กรุงเทพฯ – กุมภาพันธ์ 2563 – “นิทรรศการการศึกษาอินเดียครั้งที่ 13” หรือ ‘The Great India Education Fair 2020’ (TGIEF) ในปีนี้จะจัดขึ้นในวันที่ 7 – 8 มีนาคม 2563 เวลา 10.00 – 18.00 น. ณ สามย่านมิตรทาวน์ ฮอลล์ชั้น 5 ผู้สนใจเข้าร่วมงานได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย”
จากความสำเร็จด้านการพัฒนาระบบการศึกษาของประเทศอินเดีย ทำให้อินเดียเป็นประเทศที่มีเครือข่ายสถาบันการศึกษาใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ซึ่งประกอบด้วยมหาวิทยาลัย 659 แห่ง วิทยาลัยด้านวิศวกรรมศาสตร์ 3,393 แห่ง และวิทยาลัยด้านการจัดการ 3,900 แห่ง สามารถผลิตบุคคลากรที่มีความสามารถเฉพาะทางระดับโลกมากมาย และเป็นแหล่งรวมนักวิทยาศาสตร์และวิศวกร ซึ่งปัจจุบันทำงานอยู่ทั่วทุกมุมโลก
ซานจีฟ โบเลีย ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัท Afairs Exhibitions & Media Pvt. Ltd. ผู้จัดงานนิทรรศการ TGIEF กล่าวว่า “งานนิทรรศการของเราเป็นศูนย์กลางการพบปะที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ปกครอง และนักเรียนในประเทศไทย กับเจ้าหน้าที่จากสถาบันการศึกษาในอินเดียโดยตรงแบบตัวต่อตัว เรามีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่านิทรรศการนี้จะเป็นศูนย์กลางทำให้ทุกคนเข้าใจระบบการศึกษาของอินเดียมากขึ้น รวมถึงการบริหารจัดการของสถาบันการศึกษาในอินเดียที่ผสมผสานวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมเข้ากับวิธีการสอนยุคใหม่ สภาพแวดล้อมในการเรียนจากหลากหลายวัฒนธรรม และโปรแกรมการเรียนที่มีค่าใช้จ่ายอย่างเหมาะสม”
ที่ผ่านมาผู้ปกครองต่างเล็งเห็นว่า การศึกษาของอินเดียเป็นย่างก้าวที่สำคัญของการวางแผนชีวิตตั้งแต่วัยเรียนสู่วัยทำงาน และมีส่วนช่วยเปิดโอกาสมากมาย เช่น ได้ทำงานในบริษัทที่มั่นคงระดับโลก ได้รับค่าตอบแทนสูง เป็นต้น
ภายในนิทรรศการจะมีการออกบูธของมหาวิทยาลัยชั้นนำ วิทยาลัย และสถาบันการศึกษาระดับสูงอีกหลากหลายสถาบัน ซึ่งเปิดสอนในระดับอนุปริญญา ปริญญาตรี และปริญญาโท ในสาขาวิชาต่าง ๆ เช่น การแพทย์ เวชศาสตร์ ทันตศาสตร์ การจัดการ ไอที วิศวกรรม แอนิเมชั่น เป็นต้น มาพร้อมข้อเสนอพิเศษมากมาย โดยมีหลักสูตร ‘ICSE’ และ ‘CBSE’ ของอินเดีย และหลักสูตรนานาชาติ เช่น ‘IB - International Baccalaureate’ และ ‘IGCSE’ ซานจีฟ โบเลีย กล่าวเพิ่มเติมว่า “หากคุณเลือกเรียนหลักสูตรสามปี ด้านการจัดการธุรกิจ หรือด้านศิลปะ เมื่อคำนวณค่าเล่าเรียนและค่าครองชีพแล้ว ค่าใช้จ่ายที่อินเดียจะอยู่ที่ราว ๆ 10,000 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งคุณอาจต้องจ่ายสูงกว่านี้อีกมากหากเรียนที่สหรัฐอเมริกา หรือสหราชอาณาจักร (อังกฤษ)”
ปัจจุบัน “TGIEF” มีสถาบันการศึกษาจำนวนมากกว่าห้าร้อยสถาบันร่วมเดินทางและออกบูธแนะนำการศึกษาในประเทศต่าง ๆ อาทิ มองโกเลีย กาตาร์ เกาหลีใต้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เนปาล ภูฎาน มาเลเซีย บังคลาเทศ และศรีลังกา เป็นต้น TGIEF ในประเทศไทยได้รับการสนับสนุนจาก India – Thai Chamber of Commerce และ Indian Social Club & Indian Association in Thailand.
