27 มกราคม 2565, กรุงเทพฯ - อินฟินิกซ์ (Infinix) ตอกย้ำความสำเร็จของแบรนด์ เดินหน้ารุกตลาดอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เปิดตัวโน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ล่าสุด Infinix INBOOK X2 ภายใต้สโลแกน “จุดประกายโลกแห่งสีสัน” ชูจุดขายด้วยดีไซน์บางเบา บางเพียง 14.8 มิลลิเมตร และน้ำหนักเพียง 1.24 กิโลกรัม เหมาะสำหรับพกพาไปใช้งานได้ในทุกที่ทุกเวลา มาพร้อมหน้าจอแสดงผลสีสันสดใส Full HD ขนาด 14 นิ้ว และแบตเตอรี่ความจุ 50 Wh พร้อมสายชาร์จ Type C ควบคู่กับการชาร์จไว 45 วัตต์ ทำให้ใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน และเสริมประสิทธิภาพการใช้งานด้วยระบบปฎิบัติการ Microsoft Windows 11 และ CPU จาก Intel Core i3/i5/i7 ในราคาสุดคุ้ม เริ่มต้นเพียง 12,990 บาท โดยผนึกกำลังร่วมมือกับสองพันธมิตร บริษัท วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) จำกัด และ บริษัท เซ็นทรัล เจดี คอมเมิร์ซ จำกัด ให้เป็นผู้แทนดำเนินการจัดจำหน่ายและช่องทางการจำหน่ายหลักโน้ตบุ๊ก Infinix INBOOK X2 ในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ เพื่อให้ผู้บริโภคได้เป็นเจ้าของโน้ตบุ๊กที่เหนือระดับ ในราคาคุ้มค่า และตอบสนองความพึงพอใจมากที่สุด
นายเจอร์รี่ กง ผู้จัดการประจำประเทศไทย อินฟินิกซ์ ไทยแลนด์ กล่าวว่า “ อินฟินิกซ์ ได้รับความนิยมและเติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศไทย พร้อมเดินหน้าต่อยอดความสำเร็จด้วยการรุกตลาดกลุ่มสินค้าประเภทโน้ตบุ๊ก และนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ๆ อยู่เสมอ ด้วยการใช้กลยุทธ์ชูความโดดเด่นของตัวโปรดักส์ที่มีจุดขายในตัวเอง โดยเราได้เปิดตัวโน้ตบุ๊กรุ่นใหม่ล่าสุด Infinix INBOOK X2 เป็นโน้ตบุ๊กคุณภาพดี มีความบางเบา พกพาง่าย หน้าจอสวยงาม พร้อมใช้งานได้ยาวนาน และตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย พร้อมมีบริการหลังการขายที่สะดวกและรวดเร็ว ซึ่งเราเน้นกลุ่มผู้ใช้งานทั่วไปในระดับเริ่มต้นถึงกลาง ที่ใช้สำหรับทำงาน เรียนออนไลน์ หรือรับชมความบันเทิงต่างๆ และใช้งานอินเทอร์เน็ต ในราคาคุ้มค่าเริ่มต้นเพียง 12,990 บาท เข้ามาจัดจำหน่ายในประเทศไทย เพื่อมอบประสบการณ์การใช้งานเต็มรูปแบบให้กับผู้ใช้งานทุกคน”
“สำหรับโน้ตบุ๊ก
Infinix INBOOK X2 เราได้ร่วมมือกับบริษัท วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เซ็นทรัล เจดี คอมเมิร์ซ จำกัด เพื่อให้เป็นผู้ดำเนินการจัดจำหน่ายสินค้าและช่องทางการจำหน่ายหลักในประเทศไทย เพราะเราเล็งเห็นถึงความเชี่ยวชาญและเครือข่ายช่องทางการจัดจำหน่ายของพันธมิตรที่แข็งแกร่ง เพื่อยกระดับและสร้างมาตรฐานในการจัดจำหน่าย
