กรุงเทพฯ ยินดีต้อนรับ Jardin Du Boeuf ร้านสเต็กใหม่ล่าสุดที่มุ่งมั่นสู่ความยั่งยืน อาหารที่มาจากจริยธรรม และรสชาติ เชฟดอน สุจิธ เปรมาลาล เริ่มเปิดให้บริการเมื่อไม่นานมานี้ ร้านตั้งอยู่ที่โรงแรมซอมเมอร์เซ็ท พระราม 9 นำทีมพร้อมประสบการณ์การรับประทานอาหารที่หลากหลายภายใต้ธีม สเต็กแห่งอนาคต ผ่านวิสัยทัศน์และวัฒนธรรมการทานอาหารมุ่งเน้นที่ความยั่งยืน และความสัมพันธ์ที่แสดงถึงการเคารพซึ่งกันและกันระหว่างมนุษย์และต้นกำเนิดที่มาที่ไปของอาหารทุกคำ Jardin Du Boeuf นำเสนอความสดใหม่ บรรยากาศร้านที่ดูสบายตลอดทั้งวัน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
เชฟดอน สุจิธ เปรมาลาล และทีมของ Jardin Du Boeuf ถือว่าได้แสดงความสามารถอย่างเต็มที่ด้วยความรู้ความเข้าใจในส่วนผสมที่ดีที่สุดอย่างลึกซึ้ง ไม่ว่าจะเป็นเนื้อวากิวที่เลี้ยงด้วยหญ้าเท่านั้น อาหารที่ตรงจากชาวประมง และไวน์ออร์แกนิคที่เลือกคัดมาอย่างดีเพื่อการผสมผสานของมื้ออาหารที่ลงตัว คัดสรรไวน์จากไร่องุ่นออร์แกนิคแบบไบโอไดนามิคปลอดสารเคมีจากทั่วโลกเพื่อให้เข้ากับเมนูอาหารอย่างดีที่สุด เมนูดาวเด่นที่นำเสนอได้แก่ เนื้อแบบจากวัวที่เลี้ยงด้วยหญ้าผ่านการบ่มแห้ง หรือ Dry Age เช่น สเต็กเนื้อวากิวเนื้อลายสวย และเนื้อสันติดมันหรือสตริปลอยน์ ซี่โครงแกะเสริฟ์กับซอสเครืองเทศโมรอคโก ต้นหอมย่างกับไขมันวัวที่จะทานเล่นหรือทานกับสเต็กก็เข้าคู่กันได้เป็นอย่างดี และอาหารอื่นๆอีกมากมายและที่ขาดไม่ได้ของหวานสำหรับปิดมื้อ อาหารส่วนใหญ่มาในรูปแบบการแชร์ทานร่วมกัน แต่ก็เหมาะกับการทานคนเดียวได้เช่นกัน เมนูต่างๆมีให้เลือกแบบสั่งตามเมนูที่เปิดให้บริการตั้งแต่เช้าจนถึงมื้อค่ำ รวมถึงเซทเมนูพิเศษที่จัดเป็นคอร์สอีกด้วย
นำทีมโดยเชฟดอน สุจิธ เปรมาลาล ผู้กวาดรางวัลมามากมายพูดน้อยแต่อัดแน่นด้วยประสบการณ์และความเข้าใจวัตถุดิบ เป็นที่ยอมรับในด้านความเป็นผู้นำด้านการบ่มหมักเนื้อ กับสโลแกนสุดโปรดของเค้าคือ สเต็กที่สมบูรณ์แบบคือศาสตร์และศิลปะแห่งการทำอาหาร ผ่านสนามแห่งการปรุงอาหารมามากมายหลายสิบปี เดินทางข้ามน้ำจากประเทศศรีลังกาประเทศต้นทางของเชฟไปถึงเก็บเกี่ยวความรู้จากการทำงานที่ประเทศมัลดีฟ ก่อนจะย้ายมาที่ประเทศไทยที่เกาะภูเก็ตเมืองชายหาดที่สวยติดอันดับโลก ทำงานที่หนึ่งในร้านที่มีชื่อเสียงที่สุดในการบ่มเนื้ออย่างโรงแรมอนันตราลายัน และในที่สุดได้มาร่วมทีมรังสรรค์เมนูที่ Jardin Du Boeuf
