“ปั่นปันรัก พักเมืองรอง” เปิดศักราชต้นปี 2020 ด้วย 3 จังหวัดภาคตะวันออก สนามที่ 9 นครนาย สนามที่ 10 ปราจีนบุรีและสนามที่ 11 สระแก้ว พร้อมเชิญสามสาวงาม “ จูน บัญฑิตา แก้วเหมือน ”มิสแกรนด์ปราจีนบุรี 2019 “ โกโก้ อารยะ ศุภฤกษ์ ” มิสแกรนต์ไทยแลนด์ 2019 และ “ พลอย พีรชดา ขุนรักษ์ ” รองอันดับ 1 มิสแกรนด์ไทยแลนด์2019 รวมถึง “ น้องยู้ ” สาวสวยน่ารักเป็นทั้งนักปั่น นักวิ่ง และไตรกีฬา เจ้าของเพจสปอร์ตเกิร์ล (bythipwadee) มาร่วมปั่นสร้างสีสันเปิดประสบการณ์ครั้งพิเศษ “ปั่นท่องเที่ยว ชื่นชมภาคตะวันออก”
กิจกรรมจัดขึ้นในเช้าวันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม 2563 ซึ่งปีนี้ฉลองครบรอบจัดขึ้นเป็นสนามที่ 9 สร้างความฮือฮาและตื่นเต้นให้กับนักปั่นกว่า 800 คนที่สมัครเข้าร่วมโครงการจากทั่วประเทศ ที่จะได้ท่องเที่ยวชมเมืองภาคตะวันออกสัมผัสวิถีธรรมชาติใน 3 จังหวัดเมืองรอง และปิดท้ายกับกิจกรรมไฮไลท์สุดพิเศษให้กับนักปั่นที่ทำสถิติปั่นครบ 3 จังหวัด ร่วมชิงเงินรางวัลนักปั่นขึ้นกล้องมูลค่า 10,000 บาท จากผู้สนับสนุนกิจกรรม
นักปั่นท่านใดจะเป็นผู้โชคดีนั้น มาร่วมสนุกลุ้นจับรางวัลไปพร้อมกันได้ในสนามสุดท้ายของไตรมาสแรกแห่งปี ที่จังหวัดสระแก้วเดือนมีนาคมนี้ จัดโดย บริษัทฮาฮาริช จำกัด ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สนับสนุนโดยชมรมสื่อสร้างสรรค์การท่องเที่ยว วิริยะประกันภัย, ขนมปังเลอแปง, เกลิน คอลลา พลัส คิวเท็น, โรงแรมริเวียร่าวิลล่า โรงแรมจันทรารีสอร์ท และโรงแรมโซเฟียรีสอร์ท
กิจกรรมครั้งนี้ถือเป็นการโปรโมทการปั่นจักรยานท่องเที่ยว Sportourism ให้แพร่หลายมากขึ้นชูศักยภาพปั่นจักรยานท่องเที่ยวครั้งยิ่งใหญ่ให้กับ 3 จังหวัดภาคตะวันออก นครนายก, ปราจีนบุรี และสระแก้วให้มีชื่อเสียงเป็นเมืองน่าท่องเที่ยวของประเทศไทยอีกด้วย
กิจกรรม “ปั่นปันรัก พักเมืองรอง” สนามนครนายกใช้เส้นทางจุดเริ่มต้นบริเวณเขื่อนขุนด่านปราการชล สายน้ำแห่งชีวิตที่ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงได้พระราชทานสร้างขึ้นตามแนวพระราชดำริ ตัวเขื่อนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติสีเขียวนานาชนิดอันสวยงาม จากนั้นปั่นไปตามเส้นทางผ่านซุ้มเฉลิมพระเกียรติไปยังน้ำตกนางรอง น้ำตกขนาดกลางซึ่งมีอ่างเก็บน้ำที่ไหลลงมาเป็นชั้นๆ เป็นที่นิยมท่องเที่ยวช่วงฤดูหนาวเพราะจะเห็นหมอกปกคลุมไปทั่วบริเวณอย่างสวยงาม และปั่นต่อไปยังน้ำตกสาริกาอีกหนึ่งน้ำตกที่มีจุดเด่นของน้ำที่ไหลลงมาเป็นระดับถึง 9 ชั้น มีสะพานทอดข้ามเพื่อมองเห็นน้ำตกได้อย่างชัดเจน
