โปรโมชั่นแรก
JOURNEY OF LOVE
โปรแรกของเดือนแห่งความรักนี้ สำหรับ FC สีฟ้า ชวนร่วมการเดินทาง บนเส้นทางสายอาหาร ซึ่งปีนี้ก้าวเข้าสู่ปีที่ 84 แล้วค่ะ ทุกเมนูทุกจานเราปรุงด้วยความรักความใส่ใจอย่างดีที่สุด เพื่อลูกค้าที่เรารักด้วยวัตถุดิบชั้นดีมาปรุงสารพัดเมนูโปรด การันตีความอร่อยแบบต้นตำรับอย่างแน่นอน
มากันค่ะ ร่วมเดินทางไปกับสีฟ้า กินให้ครบสะสมเมนู สีฟ้า ที่คุณรัก
• กินครบ 10 เมนู เลือกรับฟรี!!! 1 เมนูโปรด ข้าวหน้าไก่ราชวงศ์ไข่ดาว หรือ บะหมี่แห้งราชวงศ์
• กินสะสมครบ 20 เมนู รับฟรี! Happiness Bag Duo Set มูลค่ารวม 350 บาท
กับ 20 เมนูที่คุณรัก สะสมครบ แล้ว รับเลยฟรีๆ กระเป๋า Happiness Bag Duo Set มูลค่ารวม 350 บาท มี 2 แบบให้เลือกได้ตามใจชอบ FC สีฟ้า ต้องไม่พลาดนะค่ะ
เลือกได้ใน 20 เมนู สีฟ้า ที่คุณรัก นี้เลยค่ะ
1. ข้าวหน้าไก่ราชวงศ์ข่ดาว 11.เกี๊ยวกรอบ
2. บะหมี่แห้งราชวงศ์ 12.หมูสะเต๊ะ
3. บะหมี่แห้งอัศวิน 13. เป็ดย่างสีฟ้า
4. อีหมี่ 14. ขนมจีบ
5. วุ้นเส้นน้ำต้มยำสูตรมะนาว 15. ปอเปี๊ยะสด
6. บัวลอยเผือก 16. ขนมเบื้องญวน
7. ข้าวไข่ข้นกุ้ง 17. กล้วยไข่เชื่อม
8. ผัดไทยกุ้งสด 18. ไอศกรีมทุเรียนเยลลี่
9. ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่สีฟ้า 19. ไอศกรีมสีฟ้าคลาสสิก
10. เย็นตาโฟ 20. ชามะนาวน้ำผึ้ง
มีบัตรให้แสตมป์แบบนี้ค่ะ |
DELICIOUS STATION
เมนูทานเล่น
- ขนมจีบนึ่ง/ทอด
- ขนมเบื้องญวน
- เต้าหู้ทอด (เต้าหู้เผือกหัวไชเท้าทอด)
- ปอเปี๊ยะสด
- บะหมี่แห้งอัศวิน
- วุ้นเส้นน้ำต้มยำสูตรมะนาว
- ข้าวไข่ข้นกุ้ง
- ข้าวคลุกกะปิ
- ข้าวหน้าเป็ดย่างสีฟ้า
- ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่
- ชามะนาวน้ำผึ้ง
- ฟรุ๊ตพั๊นซ์
- กาแฟเย็น
- ชาเย็น
จับคู่ความอร่อยได้ด้วยตัวคุณเอง เซ็ทสำหรับ 2 ท่าน กับเมนูหมวดกับข้าวเมนูโปรดของคุณ อิ่มครบจบในเซ็ทเดียว ราคาพิเศษ 650 บาท จากปกติ 825 บาท เลือก 1 เมนู / หมวด เครื่องดื่มสามารถเลือกได้ 2 แก้ว
เมนูทานเล่น
- ขนมจีบนึ่ง/ทอด
- หมูสะเต๊ะสูตรต้นตำรับ
- เต้าหู้ทอด (เต้าหู้ เผือก หัวไชเท้าทอด)
- ปอเปี๊ยะสด