INBOOK X2 เพื่อให้ทุกคนได้เป็นเจ้าของโน้ตบุ๊กที่มีประสิทธิภาพยอดเยี่ยม พร้อมสร้างแบรนด์ให้เป็นที่รู้จักในประเทศไทยมากยิ่งขึ้น” นายเจอร์รี่ กล่าว
นายสมศักดิ์ เพ็ชรทวีพรเดช ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า “ความร่วมมือทางธุรกิจกับอินฟินิกซ์ในครั้งนี้ ถือเป็นเครื่องยืนยันถึงความสามารถในการจัดจำหน่ายที่ครอบคลุมและกว้างขวางของเรา โดยวีเอสที อีซีเอส จะทำหน้าที่ช่วยกระตุ้น เพิ่มยอดขาย และขยายส่วนแบ่งการตลาดให้กว้างไกลยิ่งขึ้น ที่สำคัญเรามีระบบขนส่งที่ครอบคลุม ยืดหยุ่นและมีเครือข่ายในการจัดส่งทั่วไทย ทำให้เราสามารถจัดส่งสินค้าได้ทุกวัน ร้านค้าทั่วไทยจึงมั่นใจได้ว่าจะมีสินค้า Infinix INBOOK X2 จำหน่ายได้อย่างต่อเนื่อง และด้วยคุณภาพผลิตภัณฑ์ของอินฟินิกซ์ที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งาน เราจึงเชื่อมั่นว่าจะสามารถครองใจผู้ใช้ทั่วไปและคนรุ่นใหม่ได้ ซึ่งเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับอินฟินิกซ์ และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะสามารถบรรลุผลตามเป้าที่วางไว้และได้ผลกำไรที่เติบโตไปด้วยกัน”
ด้าน นายกิติศักดิ์ เหลืองหิรัญ ผู้บริหารหน่วยธุรกิจ 3C บริษัท เซ็นทรัล เจดี คอมเมิร์ซ จำกัด เปิดเผยว่า “ปีที่ผ่านมา อินฟินิกซ์กวาดยอดขายจากรุ่น INBOOK X1 สร้างสถิติใหม่เป็นอันดับหนึ่งบน JD Central และขึ้นเป็น The Best Seller Electronics Brand ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของอินฟินิกซ์ที่เข้ามาทำตลาดสินค้าประเภทโน้ตบุ๊ก และในรุ่น INBOOK X2 ทางเจดี เซ็นทรัล ในฐานะผู้นำแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซในประเทศไทย ได้เดินหน้าส่งมอบสิทธิประโยชน์ พร้อมโปรโมชั่นพิเศษมากมาย ที่มีให้กับลูกค้าที่ช้อปผ่านเจดี เซ็นทรัลเท่านั้น นอกจากนี้ลูกค้าหรือผู้ใช้งานยังสามารถสั่งซื้อสินค้าในช่องทางของเราได้สะดวก รวดเร็วและปลอดภัย และได้รับประสบการณ์ในการซื้อสินค้าในราคาที่คุ้มค่าที่สุด”
Infinix INBOOK X2 เป็นโน้ตบุ๊กที่ตอบโจทย์ทุกการใช้งานและเหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่มีความทันสมัย ที่ให้ผู้ใช้งานทุกคนได้รับประสบการณ์การใช้งานแบบจัดเต็มอย่างไร้ขีดจำกัด ที่มาพร้อมสโลแกน
“จุดประกายโลกแห่งสีสัน” พร้อมชูจุดเด่น 3 หัวใจหลัก ดังนี้
ดีไซน์บางเบา เพียง 14.8 มิลลิเมตร และ 1.24 กิโลกรัม จับถนัดมือ พกพาสะดวก
