Urban Oasis Spa สาขาใหม่ล่าสุดของโอเอซิส สปา พร้อมให้บริการแล้ววันนี้!! ที่สาขา ทองหล่อ


สาขาใหม่ล่าสุดของโอเอซิส
สปา พร้อมให้บริการแล้ววันนี้
แรงไม่หยุด ฉุดไม่อยู่ โอเอซิส
สปา เปิดให้บริการสาขาที่ 15 ภายใต้ชื่อว่า “เออเบิ้ล โอเอซิส สปา” ตั้งอยู่ย่านทองหล่อ ใจกลางเมืองกรุงเทพฯ ที่พร้อมให้บริการด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ มอบความเป็นส่วนตัวภายในห้องสปาทรีทเมนต์ขนาดใหญ่ ตกแต่งสไตล์ โอเรียนทอล โดดเด่นด้วยโทนสีแดงดำ ที่ได้แรงบันดาลใจจากการเดินทางเพื่อค้นหานิยามแห่งความผ่อนคลาย
และเติมพลังให้กับชีวิต
เชิญคุณมาสัมผัสการพักผ่อนที่สมบรูณ์แบบด้วยบริการจากเทอราปิสมืออาชีพ และสปาทรีทเมนต์ที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของโอเอซิส สปา ที่ตอกย้ำความเป็นผู้นำในธุรกิจสปาตลอดระยะเวลากว่า 17 ปี.....
พบกับ
"เออเบิ้ล โอเอซิส สปา"
ได้แล้ววันนี้ ที่ 59 ซอยทองหล่อ 20 (เอกมัย 21), 
คลองตันเหนือ, วัฒนา, กรุงเทพฯ 10110
บริการรถรับส่งฟรีจาก BTS พร้อมพงษ์
* สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม
โทร 02-262 2122
เวปไซต์ www.oasisspa.net


Share:

รีวิว :: Afternoon Tea Hours จุดนัดพบแห่งใหม่ เดอะ ลอบบี้ เลาจน์ โรงแรมแบงค็อกแมริออท เดอะ สุรวงศ์

MARRIOTT
BANGKOK
THE SURAWONGSE
เดอะ ลอบบี้ เลาจน์ 
โรงแรมแบงค็อกแมริออท 
เดอะ สุรวงศ์

วันนี้ InsightoutStory จะพาเพื่อนๆมานั่งชิลล์ ที่จุดนัดพบแห่งใหม่ มาสังสรรค์กับเพื่อนๆ หรือเป็นครอบครัวก้อดูอบอุ่น ด้วยการตกแต่งภายในเลาจน์  สอดคล้องกับคอนเซปหลักของโรงแรม
นั่นก็คือตกแต่งโดยมีแรงบันดาลใจมาจากช่างสิบหมู่ของไทย โดยลอบบี้เลาจน์นั้น ตกแต่งโดยมีแรงบันดาลใจมาจากช่างเขียน ผนังของเลาจน์มีการวาดเขียนบอกเล่าถึงวิถีชีวิต แบบคนไทย อีกทั้งยังมีการวางอุปกรณ์ศิลปะต่างๆของชางเขียนไว้ตรงกลางของเลาจน์ พื้นที่นี้รองรับกิจกรรมได้หลากหลายรูปแบบ บรยากาศผ่อนคลายโดยใช้ Natural daylight 
และเปลี่ยนเป็นไฟโทนอบอุ่นในตอนกลางคืน นอกจากนี้เดอะ ลอบบี้ เลาจน์ ยังมีโซนไพรเวทสำหรับกลุ่มที่ต้องการความเป็นส่วนตัวในการพูดคุยธุรกิจ

Afternoon Tea Set ที่นี่จะมี 2 แบบ คือ 

Western Afternoon Tea Set 
ของว่างสไตล์ฝรั่ง
Western Set 750++ 
สำหรับ 2 ท่านเลือกชาหรือกาแฟได้ 2 ชนิด