- ยำวุ้นเส้น
- ยำถั่วพู
- ลาบเป็ดย่าง
- แกงเผ็ดเป็ดย่าง
- ต้มยำกุ้งทะเล
- แกงพริกขี้หนูเนื้อน่อง
เครื่องดื่ม
- ชามะนาวน้ำผึ้ง
- ฟรุ๊ตพั๊นซ์
- กาแฟเย็น
- ชาเย็น
มาดูหน้าตาเมนูบางส่วนกันค่ะ
ข้าวหน้าไก่ราชวงศ์ไข่ดาว
เป็นเมนูที่โด่งดังจนกลายเป็นชื่อเรียกขานติดปากมาจนถึงปัจจุบันนี้ว่า “ข้าวหน้าไก่ราชวงศ์” เดิมร้านสีฟ้าเป็นร้านแรกที่เสิร์ฟข้าวนึ่งในโถสีขาวเซรามิกแบบไฮโซจริง ๆ โดยสั่งโถมาจากเมืองจีน พอโถจีนแพงขึ้นก็เปลี่ยนมานึ่งข้าวด้วยหม้อดิน แต่หม้อดินก็แตกง่ายก็เลยกลับไปใช้การหุงข้าวแบบสมัยปัจจุบันแทนในที่สุด ส่วนราดหน้าไก่นั้นเดิมเป็นสูตรแต้จิ๋วที่ใช้เฉพาะซีอิ๊วและเหล้าจีน จึงมีสีจืด ๆ แต่ไก่สมัยก่อนเนื้อเหลืองหอม ต่อมาปรับเป็นสูตรไหหลำโดยใส่ซีอิ๊วดำลงไป ที่ขาดไม่ได้คือกุนเชียงทอดน้ำมันอันเป็นเอกลักษณ์ของที่ร้านนี้ ที่นำมาเป็นเครื่องแนมซึ่งสั่งจากร้านเดิมมาตลอดจนถึงปัจจุบัน
อีหมี่
เมนูเด็ดอย่าง ‘อีหมี่’ ก็เหมือนกัน สูตรจะคล้ายกัน แต่ต่างจากเส้นบะหมี่ตรงที่ว่า ส่วนผสมของเส้นอีหมี่จะไม่ใส่ด่าง และตัวเส้นจะโตกว่า เพื่อสร้างความหลากหลายในคุณสมบัติของตัวเส้นแต่ละแบบนั่นเอง ทำให้คุณได้รสสัมผัสที่แตกต่างกัน ส่วนเจ้าไข่ที่ใส่ลงไปก็จะช่วยอุ้มซ้ำซุปเวลานำเส้นอีหมี่ไปอบได้เป็นอย่างดี เมื่ออบจนได้ที่แล้ว เส้นจะอมน้ำซุปจนนุ่ม ตัดกับความกรอบของเส้นที่อยู่ด้านล่างหม้อดินอย่างลงตัว
วุ้นเส้นน้ำต้มยำสูตรมะนาว
อีกหนึ่งเมนูที่เราคัดสรรหยิบมาแนะนาให้คุณลิ้มลอง เมนูที่เราตั้งใจปรุงอย่างพิถีพิถันปรุงด้วยสูตรต้นตำรับ ทีเด็ดอยู่ที่น้าซุป เครื่องต้มยาสูตรที่ สีฟ้า ทำเอง ให้รสชาติจัดจ้าน กลมกล่อม อร่อยแบบไม่ต้องปรุงเพิ่ม
เกี๊ยวกรอบ
ละลายในปากแต่ไม่ละลายในมือ เพราะแป้งที่ใช้ทำเกี๊ยวกรอบคือแป้งชนิดเดียวกับแป้งบะหมี่ของสีฟ้าซึ่งทำมาจากไข่ล้วนๆทำให้ตัวแป้งมีความนุ่มเป็นพิเศษต่างจากเกี๊ยวกรอบทั่วๆไปอีกทั้งเมื่อกัดคำแรก นอกจากความนุ่มที่สัมผัสได้แล้ว ยังได้กลิ่นหอมของไข่ที่จะบังคับให้ต้องหยิบชิ้นต่อไปอย่างปฎิเสธไม่ได้
หมูสะเต๊ะสูตรต้นตำรับ