จากนั้นปั่นผ่านไปยัง อบต.สาริกา มุ่งหน้าสู่อุทยานพระพิฆเนศที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีความสูงถึง 9 เมตร ทัพนักปั่นก็นำขบวนขับผ่านไปยังวัดเขาแดงและวัดเขาน้อยซึ่งเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวนครนายกให้ความเคารพนับถืออย่างมาก และปั่นต่อไปจนมาถึงหินกอง ชมวิวทิวทัศน์สองข้างทางมองดูธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ มาถึงจุดแวะพักที่ 1 คืออ่างเก็บน้ำห้วยปรือ โครงการอ่างเก็บน้ำตามแนวพระราชดำริ ร.9 สัมผัสแสงเช้าชมพระอาทิตย์ขึ้น โดดเด่นด้วยภูมิประเทศโดยรอบที่เป็นภูเขาคงความสวยงามตามธรรมชาติ จากนั้นออกจากจุดแวะพักที่ 1 ย้อนกลับเส้นทางเดิมห้วยปรือ-ประชาเกษมโดยเลี้ยวขวาที่แยกน้ำตกลานรักผ่านวัดเขาแดง และปั่นจนถึงสี่แยกประชาเกษมผ่านวัดเขานางบวชวัดสำคัญของจังหวัดนครนายกสถานที่สักการะรอยพระพุทธบาทจำลองซึ่งประดิษฐานอยู่ภายในพระมณฑปบนยอดเขา ต่อจากนั้นปั่นไปสามแยกคีรีวัน แล้วเลี้ยวซ้ายสู่ถนนศรีนาวา-เขื่อนขุนด่าน
แวะจุดพักที่2 วัดคีรีวัน ตรงข้ามวัดยังมี “ตลาดต้องชม เป็นตลาดตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงแบบถนนคนเดินในหมู่บ้านเล็กๆขายสินค้าอยู่ริมสองฝั่งถนน สัมผัสถึงความสงบเงียบและวัฒนธรรมประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์อันสวยงามแบบวิถีชีวิตของชาวบ้านที่มีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 หลังจากนั้นนักปั่นออกจากจุดแวะพักที่2 มุ่งหน้าบนถนนศรีนาวา-เขื่อนขุนด่าน ผ่านสวนศรียา และปั่นต่อไปเรื่อยๆ ผ่านอบต.หินตั้ง แล้วเลี้ยวขวาที่สี่แยกหุบเมย จากนั้นปั่นตรงไปจนถึงสี่แยกกังหันแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ Bike Lane ถนนที่อยู่บนสันเขื่อนขุนด่านเลียบคลองส่งน้ำกรมชลประทานด้วยระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตรเป็นเส้นทางท่ามกลางภูเขา มองเห็นทิวทัศน์สวยงาม ไปตามถนนแนวรั้วสำนักงานโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนขุนด่านปราการชล แล้วเลี้ยวขวาประตู 2 ของเขื่อนขุนด่านปราการชล ปั่นมุ่งสู่จุดสิ้นสุดคือ ลานเขื่อนขุนด่านปราการชล
กิจกรรมจัดขึ้นในเช้าวันอาทิตย์ที่ 26 มกราคม 2563 ซึ่งปีนี้ฉลองครบรอบจัดขึ้นเป็นสนามที่ 9 สร้างความฮือฮาและตื่นเต้นให้กับนักปั่นกว่า 800 คนที่สมัครเข้าร่วมโครงการจากทั่วประเทศ ที่จะได้ท่องเที่ยวชมเมืองภาคตะวันออกสัมผัสวิถีธรรมชาติใน 3 จังหวัดเมืองรอง และปิดท้ายกับกิจกรรมไฮไลท์สุดพิเศษให้กับนักปั่นที่ทำสถิติปั่นครบ 3 จังหวัด ร่วมชิงเงินรางวัลนักปั่นขึ้นกล้องมูลค่า 10,000 บาท จากผู้สนับสนุนกิจกรรม
นักปั่นท่านใดจะเป็นผู้โชคดีนั้น มาร่วมสนุกลุ้นจับรางวัลไปพร้อมกันได้ในสนามสุดท้ายของไตรมาสแรกแห่งปี ที่จังหวัดสระแก้วเดือนมีนาคมนี้ จัดโดย บริษัทฮาฮาริช จำกัด ร่วมกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สนับสนุนโดยชมรมสื่อสร้างสรรค์การท่องเที่ยว วิริยะประกันภัย, ขนมปังเลอแปง, เกลิน คอลลา พลัส คิวเท็น, โรงแรมริเวียร่าวิลล่า โรงแรมจันทรารีสอร์ท และโรงแรมโซเฟียรีสอร์ท
กิจกรรมครั้งนี้ถือเป็นการโปรโมทการปั่นจักรยานท่องเที่ยว Sportourism ให้แพร่หลายมากขึ้นชูศักยภาพปั่นจักรยานท่องเที่ยวครั้งยิ่งใหญ่ให้กับ 3 จังหวัดภาคตะวันออก นครนายก, ปราจีนบุรี และสระแก้วให้มีชื่อเสียงเป็นเมืองน่าท่องเที่ยวของประเทศไทยอีกด้วย