Infinix INBOOK X2 กับการออกแบบที่มีสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ โดดเด่นด้วยความบางและน้ำหนักที่เบาตัวเครื่องบางเพียง 14.8 มิลลิเมตร และหนักเพียง 1.24 กิโลกรัม การดีไซน์เน้นให้พกพาสะดวก ใช้งานง่าย เหมาะที่จะนำออกไปใช้งานได้ในทุกที่ทุกเวลา มาพร้อมกับตัวเครื่องที่ถูกเคลือบผิวด้วยอลูมิเนียมแบบผิวทราย มีการเลือกใช้วัสดุเกรดพรีเมียมเพื่อความแข็งแรงทนทาน ป้องกันการขีดข่วน นอกจากนี้ยังมีพอร์ตเชื่อมต่อหลายพอร์ต และช่องใส่ไมโครเอสดีการ์ด เมมโมรีการ์ด ความจุเยอะ และระบบปฎิบัติการ Microsoft Windows 11 และ CPU จาก Intel Core i3/i5/i7
เต็มอิ่มกับหน้าจอแสดงผลสีสันสว่างสดใส Full HD ขนาด 14 นิ้วสำหรับโน้ตบุ๊กรุ่นนี้ โดดเด่นด้วยหน้าจอสีสันสดใส ขนาดกว้าง 14 นิ้ว พร้อมความละเอียดระดับ FHD สูงสุดถึง 1920 x 1080 พิกเซล มีช่วงสี 100% sRGB และความสว่างของหน้าจอสูงถึง 300 nits ทำให้ผู้ใช้งานเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การรับชมภาพที่สมจริง และสามารถใช้งานได้ดีทั้งกลางแจ้งและในที่แสงน้อย โน้ตบุ๊กนี้ยังมาพร้อมกับไฟแฟลชคู่ LED ที่ขนาบด้านข้างกล้องตรงหน้าจอ ช่วยทำให้ใบหน้า สวยคมชัด สว่างสดใส และดูดี เช่น การประชุมออนไลน์ หรือ การเรียนออนไลน์ ซึ่งผู้ใช้งานจะได้รับประสบการณ์วิดีโอออนไลน์ที่ยอดเยี่ยมที่สุดทุกครั้งขณะใช้งานสนทนาทางวิดีโอ
มอบประสบการณ์การใช้งานที่ยาวนานด้วยความจุแบตเตอรี่ 50 Wh พร้อมชาร์จไว 45 วัตต์
Infinix INBOOK X2 มาพร้อมความจุแบตเตอรี่ 50 Wh ชาร์จไว 45 วัตต์ และสายชาร์จ Type C ซึ่งสามารถชาร์จแบตเตอรี่ 60% ได้ในระยะเวลาเพียงหนึ่งชั่วโมง ให้อิสระในการใช้งานโดยไม่ต้องชาร์จระหว่างวัน รองรับการใช้งานอินเทอร์เน็ตได้ยาวนานถึง 11 ชั่วโมง อีกทั้งยังมาพร้อมระบบปฎิบัติการ Microsoft Windows 11 และ CPU จาก Intel Core i3/i5/i7 ความจุ 4+256GB และ 8+512GB มาให้เลือกตามรูปแบบการใช้งาน ทำให้ผู้ใช้เพลิดเพลินกับการใช้งานได้ตลอดวันอย่างเต็มอรรถรสแบบไม่มีสะดุด
นอกจากสเปคที่คุ้มค่า ราคายังถูกใจ เริ่มต้นที่ราคา 12,990 บาท
Infinix INBOOK X2 โดดเด่นด้วย 4 สีสันให้เลือก ได้แก่ สีแดง สีเขียว สีเงิน และสีน้ำเงิน โดยในรุ่นสเปค Core i3 ราคา 12,990 บาท Core i5 ราคา 18,990 บาท และ Core i7 ราคา 21,990 บาท พร้อมโปรโมชั่นพิเศษสำหรับผู้ที่ซื้อโน้ตบุ๊ก Infinix INBOOK X2 ทุกรุ่น ในช่วงระหว่างวันที่ 28 มกราคม ถึง 27 กุมภาพันธ์ 2565 จะไม่เสียค่าบริการจัดส่งสินค้า และยังมีสิทธิ์ได้รับกระเป๋าแบ็คแพ็คและเมาส์ไร้สายจากทางอินฟินิกซ์อีกด้วย
สำหรับประเทศไทย Infinix INBOOK X2 จะวางจำหน่ายพร้อมกันทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม 2565 เป็นต้นไป แฟนๆ อินฟินิกซ์และผู้ที่สนใจสามารถเป็นเจ้าของได้บน JD Central และร้านตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3GA3LoN