หมูสะเต๊ะ อาหารคู่บุญอยู่มา 80 ปีโดยเริ่มจากมีคนมาขายหน้าร้านที่ราชวงศ์แล้วเ
ขาเลิกกิจการ ต่อมาภายหลังได้รับภรรยาเข้ามาเป็นครูคอยถ่ายทอดเคล็ดวิชาในการหมักหมู และสูตรการทำน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะ ซึ่งทางสีฟ้าจ่ายค่าเลี้ยงดูให้กับลูกชายเจ้าของต้นตำรับมาตั้งแต่อดีตจนทุกวันนี้ ลักษณะอันโดดเด่นของหมูสะเต๊ะสีฟ้า คือ จะใช้เนื้อหมูสันนอกตัดแต่งพังผืดออกจนหมดเกลี้ยง เหลือไว้แต่เนื้อพอติดมันโดยจะไม่แล่ให้เนื้อหมูแบนติดไม้ แต่จะหั่นเนื้อหมูเต็มชิ้นเสียบไม้ อร่อยได้อย่างเต็มปากเต็มคำ เอาไปหมักกับเครื่องปรุงจนได้หมูเนื้อนุ่มย่างด้วยไฟแรงๆชโลมด้วยกะทิสด ก่อนเสิร์ฟเอาไปคลุกกับน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะสูตรดั้งเดิมที่รับประกันว่าไม่มีใครเหมือนและไม่เหมือนใคร ตำรับโบราณที่เจ้าของเดิมหวงนักหนาแต่ก็ขอมอบไว้ให้กับร้านสีฟ้าแต่เพียงผู้เดียว
เป็ดย่างสีฟ้า
หนึ่งในเมนูที่ “ต้องสั่ง” เมนูหนึ่ง ไม่ใช่เพราะแค่ความอร่อย แต่นี่คือเป็ดย่างตำรับกวางตุ้งแท้ และดั้งเดิมที่ยังคงอยู่คู่คนกรุงเทพฯ มากกว่า 8 ทศวรรษ ส่งผ่านความอร่อยจากรุ่นสู่รุ่น หมักและย่างด้วยสูตรเด็ดจนหนังเป็นสีแดงน้ำตาลธรรมชาติ ส่วนเนื้อเป็ดย่างเมื่อนำน้ำราดจนซึมเข้าไปจนฉ่ำก็พร้อมตักใส่ปากเคี้ยวเพลินในความนุ่มกลมกล่อม ทีเด็ดอยู่ที่น้ำราดและน้ำจิ้ม รสชาติกำลังดี เข้มข้นกลมกล่อมหอมเครื่องเทศแต่ไม่กลบรสชาติของเป็ดย่างเสริมความพิเศษที่น้ำจิ้มสูตรเฉพาะรสชาติไม่เหมือนใครที่มีความอร่อยเป็นเอกลักษณ์เฉพาะของสีฟ้าอย่างแท้จริง
ปอเปี๊ยะสด
ปอเปี๊ยะสดเมนูของว่างยอดนิยมอีกหนึ่งเมนู ด้วยความอร่อยไส้ที่ประกอบด้วย หมูตั้ง เต้าหู้ กุนเชียง ผักต่าง ๆ ราดด้วยน้ำราดที่ปรุงรสจนหอมอร่อยดัดแปลงโดยนำเป็ดย่างตำรับสีฟ้าเพิ่มเข้าไป รับรองว่าเมนูนี้ถูกใจคนชอบกินปอเปี๊ยะสดแน่นอน เหมาะกับเป็นเมนูของว่างรับประทานกับเมนูอาหารจานเดียวอื่น ๆ ของสีฟ้าเป็นอย่างดี
ขนมจีบนึ่ง/ทอด
ขนมจีบ เล็กพริกขี้หนูจริง ๆ ขนมจีบสีฟ้าของแท้ต้องลูกเล็กเท่านั้น แต่อย่าได้ดูถูกไป ถึงแม้จะเล็กแต่ก็มีอายุยืนยาวมาตั้งแต่สมัยราชวงศ์โน่น ทั้งภายในยังประกอบด้วยเครื่องนานาชนิด ทั้งหมู กุ้ง หน่อไม้ ต้นหอม และด้วยการหมักจนได้ที่ ทำให้รับประทานชิ้นแรกกลิ่นของเครื่องเทศก็จะลอยมาเตะจมูกในทันที