Oriental Afternoon Tea Set 
ของว่างแบบไทย ๆ 
Set Thai 598++ สำหรับ 2 
ท่านเลือกชาหรือกาแฟได้ 2 ชนิด
เพลิดเพลินไปกับเครื่องดื่มต่างๆทั้ง ชา กาแฟ คอกเทล ไวน์พร้อมๆกับอาหารว่างและอาหารจานเดียว หลากเมนูที่ปรุงสดใหม่ อาทิเชน ฟิชแอนด์ชิพ คลับแซนวิช ผัดไท ก่วยเตียวคั่วและผัดกะเพราเนื้อ รวมไปถึง ของหวานอย่าง แพฟโลวามะม่วงและข้าวเหนียวมะม่วง
ซิบชายามบ่ายพร้อมๆกับของว่างแสนอร่อยที่มีให้เลือกตามความชอบสำหรับ Afternoon Tea Set ที
เสริร์ฟพร้อมกับของว่างสุดคลาสสิคตามธรรมเนียมตะวันตก เช่น แซนวิช มินิเค้กและสโคนที่เสริฟพร้อมๆกับแยมโฮมเมดหลากรส หรือจะเป็น Thai Afternoon Tea Set ที่เสิร์ฟพร้อมกับขนมทานเล่นแบบไหยๆ เช่น กะหรี่พัฟ ไก่เตย และขนมไทยต่างๆทั้งทองหยิบ จ่ามงกุฎ ขนมปากหม้อ และอื่นๆอีกมากมาย
เดอะ ลอบบี้ เลาจน์ ณ โรงแรมแบงค็อกแมริออท เดอะ สุรวงศ์ เชิญท่านมาสัมผัสความประทับใจนี้ด้วย  ตัวของท่านเอง โดยดื่มด่ำไปกับชาถ้วยโปรดและของว่างสุดอร่อยในยามบ่ายจากนั้นเพลิดเพลินไปกับคอกเทลสุดล้ำ ไวน์หรือแม้กระทั่งเบียร์ในชวงค่ำ

สถานที่: Lobby Level
เวลาบริการ :: 7am - 1am
Afternoon Tea Hours: 2pm -6pm
BANGKOK MARRIOTT HOTEL THE SURAWONGSE
262 SURAWONG ROAD, SI PHRAYA, BANGRAK,
BANGKOK 10500, THAILAND
T: 66.2.088.5666
Share:

SMEs เฮ...!!! กสอ. จัดซอฟต์แวร์แบบ Full version เพื่อธุรกิจ ฟรี 6 เดือน หวังผลักดันให้เกิด Digital Transformation อย่างเป็นรูปธรรม

