียงเพลงจากดีเจชื่อดังที่พร้อมเนรมิตชายหาดหัวหินให้กลายเป็นปาร์ตี้เคาท์ดาวน์สุดยิ่งใหญ่แห่งปี
เดินทอดยาวมาจากริมชายหาดโรงแรมอินเตอร์คอนติเนนตัล หัวหิน รีสอร์ท ยังมีกิจกรรมเคาท์ดาวน์ ที่บริเวณ หัวหิน 71 เช่นเดียวกัน ในวันที่ 31 ธันวาคม พบกับพลุตระการตาริมชายหาด เพลงสนุกจากดีเจ Kanu ซึ่งจะพาคุณย้อนเวลากลับไปยุค 80-90  ที่มาร่วมสร้างความสนุกในครั้งนี้ รวมถึงกิจกรรมสำหรับครอบครัว (Family Day) กับมินิเวิร์คช้อปงานศิลปะ ที่จัดขึ้นให้ทุกครอบครัวได้สร้างช่วงเวลาแห่งความอบอุ่นร่วมกันในวันที่ 1 มกราคม 2563 ที่บริเวณ โซเชียล คลับ (Social Club) หัวหิน 71
และจุดสุดท้ายที่วานา นาวา สกายบาร์ บนชั้นที่ 27 ของโรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ วานา นาวา หัวหิน จุดเคาท์ดาวน์คืนข้ามปีสำหรับคนที่ชื่นชอบในความเอ็กซ์คลูซีฟ สัมผัสประสบการณ์เคาท์ดาวแบบลอยฟ้าสูงที่สุดในเมืองหัวหิน ชมพลุไฟสุดยิ่งใหญ่ท่ามกลางวิวแบบพาโนราม่าของชายหาดหัวหิน และเขาตะเกียบ พร้อมจิบเครื่องดื่มสูตรพิเศษเคล้าคลอไปกับเสียงเพลงจากดีเจในคืนข้ามปีอันน่าประทับใจ

Share:

Recent Posts

ค้นหาบล็อกนี้

Contact Us ::

📲 (+66) 081 4345154
✉️ Insightoutstory@gmail.com

Add Line📲 Click 👇👇

Translate

🚉 ช.ส.ท.พาเที่ยว นครฯ

Review By Nichapa

POPULAR NEWS

Fanpage Facebook

ป้ายกำกับ

คลังบทความของบล็อก