เต้าหู้ทอด (เต้าหู้เผือกหัวไชเท้าทอด)
กรอบนอกนุ่มใน นั่นคือคำจำกัดความสำหรับของว่างยอดฮิตที่มักถูกสั่งมาทานเล่นก่อนเข้าสู่อาหารจานหลัก อาหารจานนี้เป็นการรวมของทอดไว้ 3 อย่างด้วยกัน มีเต้าหู้ทอด เผือกทอด และหัวไชเท้าทอด ซึ่งริเริ่มเพิ่มเติมอีกหนึ่งเมนูอร่อยในยุคสยามสแควร์ ประกอบด้วยเต้าหู้ก้อนสด (เปลือกบาง เนื้อขึ้นฟู) เผือก และหัวไชเท้าที่ถูกปรุงมาลงทอดจนเหลืองกรอบ เมื่อกัดเข้าไปจะพบกับความกรอบนอกนุ่มใน เติมเต็มรสชาติด้วยน้ำจิ้มบ๊วย ใส่ถั่วลิสงบดและพริกตำที่วางอยู่ข้างจาน รสชาติเปรี้ยวหวานและเผ็ดเล็กๆของน้ำจิ้มจะช่วยเพิ่มความอร่อยให้กับเต้าหู้เผือกทอดจานนี้ได้อย่างดี
คำว่า “อัศวิน” มีที่มาตั้งแต่สมัยสีฟ้าบนถนนราชวงศ์ เป็นคำที่ใช้เรียกนายตำรวจชั้นผู้ใหญ่ในสมัยนั้น เมื่อกลุ่มอัศวินแวะมากินที่ร้านสีฟ้า ก็นิยมสั่งรายการเป็นพิเศษเพิ่มเครื่องเยอะๆ อาหารชามที่อัศวินสั่งจึงแน่นไปด้วยเครื่องตั้งแต่ เซี่ยงจี้ กุ้ง หมูแดง หมูหวาน ลูกชิ้นปลา ลูกชิ้นกุ้ง ฮื่อก้วย เนื้อไก่ และก้ามปู ลูกค้าอื่นเห็นแล้วอยากกินแบบที่อัศวินกินบ้าง จึงสั่งตาม และเป็นที่มาของอัศวินสีฟ้า เช่น เมนูบะหมี่แห้งอัศวิน
วุ้นเส้นน้ำต้มยำสูตรมะนาว
อีกหนึ่งเมนูที่เราคัดสรรหยิบมาแนะนาให้คุณลิ้มลอง เมนูที่เราตั้งใจปรุงอย่างพิถีพิถันปรุงด้วยสูตรต้นตำรับ ทีเด็ดอยู่ที่น้าซุป เครื่องต้มยาสูตรที่ สีฟ้า ทำเอง ให้รสชาติจัดจ้าน กลมกล่อม อร่อยแบบไม่ต้องปรุงเพิ่ม
เมนูยำ
ยำวุ้นเส้น
เมนูธรรมดาที่อยู่คู่คนไทยกับอาหารไทยมานาน อาหารฮอตฮิตติดชาร์ทมาตั้งแต่ยุคโก๋หลังวังจานนี้ใส่เครื่องปรุงมากมาย ตั้งแต่ วุ้นเส้น กุ้งแห้ง หอมแดง เนื้อกุ้ง เห็ดหูหนู หมูสับ คื่นช่าย ถัวลิสง พริกขี้หนู และน้ำยำปรุงรสแบบฉบับของสีฟ้า ความลงตัวของเครื่องปรุงที่ผสมผสานเข้ากันจนได้เมนูที่จี๊ดจ๊าดไม่เหมือนใครและเป็นเมนูโปรดของใครๆ อีกหลายๆ คน
ยำถั่วพู