กรุงเทพฯ 30 มกราคม 2563 – กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) ดีเดย์ จัดงาน 
Digital Day ขนสตาร์ทอัพและผู้ให้บริการซอฟต์แวร์กว่า 30 ราย นำเสนอโปรแกรมให้เอสเอ็มอีใช้ฟรี ไม่น้อยกว่า 6 เดือน หวังผลักดันให้เกิดดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชัน ปรับตัวสู้ศึกยุค 4.0 อย่างเป็นรูปธรรม
พร้อมขยายฐานลูกค้าให้สตาร์ทอัพและผู้ผลิตซอฟต์แวร์ไทย ตั้งเป้าปี 63 มีเอสเอ็มอีเปลี่ยนมาใช้ระบบดิจิทัลไม่น้อยกว่า 2,000 ราย และมีภาคีเครือข่ายบริษัทผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ ไม่น้อยกว่า 50 บริษัท ลดต้นทุน เพิ่มยอดขาย ไม่น้อยกว่า 20 ล้านบาท
นายณัฐพล รังสิตพล อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า ปัจจุบันสภาวะการณ์เศรษฐกิจและอุตสาหกรรมของโลกมีความผันผวนอยู่ตลอดเวลา เป็นผลมาจากความก้าวหน้าในการพัฒนาเทคโนโลยีใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่อง รัฐบาลโดย นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จึงได้มีข้อสั่งการ
ให้กระทรวงอุตสาหกรรม ภายใต้การนำของนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เร่งดำเนินการสร้างกลไกเพื่อยกระดับประสิทธิภาพในการประกอบธุรกิจของเอสเอ็มอี รวมทั้งเพิ่มศักยภาพ ในการแข่งขันทางเศรษฐกิจของประเทศให้เท่าทันต่อความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีที่ปรับเปลี่ยนอย่างรวดเร็ว
กระทรวงอุตสาหกรรมจึงได้กำหนดยุทธศาสตร์กับการพัฒนาอุตสาหกรรม 4.0 หรือ Industry 4.0 ซึ่งมุ่งเน้น การขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมด้วยนวัตกรรมเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องมือสำคัญ ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการปรับเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจของเอสเอ็มอี ซึ่งมีอยู่กว่าร้อยละ 99.7 ของอุตสาหกรรมทั้งประเทศให้สามารถเพิ่มยอดขาย ลดต้นทุน เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการ เพิ่มช่องทางการบริการ รวมทั้งสร้างนวัตกรรมสินค้าและบริการต่าง ๆ ทั้งนี้ ได้มอบหมายให้กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม (กสอ.) หาแนวทางในการส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีปรับเปลี่ยนมาใช้ระบบดิจิทัล ในการบริหารจัดการธุรกิจอย่างเป็นรูปธรรม
ขณะเดียวกัน กสอ. ได้เล็งเห็นความสำคัญของการนำเทคโนโลยีมาประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจของผู้ประกอบการเอสเอ็มอี รวมทั้งผู้ผลิตและให้บริการซอฟต์แวร์ที่เป็นของคนไทย จึงได้จัดงาน Digital Day : D-Day ขึ้น เพื่อเป็นเวทีให้ทั้งสองฝ่ายได้ติดต่อเชื่อมโยง เจรจาธุรกิจ มีการให้คำปรึกษาแนะนำ แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเพื่อนำซอฟต์แวร์มาประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจต่อไป โดย กสอ. ได้รับ ความร่วมมือจากสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) สมาคมอุตสาหกรรมซอฟต์แวร์ไทย และบริษัท ผู้ผลิตซอฟต์แวร์ไทยและสตาร์ทอัพกว่า 30 ราย นำซอฟต์แวร์การประมวลผลผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ที่พร้อมให้บริการแก่ผู้ใช้งาน โดยไม่มีข้อจำกัดด้านปริมาณและเวลา (Cloud Computing) อย่างเต็มรูปแบบ (Full Version)
ซึ่งปกติต้องมีค่าใช้จ่ายมาเสนอให้ผู้ประกอบการใช้ฟรีโดยไม่มีเงื่อนไขไม่น้อยกว่า 6 เดือน ครอบคลุมทุกภาคธุรกิจ อาทิ ด้านการเงินการบัญชี ด้านบริหารการขาย ด้านบริหารการจัดซื้อการบริหาร การผลิต ด้านควบคุมคลังสินค้า ด้านบริหารงานขนส่ง และด้านบริหารลูกหนี้เจ้าหนี้ ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่สนใจ ต้องลงทะเบียนเป็นสมาชิกในระบบ i-Industry ซึ่งเป็นระบบฐานข้อมูลดิจิทัลของกระทรวงอุตสาหกรรม  “เจ้าของธุรกิจสามารถเลือกใช้ซอฟต์แวร์ให้เหมาะสมกับกิจการ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ ในการประกอบธุรกิจ อีกทั้งยังเป็นการสนับสนุนสตาร์ทอัพและผู้ผลิตซอฟต์แวร์คนไทยให้ขยายฐานลูกค้า ที่เป็นกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอีเพิ่มขึ้น โดยเชื่อว่างานวันนี้จะเป็นก้าวย่างที่สำคัญในการส่งเสริมผู้ประกอบการเอสเอ็มอีให้เตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่ยุคดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันอย่างเป็นรูปธรรม ทั้งนี้ กสอ. ได้ตั้งเป้าหมายในปี พ.ศ. 2563 จะมีผู้ประกอบการเอสเอ็มอีปรับเปลี่ยนมาใช้ระบบดิจิทัล ในการประกอบธุรกิจไม่น้อยกว่า 2,000 ราย และมีภาคีเครือข่ายบริษัทสาตร์ทอัพและผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ ไม่น้อยกว่า 50 บริษัท ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนหรือเพิ่มยอดขาย ไม่น้อยกว่า 20 ล้านบาท” นายณัฐพล  กล่าวทิ้งท้าย
สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองพัฒนาอุตสาหกรรมดิจิทัล กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ถนนพระรามที่ 6 เขตราชเทวี กรุงเทพฯ โทรศัพท์ 0 2202 4535 
หรือ www.dip.go.th 
Share:

สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านชู 3 นโยบายหลัก ผลักดันสมาชิกสร้างมาตรฐาน เพิ่มความเชื่อมั่นผู้บริโภค

