คุณสุรไกร ไพรสานฑ์กุล กรรมการผู้จัดการกลุ่มบริษัทในเครือไทยซิน กรุ๊ป และ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอที คอสเมติค (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวว่า เครือไทยซิน กรุ๊ป เป็นบริษัทเทรดดิ้งแถวหน้าของเมืองไทยที่มีอายุกว่า 70 ปี เป็นผู้นำเข้าและบุกเบิกแบรนด์ชั้นนำทั้งจากญี่ปุ่นและยุโรปมากมาย ล่าสุดในไตรมาส3 ปี2563 มีการเปิดตัว Business Unitใหม่ ซึ่งถือเป็นการขยับตัวครั้งใหญ่หลังจากที่เครือไทยซิน กรุ๊ป เราวางแผนล่วงหน้ากันมาระยะหนึ่ง ภายใต้การนำของผมซึ่งเป็นทายาทเจเนอเรชั่น 3 เครือไทยซิน
กรุ๊ปเรามีธุรกิจกลุ่มภัตตาคารอาหารญี่ปุ่นมาหลายสิบปีแล้วซึ่งจับกลุ่มลูกค้ารายได้ปานกลางถึงสูง ซึ่งปัจจุบันเรามี Brand อะคิโยชิ 6 สาขาเป็นหลักและยังมี Brand ใหม่ๆเข้ามาเสริมตลอดแต่ก็ยังเป็นกลุ่มธุรกิจภัตตาคาร เรายังขาดผลิตภัณฑ์กลุ่มอาหารสำเร็จรูปซึ่งสามารถทำตลาดได้กว้างกว่า เข้าถึงลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ เหมาะกับการค้าในยุคไร้พรมแดนอย่างยุค AEC ซึ่งเราได้วางนโยบายให้เครือไทยซิน กรุ๊ป ต้องเป็นเทรดดิ้งที่มี Dynamic และมี Flexibility สูงสามารถปรับตัวเข้ากับสภาวะทางธุรกิจไร้พรมแดนที่เปลี่ยนไปเร็วมากๆ การก้าวเข้าสู่ธุรกิจในกลุ่มอาหารสำเร็จรูปพร้อมทานในช่วงเวลานี้จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด ที่จะพาเครือไทยซิน กรุ๊ป ไปสู่ประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่ม CLMV
โดยมีผลิตภัณฑ์เรือธง(Flagship Product) ตัวแรกคือ อาหารกระป๋องแบรนด์ “ปาปี้” การทำตลาดตามแบบฉบับของผมนั้นความ "เร็ว" คือสิ่งสำคัญในการทำตลาดโดยเฉพาะในยุคปัจจุบันยุค COVID-19 จากการที่เครือไทยซิน กรุ๊ป ได้มองเทรนด์ล่วงหน้าไว้ตั้งแต่สถานะการณ์การระบาดช่วงแรกๆ ทำให้เครือไทยซิน กรุ๊ป ได้รับผลกระทบน้อยมากๆ และสามารถปรับเปลี่ยนให้มีสินค้าที่ตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ทันเวลา และตอบโจทย์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า และในไตรมาส 4 ปี2563 นี้ เครือไทยซิน กรุ๊ป จะมีผลิตภัณฑ์ในกลุ่มอาหารสำเร็จรูปเพิ่มขึ้นอย่างแน่นอน เป็นผลิตภัณฑ์ในกลุ่มผลไม้กระป๋อง เงาะและสับปะรดกระป๋อง
ทางด้าน ดร.นพวัชร เจริญสินพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาร์ แคนเนอรี่
จำกัด ได้กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า บริษัท สตาร์ แคนเนอรี่ จำกัด ได้ดำเนินธุรกิจเพื่อผลิตปี๊ปและกระป๋องเปล่าสำหรับบรรจุอาหารประเภทต่างๆ เช่น ปลา สับปะรด ผัก และ ผลไม้ หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2552 บริษัทได้มีการขยายธุรกิจผลิตสับปะรดกระป๋องเพื่อการส่งออก
และในปี 2559 มีการขยายธุรกิจเพิ่มเติมเป็นการผลิตปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน และ ปลาแมคเคอเรลบรรจุกระป๋อง เพื่อการส่งออกจนถึงปัจจุบัน บริษัท เล็งเห็นการเติบโตของตลาดปลากระป๋องในประเทศ และ กลุ่มประเทศCLMV บริษัทจึงได้เปิดตลาดปลากระป๋องในประเทศภายใต้แบรนด์ “ปาปี้” และ “ซุปเปอร์สตาร์” เรามีความเชี่ยวชาญในการผลิตอาหารกระป๋อง จึงได้มองหาพันธมิตรทางธุรกิจในการจัดจำหน่ายและทำการตลาด โดยในที่สุดบริษัทได้ตัดสินใจร่วมมือกับ บริษัท เอที คอสเมติก (ประเทศไทย) จำกัด ในเครือไทยซิน กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้ชำนาญการและมีประสบการณ์ในการจัดจำหน่ายและทำการตลาดในประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้านมามากกว่า 70 ปี