ถั่วพูฝักอ่อนหั่นซอยบางๆ ลวกพอให้สุกกรอบ นำมาคลุกเคล้ากับหมูสับและกุ้งสับ ปรุงด้วยน้ำยำรสเข้มข้นอมหวานอมเปรี้ยวด้วยน้ำมะขาม ตัดรสเผ็ดเล็กน้อยด้วยพริกทอด ก่อนเสิร์ฟตกแต่งด้วยไข่ต้มโรยด้วยมะพร้าวคั่ว ถั่วลิสงคั่ว หยอดด้วยหัวกะทิ เป็นอาหารทานเล่นเรียกน้ำย่อยได้ดีทีเดียว ตรงตามหลักสูตรกับข้าวไทยโบราณและสืบทอดมาจนถึงทุกวันนี้
ลาบเป็ดย่าง
อาหารฟิวชั่นยุคดั้งเดิมของประเทศไทย ในยุคสีฟ้าสยามที่พัฒนามากจากการผสมผสานเป็ดย่างสีฟ้า อาหารจีนที่ปรุงมาอย่างดี ที่มีทั้งความหอม ชุ่มฉ่ำ หวานมัน กับวิธีการลาบแบบไทยไทย ที่มีทั้ง หอมแดง ผักชีฝรั่ง ต้นหอม ข้าวคั่ว พริกป่น น้ำปลา มะนาว และน้ำตาลปี๊บ ความลงตัวของสองคุณภาพไทย-จีนที่ทำให้ทั้งลูกค้าชาวไทย และชาวไทยเชื้อสายจีน รับประทานกันอย่างเอร็ดอร่อยมาเป็นระยะเวลายาวนาน
เมนูแกง
แกงเผ็ดเป็ดย่างในยุคกลางของสีฟ้าหลังวังบูรพา เป็นช่วงที่ได้แม่ครัวอาหารไทยฝีมือดีมาเสริมกำลัง นับแต่นั้นมา เมนูอาหารไทยหลากหลายเมนูก้อพรั่งพรูออกมาติดอันดับยอดนิยมในบรรดาลูกค้าขาประจำ เมนูหนึ่งที่ทำให้ผู้คนประหลาดใจที่แม่ครัวทำออกมาก็เมนูนี้นี่แหละ แกงเผ็ดเป็ดย่าง ซึ่งแม่ครัวคนนี้บอกว่าเป็ดย่างของสีฟ้าอร่อยมาก จึงมั่นใจว่าจะทำแกงเผ็ดเป็ดย่างให้ได้อร่อยที่สุดนับแต่นั้นมาแกงเผ็ดเป็ดย่างจึงเป็นอีกหนึ่งตำนานอาหารอร่อย 80 ปีสีฟ้า
เครื่องดื่ม
ชามะนาวน้ำผึ้ง , ฟรุ๊ตพั๊นซ์ , กาแฟเย็น , ชาเย็น
ชามะนาวน้ำผึ้งแท้จากธรรมชาติของสีฟ้า ชงมาตั้งแต่ต้นตำรับดั้งเดิมสมัยราชวงศ์ เริ่มจากใบชาชั้นดีคู่กับมะนาวหอม ๆ เคล็ดลับที่ทำให้ชามะนาวแก้วนี้ไม่เหมือนใคร ก็คือน้ำผึ้งแท้จากธรรมชาติที่นำมาใส่จนเป็นสูตรเฉพาะ ดื่มทีไรก็ชื่นใจ และให้รสชาติอันเป็นเอกลักษณ์ แค่ได้กลิ่นก็นึกถึงสีฟ้าแล้วล่ะ
ร้านสีฟ้า
47/21 Soi Bangkok Bazar
Ratchadamri Rd., Lumpini Patumwan,
Bangkok 10330
Tel. 0 2655 0251-60
Fax. 0 2253 7806
Website :: https://seefah.com/
Facebook ::https://www.facebook.com/seefahfanpage
ทางร้านมีบริการส่งถึงบ้านแล้วนะค่ะ
โทรที่นี่เลย :: 02-800-8080