เปิดวิสัยทัศน์นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านคนใหม่ ชู 3 นโยบายหลักผลักดันธุรกิจเติบโตต่อเนื่อง เน้นสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภค การสร้างการมีส่วนร่วมของสมาชิกพัฒนาสินค้าบริการและบุคคลากร และการพัฒนาองค์กรอย่างยั่งยืนและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม รับกระแสเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เผยเน้นการพัฒนาจากภายในสู่ภายนอก  มั่นใจสามารถดึงส่วนแบ่งมูลค่าตลาดรวมได้มากขึ้น คาดปี 2563 โตเพิ่มขึ้น 5%
นายวรวุฒิ กาญจนกูล  นายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เปิดเผยว่า ตนเองได้เข้ามารับตำแหน่งนายกสมาคม ในวาระปี พ.ศ. 2563 - 2565 และตั้งใจที่จะผลักดันนโยบายหลัก ๆ  3 ด้านซึ่งประกอบไปด้วย
นโยบายด้านที่ 1 สร้างสมาคมฯ ให้เป็นที่เชื่อมั่นต่อผู้บริโภค (Trusted by Consumers)  ผ่านกิจกรรมในด้านต่าง ๆ อาทิ การสร้างการรับรู้ให้กับผู้บริโภค ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาเว็บไซต์ของสมาคมฯ เพื่อให้ผู้บริโภคเข้าถึงข้อมูลได้อย่างถูกต้อง การจัดงานแสดงสินค้ารับสร้างบ้านพร้อมการประชาสัมพันธ์ไปอย่างทั่วถึง นอกจากนี้ยังดำเนินการตรวจสอบคัดกรองสมาชิกเพื่อให้บริษัทที่เข้ามาเป็นสมาชิกของสมาคมฯ มีความน่าเชื่อถือและมั่นใจได้ รวมถึงการทำกิจกรรมเพื่อสังคม (CSR) โดยสมาคมฯ ยังคงมุ่งเน้นกิจกรรมสำหรับเยาวชนเป็นหลักผ่านโครงการ “สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านสร้างอนาคตเพื่อเด็กไทย” ซึ่งในปีนี้จะมี   กิจกรรมต่อเนื่องอีกเช่นกัน
 ในนโยบายด้านที่ 2 จะเป็นการสร้างการมีส่วนร่วมเพื่อสร้างคุณค่า (Participation to Create Value)     ซึ่งจะเป็นการมีส่วนร่วมของสมาชิกในการพัฒนาตลาดรับสร้างบ้านร่วมกัน ผ่านการพัฒนาผลิตภัณฑ์ และบริการของ ธุรกิจรับสร้างบ้านอย่างต่อเนื่องทั้งเรื่องแบบบ้าน การก่อสร้าง  รวมถึง กลยุทธ์ทางการตลาด และนำเสนอต่อผู้บริโภคผ่านการจัดงานแสดงสินค้าในรูปแบบต่าง ๆ นอกจากนี้ยังมุ่งเน้นความร่วมมือกับองค์กรภายนอกเพื่อพัฒนาธุรกิจรับสร้างบ้าน อาทิ ความร่วมมือกับสถาบันการศึกษา ที่จะผลิตบุคคลากรคุณภาพเข้าสู่ธุรกิจรับสร้างบ้าน ซึ่งกิจกรรมนี้สมาคมฯ ได้ดำเนินการมาอย่างต่อเนื่องและเริ่มเห็นผลผลิตของบุคคลากรเพิ่มขึ้นทุกปี
และนโยบายหัวข้อที่ 3 การพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development) โดยสมาคมฯ ต้องผลักดันให้สมาชิกสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนภายใต้การเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ โดยในส่วนนี้จะเน้นเรื่องของการสร้างความรู้และพัฒนานวัตกรรมใหม่ ๆ เข้าสู่ธุรกิจ การสร้างทักษะให้กับบุคคลากร ผ่านการอบรมสัมมนา การศึกษาดูงานต่างประเทศ รวมถึงการแลกเปลี่ยนความรู้ระหว่างกัน รวมถึงกับองค์กรภายนอก ทั้งในและต่างประเทศ นอกจากนี้ทางสมาคมฯ ยังุม่งเน้นให้สมาชิกคำนึงถึงเรื่องสิ่งแวดล้อม และการให้ความรู้ พร้อมสนับสนุนให้สมาชิกคำนึงถึงการออกแบบบ้านมาตรฐานที่รองรับสังคมผู้สูงอายุ (Aging society) อีกด้วย