กิจกรรม “ปั่นปันรัก พักเมืองรอง” สนามนครนายกใช้เส้นทางจุดเริ่มต้นบริเวณเขื่อนขุนด่านปราการชล สายน้ำแห่งชีวิตที่ในหลวง รัชกาลที่ 9 ทรงได้พระราชทานสร้างขึ้นตามแนวพระราชดำริ ตัวเขื่อนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติสีเขียวนานาชนิดอันสวยงาม จากนั้นปั่นไปตามเส้นทางผ่านซุ้มเฉลิมพระเกียรติไปยังน้ำตกนางรอง น้ำตกขนาดกลางซึ่งมีอ่างเก็บน้ำที่ไหลลงมาเป็นชั้นๆ เป็นที่นิยมท่องเที่ยวช่วงฤดูหนาวเพราะจะเห็นหมอกปกคลุมไปทั่วบริเวณอย่างสวยงาม และปั่นต่อไปยังน้ำตกสาริกาอีกหนึ่งน้ำตกที่มีจุดเด่นของน้ำที่ไหลลงมาเป็นระดับถึง 9 ชั้น มีสะพานทอดข้ามเพื่อมองเห็นน้ำตกได้อย่างชัดเจน
จากนั้นปั่นผ่านไปยัง อบต.สาริกา มุ่งหน้าสู่อุทยานพระพิฆเนศที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีความสูงถึง 9 เมตร ทัพนักปั่นก็นำขบวนขับผ่านไปยังวัดเขาแดงและวัดเขาน้อยซึ่งเป็นวัดศักดิ์สิทธิ์ที่ชาวนครนายกให้ความเคารพนับถืออย่างมาก และปั่นต่อไปจนมาถึงหินกอง ชมวิวทิวทัศน์สองข้างทางมองดูธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ มาถึงจุดแวะพักที่ 1 คืออ่างเก็บน้ำห้วยปรือ โครงการอ่างเก็บน้ำตามแนวพระราชดำริ ร.9 สัมผัสแสงเช้าชมพระอาทิตย์ขึ้น โดดเด่นด้วยภูมิประเทศโดยรอบที่เป็นภูเขาคงความสวยงามตามธรรมชาติ จากนั้นออกจากจุดแวะพักที่ 1 ย้อนกลับเส้นทางเดิมห้วยปรือ-ประชาเกษมโดยเลี้ยวขวาที่แยกน้ำตกลานรักผ่านวัดเขาแดง และปั่นจนถึงสี่แยกประชาเกษมผ่านวัดเขานางบวชวัดสำคัญของจังหวัดนครนายกสถานที่สักการะรอยพระพุทธบาทจำลองซึ่งประดิษฐานอยู่ภายในพระมณฑปบนยอดเขา ต่อจากนั้นปั่นไปสามแยกคีรีวัน แล้วเลี้ยวซ้ายสู่ถนนศรีนาวา-เขื่อนขุนด่าน
แวะจุดพักที่2 วัดคีรีวัน ตรงข้ามวัดยังมี “ตลาดต้องชม เป็นตลาดตามแนวเศรษฐกิจพอเพียงแบบถนนคนเดินในหมู่บ้านเล็กๆขายสินค้าอยู่ริมสองฝั่งถนน สัมผัสถึงความสงบเงียบและวัฒนธรรมประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์อันสวยงามแบบวิถีชีวิตของชาวบ้านที่มีมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 หลังจากนั้นนักปั่นออกจากจุดแวะพักที่2 มุ่งหน้าบนถนนศรีนาวา-เขื่อนขุนด่าน ผ่านสวนศรียา และปั่นต่อไปเรื่อยๆ ผ่านอบต.หินตั้ง แล้วเลี้ยวขวาที่สี่แยกหุบเมย จากนั้นปั่นตรงไปจนถึงสี่แยกกังหันแล้วเลี้ยวซ้ายเข้าสู่ Bike Lane ถนนที่อยู่บนสันเขื่อนขุนด่านเลียบคลองส่งน้ำกรมชลประทานด้วยระยะทางประมาณ 7 กิโลเมตรเป็นเส้นทางท่ามกลางภูเขา มองเห็นทิวทัศน์สวยงาม ไปตามถนนแนวรั้วสำนักงานโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเขื่อนขุนด่านปราการชล แล้วเลี้ยวขวาประตู 2 ของเขื่อนขุนด่านปราการชล ปั่นมุ่งสู่จุดสิ้นสุดคือ ลานเขื่อนขุนด่านปราการชล
#ชมรมสื่อสร้างสรรค์เพื่อการท่องเที่ยว
#ปั่นปันรัก2020
#AmazingThailand
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น