สำหรับงาน “นิทรรศการการศึกษาอินเดียครั้งที่ 13” หรือ ‘The Great India Education Fair 2020’ (TGIEF) ในปีนี้ จะจัดขึ้นในวันที่ 7 – 8 มีนาคม 2563 เวลา 10.00 – 18.00 น. ณ สามย่านมิตรทาวน์ ฮอลล์ชั้น 5 ผู้สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมงานโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายได้ที่ https://bit.ly/2UaUq1s และรับชมภาพบรรยากาศงานนิทรรศการการศึกษาอินเดียได้ที่ https://youtu.be/NgJLxPYQCso
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการศึกษาอินเดียได้ที่ https://www.facebook.com/TheGreatIndiaEducationFairThailand/
หรือ www.afairs.com และอีเมลล์ info@afairs.com
จากความสำเร็จด้านการพัฒนาระบบการศึกษาของประเทศอินเดีย ทำให้อินเดียเป็นประเทศที่มีเครือข่ายสถาบันการศึกษาใหญ่เป็นอันดับสองของโลก ซึ่งประกอบด้วยมหาวิทยาลัย 659 แห่ง วิทยาลัยด้านวิศวกรรมศาสตร์ 3,393 แห่ง และวิทยาลัยด้านการจัดการ 3,900 แห่ง สามารถผลิตบุคคลากรที่มีความสามารถเฉพาะทางระดับโลกมากมาย และเป็นแหล่งรวมนักวิทยาศาสตร์และวิศวกร ซึ่งปัจจุบันทำงานอยู่ทั่วทุกมุมโลก
ซานจีฟ โบเลีย ผู้ก่อตั้งและกรรมการผู้จัดการ บริษัท Afairs Exhibitions & Media Pvt. Ltd. ผู้จัดงานนิทรรศการ TGIEF กล่าวว่า “งานนิทรรศการของเราเป็นศูนย์กลางการพบปะที่สมบูรณ์แบบสำหรับผู้ปกครอง และนักเรียนในประเทศไทย กับเจ้าหน้าที่จากสถาบันการศึกษาในอินเดียโดยตรงแบบตัวต่อตัว เรามีความเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่านิทรรศการนี้จะเป็นศูนย์กลางทำให้ทุกคนเข้าใจระบบการศึกษาของอินเดียมากขึ้น รวมถึงการบริหารจัดการของสถาบันการศึกษาในอินเดียที่ผสมผสานวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมเข้ากับวิธีการสอนยุคใหม่ สภาพแวดล้อมในการเรียนจากหลากหลายวัฒนธรรม และโปรแกรมการเรียนที่มีค่าใช้จ่ายอย่างเหมาะสม”
ที่ผ่านมาผู้ปกครองต่างเล็งเห็นว่า การศึกษาของอินเดียเป็นย่างก้าวที่สำคัญของการวางแผนชีวิตตั้งแต่วัยเรียนสู่วัยทำงาน และมีส่วนช่วยเปิดโอกาสมากมาย เช่น ได้ทำงานในบริษัทที่มั่นคงระดับโลก ได้รับค่าตอบแทนสูง เป็นต้น
ภายในนิทรรศการจะมีการออกบูธของมหาวิทยาลัยชั้นนำ วิทยาลัย และสถาบันการศึกษาระดับสูงอีกหลากหลายสถาบัน ซึ่งเปิดสอนในระดับอนุปริญญา ปริญญาตรี และปริญญาโท ในสาขาวิชาต่าง ๆ เช่น การแพทย์ เวชศาสตร์ ทันตศาสตร์ การจัดการ ไอที วิศวกรรม แอนิเมชั่น เป็นต้น มาพร้อมข้อเสนอพิเศษมากมาย โดยมีหลักสูตร ‘ICSE’ และ ‘CBSE’ ของอินเดีย และหลักสูตรนานาชาติ เช่น ‘IB - International Baccalaureate’ และ ‘IGCSE’ ซานจีฟ โบเลีย กล่าวเพิ่มเติมว่า “หากคุณเลือกเรียนหลักสูตรสามปี ด้านการจัดการธุรกิจ หรือด้านศิลปะ เมื่อคำนวณค่าเล่าเรียนและค่าครองชีพแล้ว ค่าใช้จ่ายที่อินเดียจะอยู่ที่ราว ๆ 10,000 เหรียญดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งคุณอาจต้องจ่ายสูงกว่านี้อีกมากหากเรียนที่สหรัฐอเมริกา หรือสหราชอาณาจักร (อังกฤษ)”
ปัจจุบัน “TGIEF” มีสถาบันการศึกษาจำนวนมากกว่าห้าร้อยสถาบันร่วมเดินทางและออกบูธแนะนำการศึกษาในประเทศต่าง ๆ อาทิ มองโกเลีย กาตาร์ เกาหลีใต้ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ เนปาล ภูฎาน มาเลเซีย บังคลาเทศ และศรีลังกา เป็นต้น TGIEF ในประเทศไทยได้รับการสนับสนุนจาก India – Thai Chamber of Commerce และ Indian Social Club & Indian Association in Thailand.
สำหรับงาน “นิทรรศการการศึกษาอินเดียครั้งที่ 13” หรือ ‘The Great India Education Fair 2020’ (TGIEF) ในปีนี้ จะจัดขึ้นในวันที่ 7 – 8 มีนาคม 2563 เวลา 10.00 – 18.00 น. ณ สามย่านมิตรทาวน์ ฮอลล์ชั้น 5 ผู้สนใจลงทะเบียนเข้าร่วมงานโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายได้ที่ https://bit.ly/2UaUq1s และรับชมภาพบรรยากาศงานนิทรรศการการศึกษาอินเดียได้ที่ https://youtu.be/NgJLxPYQCso
ติดตามข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการศึกษาอินเดียได้ที่ https://www.facebook.com/TheGreatIndiaEducationFairThailand/
หรือ www.afairs.com และอีเมลล์ info@afairs.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น