“ตัว 3 นโยบายหลักนี้ถือเป็นโมเดลที่เราจะใช้ในการพัฒนาสมาคมฯ ให้เติบโตต่อไปอย่างต่อเนื่อง ผ่านวิสัยทัศน์ที่ว่า สมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน เป็นที่เชื่อมั่นของผู้บริโภค มีส่วนร่วมเพื่อสร้างคุณค่าและพัฒนาอย่างยั่งยืน Trusted by Consumers, Participation to Create Value  and Sustainable Development” นายวรวุฒิ กล่าว
นายวรวุฒิ กล่าวต่อไปว่า ใน 3 ปี ที่ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้านนั้น แต่ละปีจะมีกลยุทธ์การ บริหารงานที่แตกต่างกันออกไป โดย
    ปีแรก จะเป็นปีที่เน้นการเสริมสร้าง คือการเน้นเสริมสร้างการรับรู้ให้กับสังคม ภาครัฐ หน่วยงานต่างๆ และผู้    บริโภค ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ที่จะร้อยเรียงเป็นเรื่องราวเดียวกันตลอดทั้งปี
    ปีที่ 2 จะเป็นปีที่เน้นการพัฒนา คือ เน้นการพัฒนามาตรฐานงานรับสร้างบ้าน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการทำคู่มือ    มาตรฐานรับสร้างบ้าน, การพัฒนาคน หรือพัฒนาบุคลากรของสมาชิก
    และปีที่ 3 จะเป็นปีที่ก้าวสู่ความยั่งยืน คือเป็นปีที่วิเคราะห์ผลงานด้านการรับรู้ของผู้บริโภค, การพัฒนาของสมาชิกทั้งจำนวนและคุณภาพ, การวิเคราะห์แนวทางแก้ไขและมอบผลให้กับคณะผู้บริหารรุ่นต่อไป เพื่อพัฒนางานของสมาคมให้สู่ความยั่งยืน
การพัฒนาใน 3 นโยบายดังกล่าว ตลอดวาระ 3 ปี จะเห็นได้ว่า สมาคมฯ มุ่งเน้นการพัฒนาจากภายในสู่ภายนอก คือต้องพัฒนาสมาชิก ผลักดันให้สมาชิกพัฒนาผลิตภัณฑ์ พัฒนาบุคคลกร เพื่อให้เกิดผลิตภัณฑ์และบริการที่มีคุณภาพ ซึ่งทำให้ผู้บริโภคได้รับผลิตภัณฑ์และบริการที่ดี นำไปสู่ความเชื่อมั่นต่อสมาคมฯ และธุรกิจรับสร้างบ้านต่อไป ซึ่ง  ปัจจุบันถือว่า ผู้บริโภคเองให้การยอมรับในตัวสมาคมฯ เพิ่มมากขึ้น
โดยเป้าหมายของสมาคมฯ นอกจากเรื่องการสร้างความเชื่อมั่นกับผู้บริโภคแล้ว สมาคมฯ ยังคงต้องการเพิ่มสัดส่วนทางด้านมูลค่าตลาดรวมของธุรกิจรับสร้างบ้านให้เพิ่มมากขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทรับสร้างบ้านที่เป็นสมาชิกสมาคมฯ มีส่วนแบ่งการตลาดอยู่ราว 25% คิดเป็นมูลค่าตลาดรวมราว 12,500 ล้านบาท ขณะที่ในปี 2563 คาดว่าสามารถดึงส่วนแบ่งมูลค่าตลาดรวมได้มากขึ้น 5% เนื่องด้วยปัจจัยหลายด้านทั้งการเพิ่มจำนวนสมาชิกรับสร้างบ้านในภูมิภาคและการกระตุ้นการรับรู้ พร้อมกับการสร้างความเชื่อมั่นต่อผู้บริโภคของสมาคมฯ