ข้อมูลแนะนำ ร้านอาหารสีฟ้าเริ่มต้นขึ้นเมื่อ 80 ปีที่แล้ว ชายผู้ข้ามน้ำข้ามทะเลมาจากเมืองจีน ต่อสู้ดิ้นรนทำงานในเมืองไทย จนวันหนึ่งได้ร่วมมือกับเพื่อนอีกคน ร่วมกันก่อตั้งร้านอาหาร ณ อาคารเล็ก ๆ ห้องเดียวชั้นเดียวไม่มีชื่อย่านราชวงศ์ เมื่อปี พ.ศ. 2479 ร้านนี้ขายแต่ไอศกรีม กาแฟ และผลไม้ แช่แข็งเท่านั้น แต่กิจการก็ดำเนินด้วยดีจนต้องขยายร้านมากห้องขึ้น เมื่อร้านอาหารบริเวณรอบข้างปิดตัวลง ร้านจึงริเริ่มทำอาหารคาวด้วยตัวเอง โดยจ้างกุ๊กตกงานจากร้านดังกล่าวมาคิดสูตรซึ่งส่วนมากเป็นอาหารจีน ด้วยความที่เป็นย่านมีคนชั้นสูงเป็นเจ้าของตึก ลูกค้าของร้านในช่วงนั้นจึงเป็นเหล่าไฮโซ คนมีระดับที่ขับรถมากิน บ้างก็นั่งกินในรถ โดยมีถาดอาหารติดรถเสิร์ฟ ถือเป็นภาพที่คุ้นตาสำหรับคนแถวนั้น ต่อมามีการขยับขยายร้านอีกครั้ง ด้วยการทาสีผนังใหม่เป็นสีฟ้า แสงไฟจากหลอดนีออนสะท้อนกับผนังในร้านทำให้ผู้คนทั่วไปที่ผ่านมาเห็นเรียก ร้านอาหารแห่งราชวงศ์นี้ว่า “สีฟ้า”
ร้านสีฟ้าช่วงนี้มีการเปลี่ยนโครงสร้างจากธุรกิจครอบครัวให้มีการระบบการ จัดการที่เป็นระเบียบมากขึ้น โดยยังคงความสัมพันธ์ในองค์กรให้มีความเป็นครอบครัวซึ่งเป็นหัวใจสำคัญในการ ทำงานของสีฟ้า มีการออกแบบร้านใหม่ให้ทันสมัยโดยใช้สถาปนิกเข้ามาทำ และตัดสินใจปิดร้านที่หลังวังเพราะความซบเซาของพื้นที่ที่มีความนิยมเสื่อม ถอยไปตามกาลเวลา แต่ก็ได้เปิดสาขาเพิ่มที่ ราชดำริ ตึกชาญอิสสระ อาคารธนิยะพลาซ่า ซึ่งต้องปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยที่ผ่านไป โดยที่ยังไม่เสียเอกลักษณ์ของความเป็นสีฟ้า
เมื่อกาลเวลาล่วงเลยไป สีฟ้าเองก็ไม่คิดที่จะหยุดนิ่งอยู่กับที่ในด้านการตกแต่งและการดีไซน์ร้าน มีการปรับเปลี่ยนตัวเองให้ทันกับยุคสมัย ด้วยความที่สีฟ้าเป็นร้านที่พัฒนามาจากรากเหง้าตลอดมา ดังนั้น แนวทางการตกแต่งร้านในยุคใหม่ จึงไม่สามารถที่จะละทิ้งความเป็นรากเหง้าดั้งเดิมจากสีฟ้าในแต่ละยุคได้ ไม่ว่าจะเป็นยุคราชวงศ์ ยุคหลังวังบูรพา บริษัท Urban Design คือผู้ออกแบบและปรับโฉมของสีฟ้าโดยคำนึงถึงกรอบที่ว่า ร้านสีฟ้ารูปแบบใหม่จะต้องมีลักษณะที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างความทันสมัย มีมูดแอนด์โทนของความโมเดิร์นและจะต้องเข้ากับบรรยากาศของสีฟ้าในยุคแรกเริ่ม