สำหรับในด้านการผลิตปลากระป๋อง ทางโรงงานได้ผ่านการรับรองระบบ GMP,
HACCP, และ HALAL เราเน้นคุณภาพที่ได้มาตรฐานสม่ำเสมอ และใส่ใจในทุกๆขั้นตอนของการผลิต ตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบ จนได้ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่ส่งถึงมือผู้บริโภค ปกติแล้วปลากระป๋องจะต้องผ่านการฆ่าเชื้อระดับ commercial sterilization ซึ่งหมายถึงการใช้ความร้อนสูงเพื่อทำลายจุลินทรีย์ที่ทำให้อาหารเน่าเสีย หรือ เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค โดยผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการฆ่าเชื้อในสภาวะดังกล่าวนี้สามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน 3 ปีในอุณหภูมิห้องโดยไม่เน่าเสีย ดังนั้นปลากระป๋องทุกชนิดจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใส่สารกันบูดหรือวัตถุกันเสีย
สำหรับที่มาของแบรนด์ปาปี้ ปาปี้ “PaPi” แปลว่า คุณพ่อ โดยต้องการสื่อว่า คุณพ่อคือหัวหน้าครอบครัวผู้ที่ต้องการนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดในกับทุกคนในครอบครัว ซึ่งก็หมายถึงคุณลูกค้านั่นเอง โดยแบรนด์ปาปี้มีผลิตภัณฑ์ทั้งหมด 5 ชนิดประกอบด้วย
1.ปลาซาร์ดีนในซอสมะเขือเทศ
2.ปลาแมคเคอเรลในซอสมะเขือเทศ
3.ปลาทูน่าสเต๊กในน้ำเกลือ
4.ปลาทูน่าสเต๊กในน้ำแร่
5.ปลาทูน่าสเต๊กในน้ำมันทานตะวัน
tag line ของปาปี้คือ ปาปี้ อร่อยตัวพ่อ โดยเริ่มจากการคัดเลือกวัตถุดิบชั้นเลิศ ที่คุณพ่ออยากให้คนในครอบครัวได้รับประทาน เพื่อความสุขของทุกคนในครอบครัว สำหรับปลาซาร์ดีนและปลาแมคเคอเรล เราตั้งใจที่จะคัดปลาชิ้นใหญ่ เนื้อแน่น ไม่ยุ่ย ปรุงกับน้ำซอสที่กลมกล่อม ส่วนปลาทูน่านั้น เราคัดเลือกเฉพาะปลาโอดำ (Thunnus tonggol) หรือ ปลาทูน่าครีบเหลือง (Thunnus albacares) เท่านั้นโดยเน้นไปที่ปลาโอดำซึ่งเป็นปลาสดจับได้ภายในประเทศเป็นหลัก
เราต้องการและหวังให้ทุกเมนูที่คุณลูกค้าปรุงจากปลากระป๋องของเรา หรือแค่เปิดกระป๋องแล้วรับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ เป็นเมนูที่อร่อยระดับตัวพ่อ และเป็นมื้ออาหารที่คุณลูกค้าได้ประโยชน์จากสารอาหารหลักๆในตัวปลา ซึ่งมีทั้งโปรตีน แคลเซียม รวมไปถึง omega 3,6, และ 9 อีกด้วย ปาปี้ขอเป็นอีกหนึ่งสินค้าที่มีคุณภาพ สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ทันเวลา และตอบโจทย์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าที่ชอบรับประทานปลากระป๋องได้
กรุ๊ปเรามีธุรกิจกลุ่มภัตตาคารอาหารญี่ปุ่นมาหลายสิบปีแล้วซึ่งจับกลุ่มลูกค้ารายได้ปานกลางถึงสูง ซึ่งปัจจุบันเรามี Brand อะคิโยชิ 6 สาขาเป็นหลักและยังมี Brand ใหม่ๆเข้ามาเสริมตลอดแต่ก็ยังเป็นกลุ่มธุรกิจภัตตาคาร เรายังขาดผลิตภัณฑ์กลุ่มอาหารสำเร็จรูปซึ่งสามารถทำตลาดได้กว้างกว่า เข้าถึงลูกค้าทั้งในและต่างประเทศ เหมาะกับการค้าในยุคไร้พรมแดนอย่างยุค AEC ซึ่งเราได้วางนโยบายให้เครือไทยซิน กรุ๊ป ต้องเป็นเทรดดิ้งที่มี Dynamic และมี Flexibility สูงสามารถปรับตัวเข้ากับสภาวะทางธุรกิจไร้พรมแดนที่เปลี่ยนไปเร็วมากๆ การก้าวเข้าสู่ธุรกิจในกลุ่มอาหารสำเร็จรูปพร้อมทานในช่วงเวลานี้จึงเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุด ที่จะพาเครือไทยซิน กรุ๊ป ไปสู่ประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่ม CLMV