Share:

รีวิว :: “เก็ตเฟรช” แบรนด์นี้อาหารสำหรับคนรักสุขภาพ อร่อย สดใหม่ ทุกเมนู :: Simple Natural Delicious

วันนี้ InsightOutStory เอาใจคนรักษาสุขภาพ ด้วยอาหารมื้อคลีนๆ สดใหม่อร่อยทุกเมนู ที่ Get Fresh  ที่นี่รังสรรค์ทุกเมนูอาหาร ให้ตอบโจทย์กับความต้องการของลูกค้าในเทรนด์ของการใช้ชีวิตแบบแอคทีฟ และการตระหนักใส่ใจในเรื่องสุขภาพ และคุณภาพของวัตถุดิบที่ออแกนิค  ปลอดภัย และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างแน่นอนค่ะ  การเดินทางที่สะดวก ใจกลางเมือง ให้มืออาหารโปรดเป็นมื้อสุขภาพจริงๆค่ะ
“เก็ตเฟรช” เป็นสาขาแรกของประเทศไทยเพ่งเปิดตัวที่ศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์  โดยก่อนนี้ร้านอาหารในแบรนด์ เดรส ทั้งหมด 8 สาขา จะเปลี่ยนชื่อแบรนด์ และคอนเซ็ปต์ทั้งหมด ไปเป็นแบรนด์ “เก็ตเฟรช” ด้วยเช่นกัน
ผู้บริโภคในเรื่องแนวคิดการดูแลสุขภาพ และกระแสนิยมของการตอบรับเรื่องการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ  เพื่อเป็นการตอกย้ำการเป็นผู้นำร้านอาหารรักสุขภาพ สไตล์ fast-casual dinning ที่กำลังเติบโตอย่างก้าวกระโดดในทวีปเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
โดยบริษัท เดอะ เฟรช ฟู้ด จำกัด  บริหารงานโดย  คุณสิทธิ เซกาล ผู้บริหาร และ Co-Founder ประกาศการร่วมทุนกับกลุ่ม Stonelotus Ventures ผู้ร่วมทุนจากประเทศแคนาดา ได้ตกลงร่วมมือลงทุนทำธุรกิจร้านอาหารในประเทศไทย ภายใต้ชื่อแบรนด์ เก็ตเฟรช (getfresh) โดยร่วมลงทุนเป็นเงินทั้งสิ้นประมาณ 95 ล้านบาท (3 ล้านเหรียญสหรัฐ)
ที่นี่เน้น การให้บริการอาหารสไตล์รักสุขภาพ และเป็นผู้นำในเรื่องเมนูสลัด สำหรับ “เก็ตเฟรช” เราพัฒนาแบรนด์ให้เชื่อมโยงกับไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภคมากขึ้น ทั้งผู้บริโภคคนไทยและคนต่างชาติ ที่ต่างกำลังให้ความสำคัญในเรื่องการใช้ชีวิตแบบแอคทีฟ และอาหารเพื่อสุขภาพ ยิ่งไปกว่านั้นขณะนี้ลูกค้าส่วนใหญ่กำลังมองหาสถานที่ หรือร้านอาหารที่สามารถตอบโจทย์ในเรื่องความหลากหลายของเมนูอาหาร ที่มาพร้อมกับความอร่อย และราคาที่สมเหตุสมผล”

คุณสิทธิ เซกาล กล่าวเพิ่มเติมอีกว่าว่า สืบเนื่องจากที่ทางแบรนด์ให้ความสำคัญในเรื่องความหลากหลายของแหล่งที่มาของวัตถุดิบจากธรรมชาติ และวัตถุดิบที่นำมาใช้นั้น ต้องเป็นวัตถุดิบชั้นดี ที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพของผู้บริโภค ทางแบรนด์หวังว่า เก็ตเฟรช จะเป็นตัวช่วยส่งเสริมผู้บริโภค โดยเฉพาะบุคคลที่ให้ความใส่ใจ และความสำคัญกับเรื่องอาหารที่รับประทานให้มีชีวิต และสุขภาพที่ดีขึ้น”
Get Fresh จะมีเมนูความใหม่ให้เลือกมายมายกว่าแบรนด์เดรส เมนูอาหารจาก “เก็ตเฟรช” ทางแบรนด์มีความตั้งใจจะนำเสนออาหารออกเป็น 2 ประเภท คือ เมนูอาหารที่รังสรรค์จากเชฟที่มีให้เลือกรับประทานอย่างหลากหลาย 
และเมนูอาหารที่ลูกค้าสามารถออกแบบได้ด้วยตัวเองตามความชอบ โดยลูกค้าสามารถเลือกได้เองว่าอยากใส่วัตถุดิบอะไรบ้างในแต่ละจาน โดยจุดเด่น อยู่ที่วัตถุดิบทั้งหมด เป็นวัตถุดิบคุณภาพดี ออร์แกนิค และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม  เริ่มด้วย เมนู ต้นกำเนิดของโลโก้ร้านนี้กันเลยนะค่ะ
The Five Colors (สลัด 5 สี)
เมนูซิกเนเจอร์ของเก็ตเฟรช  เมนูนี้เป็นสัญญาลักษณ์ของร้าน   ที่มีลักษณะเป็นรูปเมล็ดพันธุ์ที่มี 5 สีนั้น มีการออกแบบ
และพัฒนาโดยได้แรงบันดาลใจมาจาก 5 สีของหมวดหมู่โภชนาการอาหาร ที่ประกอบไปด้วยแซลมอนหมัก กีวี กะหล่ำม่วง มะม่วง ทับทิม ผักกาดหลากชนิด และน้ำสลัดงาขาว ที่ให้ลูกค้าได้มีส่วนร่วมในการคลุกเคล้าส่วนผสมต่างๆด้วยตัวเอง
 ราคา 220 บาท