การนำความรู้สึก “ย้อนอดีต” เข้ามาผสมผสานกับความทันสมัยนั้น สีฟ้าเลือกที่จะใช้ภาพถ่ายขาวดำ มาเป็นตัวเล่าเรื่องเพื่อให้เกิดความรู้สึกเหมือนย้อนกลับไปในบรรยากาศของสี ฟ้ายุคอดีต อาทิ ภาพถ่ายย่านเยาวราช ย่านราชวงศ์ หรือแม้แต่เก้าอี้เชคโกโบราณ เมื่อ 30 ปีที่แล้วถูกนำกลับมาซ่อมแซมใหม่และนำมาใช้งานได้จริง ผสานเข้ากับเครื่องเซรามิกลายไชน่าบลู กระเบื้องปูพื้นลายโบราณยุค 60’s ทำให้บรรยากาศเก่าๆของสีฟ้าถูกปลุกให้มีชีวิตชีวา
ขึ้นอีกครั้ง และเพราะชื่อร้าน “สีฟ้า” ซึ่งมีที่มาจากโคมไฟฟ้า หลอดไฟนีออนที่สะท้อนกับผนังในร้านที่ทาสีฟ้า จึงมีการหยิบเอาจุดกำเนิดเหล่านั้นมาเป็นส่วนแทรกเข้าไปคือ ออกแบบโคมไฟในร้านให้มีโทนสีฟ้า ผสมกับโคมไฟสีขาวนวลเพื่อให้เกิดบรรยากาศที่คงความคลาสสิกเอาไว้
สีฟ้า เป็นผู้ให้บริการอาหารไทย-จีน ต้นตำรับราชวงศ์ นับตั้งแต่ยุคบนถนนราชวงศ์ มาจนถึงปัจจุบัน 83 ปี เจ้าของสโลแกน “อย่าลืม…สีฟ้า…เวลาหิว” จนกลายเป็นตำนานร้านอาหารคู่เมืองไทย โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา สีฟ้าไม่ได้หยุดนิ่งที่จะพัฒนาธุรกิจและบริการให้เข้ากับยุคสมัย ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งร้านให้มีบรรยากาศในการรับประทานอาหารที่สดใสและดูทันสมัย หากแต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงไว้ไม่ลดเลือนลงไปแม้แต่น้อย นั้นคือคุณภาพและรสชาติของอาหาร ซึ่งถูกถ่ายทอดต่อๆ กันมาอย่างบรรเจียดบรรจง จากรุ่นสู่รุ่นมาจนถึงปัจจุบัน
ปัจจุบัน สีฟ้า มีสาขาทั้งหมด 20 สาขา ได้แก่ สยาม, ธนิยะ, เมเจอร์รัชโยธิน, ทองหล่อ, แฟชั่นไอส์แลนด์, โลตัสพระราม 4, โลตัสพระราม 3, เทอร์มินัล 21, โลตัสประชาชื่น, โลตัสลาดพร้าว, ฟิวเจอร์พาร์ค รังสิต, เซ็นทรัลเวิลด์, เอสพลานาด รัชดา, เอสพลานาด งามวงศ์งาน-แคราย, เดอะเซอร์เคิล ราชพฤกษ์, โรงพยาบาลรามาธิบดี, สาธร, เมกาบางนา,เซ็นทรัลพลาซา พระราม3, เซ็นทรัลพลาซ่า เวสต์เกต
#อย่าลืมสีฟ้าเวลาหิว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น