นางจตุพร กล่าวว่า การประชุมวันนี้ (22 ก.ย. 64) ตนได้กล่าวถ้อยแถลงในนาม SOMSWD/ASWC ประเทศไทย โดยได้แสดงความยินดีกับความสำเร็จในการเป็นเจ้าภาพการประชุม ASWC ของประเทศเวียดนาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งบทบาทนำของประเทศเวียดนามในการจัดทำเอกสารผลลัพธ์สำคัญที่เกี่ยวข้องกับงานสังคมสงเคราะห์ จำนวน 2 ฉบับ ได้แก่ ปฏิญญาฮานอยว่าด้วยการเสริมสร้างความเข้มแข็งให้กับงานสังคมสงเคราะห์ เพื่อมุ่งสู่การเป็นประชาคมอาเซียนที่แน่นแฟ้นและตอบสนอง และแผนงานภาคีเครือข่ายด้านสังคมสงเคราะห์อาเซียน พ.ศ. 2564 - 2568 (ASWC Work Plan 2021 - 2025) และกล่าวถึงรายงานความสำเร็จและบทบาทนำของประเทศไทยที่มีต่อการขับเคลื่อนงานสังคมสงเคราะห์และการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาคีเครือข่ายด้านสังคมสงเคราะห์ ตลอดระยะเวลา 10 ปี ที่ผ่านมา ตลอดจนเน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของประเทศไทยต่อภาคีเครือข่ายด้านสังคมสงเคราะห์อาเซียนในอนาคต ผ่านการดำเนินงานแผนงานและโครงการต่างๆ ภายใต้แผนงานภาคีเครือข่ายด้านสังคมสงเคราะห์อาเซียน พ.ศ. 2564 - 2568
นางจตุพร กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ นายชินชัย ชี้เจริญ ในฐานะอุปนายกคนที่ 2 สภาวิชาชีพสังคมสงเคราะห์และประธานสภาสังคมสงเคราะห์ระหว่างประเทศ ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก (ICSW-SEAP) และนางสาววิมลรัตน์ รัชชุกูล ผู้อำนวยการกองการต่างประเทศ สำนักงานปลัดกระทรวง พม. ยังได้ร่วมอภิปรายเกี่ยวกับร่างแผนงานภาคีเครือข่ายด้านสังคมสงเคราะห์อาเซียน พ.ศ. 2564 - 2568 รวมถึงได้หารือทิศทางการขับเคลื่อนการดำเนินงานของ ASWC ในอนาคต อีกทั้งนายอโณทัย อุดมศิลป ผู้อำนวยการศูนย์ฝึกอบรมอาเซียนด้านสังคมสงเคราะห์และสวัสดิการสังคม ได้นำเสนอเกี่ยวกับผลการประเมินความต้องการฝีกอบรมของนักสังคมสงเคราะห์จากประเทศสมาชิกอาเซียน ตลอดจนความก้าวหน้าการดำเนินงานด้านอื่นๆ สำหรับการประชุม ASWC ปี 2565 - 2566 ประเทศฟิลิปปินส์จะได้เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมต่อไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น