สายสุขภาพโยเกิร์ตต้องมา  

Granola Bowl – กราโนล่า โยเกิร์ต
ราคา 150 บาท
Tropical Bowl – ทรอปิคอลโยเกิร์ต
ราคา 150 บาท

ต่อด้วยเมนูต่างๆที่นี่

มีให้เลือกมากมายตามมาเลยค่ะ
Farm to Table Salad (สลัดผักสดจากฟาร์ม)
สลัดมะเขือเทศพื้นบ้านออร์แกนิกและมะเดื่อสดจากฟาร์มของ getfresh จับคู่กับชีสมอสซาเรลล่าในน้ำมันมะกอกและซอสบัลซามิโก้
ราคา 220 บาท
Nam Tok Gai (น้ำตกไก่)
น้ำตกไก่ ที่ใช้อกไก่ย่างอย่างดี รับประทานคู่กับผักกาดไอซ์เบิร์กปลอดสารและใบสะระแหน่ ได้รสชาติเผ็ดที่คุ้นปากคนไทย และยังเป็นมิตรกับคนต่างชาติ
ราคา 140 บาท

Spinach Ravioli (ราวิโอลี่ผักโขม)
ราวิโอลี่โฮมเมด ยัดไส้ซอสผักโขมและริกอตต้า มะเขือเทศและโหระพา จานนี้เป็น Vegetarian นะ สายมังสวิรัตเลยค่ะ
 ราคา 260 บาท

Tokyo Bowl (โตเกียวโบวล์)
เมนูข้าวหน้าสไตล์ญี่ปุ่น ท๊อปปิ้งด้วย ทูน่าดิบสไตล์ซาชิมิ แซลมอนหมัก ไข่ปลาแซลมอน แฮสส์อโวคาโด้ ฟักทองญี่ปุ่น แรดิชอ่อน ต้นหอม หอมทอด สาหร่ายโนริ ซอสงา เสิร์ฟพร้อมกับข้าวแจสเบอร์รี่ออร์แกนิก อร่อยแบบลงตัว ทานกับ Sesame Dressing คือดีค่ะ
ราคา 350 บาท

New Orleans – สลัด ไก่นิวออร์ลีน
สำหรับผู้ที่ชอบทานสลัดไก่ ต้องเมนูนี้  สลัดไก่  เนื้อนุ่ม กับผักสดๆ ออแกนนิค มะเขือเทศราชินี ถั่วแระญี่ปุ่น แตงกวา ฯลฯ  เพิ่มเติมรสชาติมันๆ มาพร้อมกับน้ำสลัดสูตรพิเศษจากทางร้าน
ราคา S 170 บาท – L 240 บาท

Fit & Firm – สลัดซีฟู้ด
สลัดซีฟู้ด กุ้งและปลาแซลมอล พร้อมผักสลัดสดๆ พร้อมหอมแดงเพิ่มรสชาติ เมนูน่าลองนะค่ะมีความแปลกที่หอมแดงมาคลุกกับสลัดจานโปรด
                                                      ราคา S 220 บาท – L 340 บาท

