รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ชี้ประชุมรัฐมนตรีแร่ธาตุอาเซียน หวังขับเคลื่อนเศรษฐกิจภูมิภาค
เน้นสร้างความร่วมมือพัฒนาอุตสาหกรรมแร่ธาตุ ควบคู่รักษาสิ่งแวดล้อม สู่การบริหารจัดการอย่างยั่งยืน
นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า การจัดประชุมรัฐมนตรีแร่ธาตุอาเซียน ครั้งนี้ จัดขึ้นเป็นครั้งที่ 7 โดยประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ
เพื่อรับทราบความคืบหน้าของการดำเนินงานภายใต้กรอบความร่วมมือด้านแร่ธาตุอาเซียนจากที่ประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสด้านแร่ธาตุอาเซียน (The 19th ASEAN Senior Officials Meeting on Minerals: The 19th ASOMM) ซึ่งมีการประชุมเมื่อวันที่ 11 ธันวาคม 2563 ที่ผ่านมา ทำให้ทราบความคืบหน้าการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการความร่วมมือด้านแร่ธาตุอาเซียน ฉบับที่ 3 (พ.ศ. 2559 – 2568) ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2559 – 2563) หรือ ASEAN Minerals Cooperation Action Plan III (2016-2025) Phase I (2016-2020): AMCAP III PHASE I
ทั้งนี้ ที่ประชุมยังได้หารือถึง ปัญหา/อุปสรรคของการดำเนินงาน ตลอดจนพิจารณาผลความร่วมมือทั้ง 4 ด้าน ได้แก่
1) การพัฒนาฐานข้อมูลด้านแร่
2) การพัฒนาด้านแร่อย่างยั่งยืน
3) การเสริมสร้างศักยภาพบุคลากรในการพัฒนาด้านแร่ และ
4) การอำนวยความสะดวกด้านการค้าและการลงทุนด้านแร่ปัญหา และอุปสรรค และปฏิเสธไม่ได้ว่า ปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบอย่างมากกับอุตสาหกรรมแร่ธาตุ คือ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและเทคโนโลยี แม้ยังไม่มีความชัดเจนว่า การทำเหมืองแร่ ส่งผลให้เกิดสภาวะโลกร้อนอย่างไร
แต่ในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ ก็มีหารือถึงมาตรการบรรเทาและปรับตัว
เพื่อลดการเกิดสภาวะโลกร้อน เช่น การใช้พลังงาน ทรัพยากร และน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการใช้พลังงานหมุนเวียน และนวัตกรรมการกำจัดขยะ ขณะเดียวกัน ก็มีการอบรมให้ความรู้เพื่อเพิ่มทักษะแรงงานให้ก้าวทันกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว
“อุตสาหกรรมแร่ธาตุมีความสำคัญต่อการพัฒนาภูมิภาคของเรา ผมเชื่อว่าการหารือกันในครั้งนี้ จะเป็นเหมือนการวางแผนเพื่อเตรียมพร้อมรับกับสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงไปและความท้าทายใหม่ๆ ซึ่งถือเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาภาคอุตสาหกรรมแร่ธาตุ โดยดำเนินการควบคู่กับการสร้างบุคลากรที่มีศักยภาพในการพัฒนาเหมืองแร่ เพื่อก่อให้เกิดการพัฒนาอุตสาหกรรมแร่ธาตุที่รักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม และมีความรับผิดชอบต่อสังคม เกิดการบริหารจัดการทรัพยากรแร่ธาตุแบบยั่งยืน” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น