นักเขียน “หญิง” คนแรกได้รับรางวัล “นักเขียนอมตะ” ปี 2562 มูลนิธิอมตะโดยอดีตนายกรัฐมนตรี “อานันท์ ปันยารชุน” มอบรางวัลและโล่รางวัลให้
นางสุกัญญา ชลศึกษ์ หรือ กฤษณา อโศกสิน “นักเขียนอมตะ ประจำปี 2562” ผู้ที่มีผลงาน
โดดเด่นในงานวรรณกรรมที่ทรงคุณค่ามาอย่างต่อเนื่อง ถือเป็นนักเขียนหญิงคนแรกที่ได้รับรางวัลนี้จากที่ผ่านมาได้มอบรางวัลไปแล้ว 8 ท่าน “วิกรม” ลั่นมูลนิธิอมตะพร้อมเดินหน้าสานต่อการมอบรางวัลเพื่อเป็นกำลังใจให้กับผู้สร้างสรรค์งานวรรณศิลป์และเป็นแบบอย่างอันงดงามให้คนรุ่นต่อๆ ไป
สุกัญญา ชลศึกษ์ หรือ กฤษณา อโศกสิน ที่ได้ผ่านการพิจจารณาจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิทั้ง 7 ท่านให้เป็น “นักเขียนอมตะ” ประจำปี 2562 จากผลงานการประพันธ์นวนิยายที่ได้รับความนิยม และถูกนำไปผลิตเป็นบทละครเป็นจำนวนมาก ด้วยการทุ่มเทชีวิตเพื่องานวรรณกรรมและยังเป็นต้นแบบให้กับนักเขียนรุ่นต่อ ๆ มาอย่างต่อเนื่อง
“มูลนิธิอมตะเราได้จัดงานมอบรางวัลดังกล่าวปีนี้เป็นปีที่ 8 แล้ว เพื่อให้รางวัลนี้เป็นกำลังใจให้กับนักเขียนซึ่งเป็นผู้สร้างสรรค์ผลงานด้านวรรณกรรมให้ผลิตผลงานอย่างต่อเนื่องและตระหนักถึงความสำคัญของงานวรรณกรรมที่ถือว่าเป็นงานศิลป์อันทรงคุณค่าและสะท้อนเรื่องราวทางศิลปวัฒนธรรมของประเทศได้เป็นอย่างดีอีกแขนงหนึ่ง” นายวิกรมกล่าว
นายวิกรมกล่าวย้ำว่า การส่งเสริมให้เกิดงานเขียนที่หลากหลายนับเป็นเรื่องที่มูลนิธิ ให้ความสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นนักเขียนรุ่นเก่าหรือรุ่นใหม่ เพราะถือเป็นทรัพยากรที่ทรงคุณค่า และยังเป็นการกระตุ้นให้คนไทยรักการอ่าน ซึ่งองค์ความรู้ต่างๆ ที่ผ่านการอ่านจะช่วยยกระดับให้เกิดการพัฒนาประเทศให้ก้าวเติบโตอย่างมั่นคงมากขึ้น โดยมูลนิธิอมตะจะเดินหน้าในการมอบรางวัลดังกล่าวอย่างต่อเนื่องต่อไป
ทั้งนี้นักเขียนที่ได้รับรางวัล นักเขียนอมตะ ที่ผ่านมามีจำนวน 8 ท่าน ประกอบไปด้วย
1.นายศักดิชัย บำรุงพงศ์ หรือนามปากกา “เสนีย์ เสาวพงศ์” (ถึงแก่กรรม 2557) 2. นายโรจ
งามแม้น หรือนามปากกา “เปลว สีเงิน” 3.นายโกวิท เอนกชัย หรือนามปากกา “เขมานันทะ”
(ถึงแก่กรรม 2562) 4.นายสมบัติ พลายน้อย หรือนามปากกา “ส.พลายน้อย” 5.พระไพศาล วิสาโล
6.นายคำสิงห์ ศรีนอก หรือนามปากกา “ลาว คำหอม” 7.นายฉัตรชัย วิเศษสุวรรณภูมิ หรือนามปากกา “พนมเทียน” และ 8.นายอาจินต์ ปัญจพรรค์ (ถึงแก่กรรม 2561) และปีนี้ นางสุกัญญา ชลศึกษ์ หรือ กฤษณา อโศกสิน ซึ่งถือเป็นสตรีคนแรกที่ได้รับรางวัลล่าสุด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น