เกี่ยวกับอินฟินิกซ์อินฟินิกซ์ โมไบล์ (Infinix Mobile) ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2556 เป็นแบรนด์สมาร์ตโฟนที่ออกแบบ ผลิต และทำการตลาดโทรศัพท์มือถือให้ขยายตัวทั่วโลกภายใต้แบรนด์ อินฟินิกซ์ (Infinix) โดยมุ่งพัฒนาเทคโนโลยีที่ล้ำสมัยผสานเข้ากับมือถืออย่างพิถีพิถัน นำเสนอสไตล์ที่โดดเด่น เด็มเปี่ยมไปด้วยพลังและประสิทธิภาพ เป็นอุปกรณ์ที่ทันสมัยและเป็นที่ต้องการของผู้ใช้งานในทุกย่างก้าว ด้วยแนวคิดที่เป็นหัวใจสำคัญของแบรนด์อย่าง “THE FUTURE IS NOW” พร้อมกับแสดงตัวตนให้โลกได้เห็นว่าอินฟินิกซ์มุ่งมั่นที่จะนำเสนอเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย ตลอดจนรูปลักษณ์ที่เฉียบและมีสไตล์สำหรับผู้ใช้งานที่ไม่อยากตกเทรนด์
กลุ่มผลิตภัณฑ์ของบริษัทฯ มีการจำหน่ายในกว่า 40 ประเทศทั่วโลก ครอบคลุมทั้งทวีปแอฟริกา ละตินอเมริกา ตะวันออกกลาง เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และเอเชียใต้ โดยในช่วงปี พ.ศ. 2561 - 2563 อินฟินิกซ์ (Infinix) ได้ขยายตัวถึง 160% ซึ่งเป็นอัตราที่สูงอย่างไม่เคยปรากฏมาก่อน และมีแผนใหญ่ที่จะสร้างมือถือระดับเรือธงที่มีดีไซน์ที่โดดเด่นและข้อเสนอที่คุ้มค่าอย่างต่อเนื่อง ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.infinixmobility.com
เกี่ยวกับวีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย)บริษัท วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) จำกัด (เดิมชื่อบริษัทเดอะแวลลูซิสเตมส์ จำกัด) ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2531 ปัจจุบันเป็นบริษัทหนึ่งในเครือของวีเอสที อีซีเอสกรุ๊ป ประเทศฮ่องกง ผู้นำด้านการจัดจำหน่ายสินค้าไอทีในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิคที่มีช่องทางการจัดจำหน่ายกว่า 48,000 รายกระจายอยู่ในประเทศจีน, ไทย, มาเลเซีย, สิงคโปร์, อินโดนีเซีย, ฟิลิปปินส์, กัมพูชา, เมียนมาร์ และลาว
วีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) ดำเนินธุรกิจเป็นผู้จัดจำหน่ายสินค้าด้านไอทีผ่านทางธุรกิจ 4 กลุ่มหลัก คือ คอนซูเมอร์, คอมเมอร์เชียล, โซลูชัน และดีไวซ์แอนด์ไลฟ์สไตล์ ภายใต้แบรนด์ชั้นนำระดับโลกกว่า 50 แบรนด์ มีสำนักงานสาขาที่สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ซึ่งเปิดดำเนินการเมื่อเดือนเมษายน 2557 ในชื่อ บริษัท วีเอสที อีซีเอส (เมียนมาร์) จำกัด และที่ราชอาณาจักรกัมพูชา เปิดดำเนินการเมื่อเดือนพฤษภาคม 2558 ในชื่อบริษัท วีเอสที อีซีเอส (กัมพูชา) จำกัด เพื่อดำเนินธุรกิจด้านเอนเตอร์ไพรส์ซิสเตมส์โดยเฉพาะ ค้นหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวีเอสที อีซีเอส (ประเทศไทย) ได้ที่ www.vstecs.co.th