Roasted Pumpkin Salad – สลัดฟักทองย่าง
เมนูสลัดฟักทองญี่ปุ่นที่ 
ราคา 170 บาท


Spicy Pork Bulgogi Bowl

เมนูข้าวหน้าสไตล์เกาหลี หมูหมักในสูตรเผ็ดตัดเลี่ยนได้ดี
ราคา 240 บาท


Mushroom Frittata – ไข่เจียวเห็ดกระทะร้อน
ไข่เจียว พร้อมเสิร์ฟกับกะทะร้อน เมนูนี้ รสชาติกล่อมกล่อม ด้วยไข่เจียวพร้อมเห็ด แชมปิญอง เครื่องเทศออแกนนิค พร้อมเซตสลัด น่าทานมากต้องสั่งคะ
ราคา 240 บาท

Chorizo Frittata – ไข่เจียวไส้กรอกกระทะร้อน 
ไข่เจียวกระทะร้อนอีกหนึ่งเมนู ออร์แกนิค ไข่เจียวไส้กรอก หน้าตาเย้ายวนชวนชิมจริงๆค่ะ
ราคา 240 บาท

Penne Pesto – เพนเน่ผัดซอสเพสโต

 พาสต้ากับซอสสูตรพิเศษขอร้านสีเขียวออแกนิค เพื่อสุขภาพจริงๆค่ะ
ราคา 260 บาท
Smashed Avocado & Pomegranate – อะโวคาโดโทสต์

เมนูแซนด์วิชวาไรตี้ในสไตล์สุขภาพดีๆ อะโวคาโดโทสต์ เมนูง่ายๆ ที่อัดแน่นไว้ด้วยคุณประโยชน์เช่นเดิม ผสมเนื้อมะเขือเทศหั่นละเอียด ปรุงรสด้วยน้ำมันมะกอก ท็อปเพิ่มด้วยเมล็ดทับทิม และงา ทานคู่ผักสดไวลด์ ร็อกเก็ต และมะเขือเทศราชินีสไลด์
ราคา 260 บาท

California Chicken – แซนด์วิชไก่

ราคา 220 บาท

NYC Reuben – แซนด์วิชไส้เนื้อออสเตรเลีย
 ราคา 340 บาท

Broccoli & Spinach Soup – ซุปบล็อคโคลี่ ผักโขม
ซุปบล็อคโคลี่ ผักโขม รสชาตินวล หอม ละเอียดทานแล้วไม่หนักท้องสายสุขภาพชอบค่ะ
ราคา 130 บาท

Pumpkin Soup – ซุปฟักทอง

น้ำซุบฟักทองเคี่ยวจนเนื้อละเอียดหอมละมุนเช่นกัน
ราคา 90 บาท
 นอกจากนี้ยังมีเมนูน้ำปั่นพื่อสุขภาพอีกหลายเมนูต้องสั่งนะค่ะที่นี้หวานน้อย แต่คงความเข้มข้นในรสชาติของเนื้อผลไม้

ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดใช้  

ตรุษจีนนี้มา Getfresh  อิ่มอร่อย สุขภาพดี พร้อมจัดราคาพิเศษ 
 เพียงทานอาหารที่ getfresh ครบ 300 บาท (ต่อใบเสร็จ) 
มีสิทธิ์จับอังเปาลุ้นรับรางวัล และส่วนลดมากมาย  
ร่วมสนุกได้ตั้งแต่วันนี้จนถึง 31 มกราคม 2563 ห้ามพลาดนะค่ะ!!

Simple. Natural. Delicious.

Getfresh (เก็ตเฟรช)
ที่อยู่ : สาขาแรก 944/1 อาคารศูนย์การค้าสามย่านมิตรทาวน์
ชั้น G ห้องเลขที่ GU017 ถ.พระราม 4 แขวงวังใหม่
เขตปทุมวัน กรุงเทพฯ 10330
เวลาเปิด-ปิด : 10:00 น. – 22:00 น.

Website: www.getfresh.co.th
Facebook: getfreshth
Instagram: getfreshth
 #getfeshth #everydayisafreshstart 
#getfreshdelivery #samyanmitrtown

Share:

Recent Posts

ค้นหาบล็อกนี้

Contact Us ::

📲 (+66) 081 4345154
✉️ Insightoutstory@gmail.com

Add Line📲 Click 👇👇

Translate

🚉 ช.ส.ท.พาเที่ยว นครฯ

Review By Nichapa

POPULAR NEWS

Fanpage Facebook

ป้ายกำกับ

คลังบทความของบล็อก