ทางด้าน ดร.นพวัชร เจริญสินพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาร์ แคนเนอรี่
จำกัด ได้กล่าวถึงความร่วมมือในครั้งนี้ว่า บริษัท สตาร์ แคนเนอรี่ จำกัด ได้ดำเนินธุรกิจเพื่อผลิตปี๊ปและกระป๋องเปล่าสำหรับบรรจุอาหารประเภทต่างๆ เช่น ปลา สับปะรด ผัก และ ผลไม้ หลังจากนั้นในปี พ.ศ. 2552 บริษัทได้มีการขยายธุรกิจผลิตสับปะรดกระป๋องเพื่อการส่งออก
และในปี 2559 มีการขยายธุรกิจเพิ่มเติมเป็นการผลิตปลาทูน่า ปลาซาร์ดีน และ ปลาแมคเคอเรลบรรจุกระป๋อง เพื่อการส่งออกจนถึงปัจจุบัน บริษัท เล็งเห็นการเติบโตของตลาดปลากระป๋องในประเทศ และ กลุ่มประเทศCLMV บริษัทจึงได้เปิดตลาดปลากระป๋องในประเทศภายใต้แบรนด์ “ปาปี้” และ “ซุปเปอร์สตาร์” เรามีความเชี่ยวชาญในการผลิตอาหารกระป๋อง จึงได้มองหาพันธมิตรทางธุรกิจในการจัดจำหน่ายและทำการตลาด โดยในที่สุดบริษัทได้ตัดสินใจร่วมมือกับ บริษัท เอที คอสเมติก (ประเทศไทย) จำกัด ในเครือไทยซิน กรุ๊ป ซึ่งเป็นผู้ชำนาญการและมีประสบการณ์ในการจัดจำหน่ายและทำการตลาดในประเทศไทย และประเทศเพื่อนบ้านมามากกว่า 70 ปี
สำหรับในด้านการผลิตปลากระป๋อง ทางโรงงานได้ผ่านการรับรองระบบ GMP,
HACCP, และ HALAL เราเน้นคุณภาพที่ได้มาตรฐานสม่ำเสมอ และใส่ใจในทุกๆขั้นตอนของการผลิต ตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบ จนได้ผลิตภัณฑ์สำเร็จรูปที่ส่งถึงมือผู้บริโภค ปกติแล้วปลากระป๋องจะต้องผ่านการฆ่าเชื้อระดับ commercial sterilization ซึ่งหมายถึงการใช้ความร้อนสูงเพื่อทำลายจุลินทรีย์ที่ทำให้อาหารเน่าเสีย หรือ เป็นอันตรายต่อผู้บริโภค โดยผลิตภัณฑ์ที่ผ่านการฆ่าเชื้อในสภาวะดังกล่าวนี้สามารถเก็บรักษาไว้ได้นาน 3 ปีในอุณหภูมิห้องโดยไม่เน่าเสีย ดังนั้นปลากระป๋องทุกชนิดจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องใส่สารกันบูดหรือวัตถุกันเสีย
สำหรับที่มาของแบรนด์ปาปี้ ปาปี้ “PaPi” แปลว่า คุณพ่อ โดยต้องการสื่อว่า คุณพ่อคือหัวหน้าครอบครัวผู้ที่ต้องการนำเสนอสิ่งที่ดีที่สุดในกับทุกคนในครอบครัว ซึ่งก็หมายถึงคุณลูกค้านั่นเอง โดยแบรนด์ปาปี้มีผลิตภัณฑ์ทั้งหมด 5 ชนิดประกอบด้วย
1.ปลาซาร์ดีนในซอสมะเขือเทศ
2.ปลาแมคเคอเรลในซอสมะเขือเทศ
3.ปลาทูน่าสเต๊กในน้ำเกลือ
4.ปลาทูน่าสเต๊กในน้ำแร่
5.ปลาทูน่าสเต๊กในน้ำมันทานตะวัน
เราต้องการและหวังให้ทุกเมนูที่คุณลูกค้าปรุงจากปลากระป๋องของเรา หรือแค่เปิดกระป๋องแล้วรับประทานกับข้าวสวยร้อนๆ เป็นเมนูที่อร่อยระดับตัวพ่อ และเป็นมื้ออาหารที่คุณลูกค้าได้ประโยชน์จากสารอาหารหลักๆในตัวปลา ซึ่งมีทั้งโปรตีน แคลเซียม รวมไปถึง omega 3,6, และ 9 อีกด้วย ปาปี้ขอเป็นอีกหนึ่งสินค้าที่มีคุณภาพ สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคได้ทันเวลา และตอบโจทย์ให้ตรงกับความต้องการของลูกค้าที่ชอบรับประทานปลากระป๋องได้
ซาร์ดีนในซอสมะเขือเทศ
ปลาแมคเคอเรลในซอสมะเขือเทศ
ทูน่าสเต็กในน้ำมันทานตะวัน
ปลาแมคเคอเรลในซอสมะเขือเทศ
แบรนด์ซุปเปอร์สตาร์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น