Jardin Du Boeuf ร้านแรกและแห่งเดียวในประเทศไทยที่เปิดครัวให้นักชิมได้ลองใช้เทคนิคของตัวเองมาปรุงสเต็ก เพื่อให้ได้รสและสัมผัสที่ลูกค้าชอบจริงๆ โดยเตาทำสเต็กนี้สามารถเลือกได้ว่า จะใช้ถ่าน หรือ ไม้โกงกางจากป่าชายเลน ในการย่างเนื้อเพื่อรสชาติที่ดีที่สุดในทุกๆจาน DK Wow Ventures
ภายใต้การบริหารของเชฟดีปังเกอร์ คอสลา มีความมุ่งมั่นอย่างมากที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีการทานอาหาร กับ ผู้คนในกรุงเทพให้ไปในทางที่ดีขึ้น มีความได้ใกล้ชิดกับธรรมชาติ และ สร้างจริยธรรมที่ดีต่อผู้ผลิตอาหารและวัตถุดิบที่แท้จริง
ช่องทางการติดต่อและอัพเดตโปรโมชั่นต่างๆ
www.instagram.com/jardinduboeufbkk
ดีปังเกอร์ คอสลา จาก DK Wow Ventures กรรมการผู้จัดการ กล่าวว่า การเลือกซื้อสิ่งที่ดีสุดและให้สิ่งนั้นเผยและเปร่งประกายแสงในตัวออกมาเป็นมนต์ตราหนึ่งที่ DK Wow Ventures เชื่อมั่นมาเสมอ ไม่ว่าการใช้เนื้อวัวจากธรรมชาติไปจนถึงอาหารทะเลแบบยั่งยืน ผลิตผลจากฟาร์มขนาดเล็กไปจนถึงผู้ผลิตชีส ที่ใส่ใจต่อการเป็นอยู่ของผู้คน ชุมชนและสิ่งแวดล้อม ตลอดระยะเวลา 7 ปี ที่ผ่านมานั้น เราได้ใช้เวลาพูดคุย ทำความรู้จักกับเกษตรกร เจ้าของฟาร์ม ชาวประมง และผู้ผลิตที่มีหลักการความคิดที่คล้ายกันกับเรา จนพัฒนามาเป็นคู่ค้าคนสำคัญ ซึ่งเป็นหนึ่งในหัวใจหลักของร้าน และเป็นผู้ร่วมสร้างร้านสเต็กแห่งอนาคตแห่งนี้
ร้านอาหารในเครือของเราทั้งในประเทศไทย เริ่มจากการสร้างรากฐาน รวมไปถึงภาพลักษณ์คู่กันไปกับการรักษาความสมบูรณ์แบบของอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงดีไซน์ของร้านที่สวยงาม ทันสมัย ตามคอนเซปต์ของแบรนด์ต่างๆ และการสร้างแนวทางปฏิบัติและวัฒนธรรมองค์กรต่อพนักงานของเราทุกคน เปิดโอกาสให้ทุกคนได้แสดงความสามารถและเป็นตัวเองมากที่สุด เพื่อให้เกิดการบริการลูกค้าอย่างดีจากใจ โดยผลลัพธ์ที่ได้คือ ความสุขและสบายใจจากแขกทุกท่านในการมาใช้บริการที่ร้านอาหารของเรา
เราใส่ใจในรายละเอียดทุกขั้นตอนอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าคุณจะมาเพื่อใช้เวลากับเครื่องดื่มสักแก้ว หรือ เบอร์เกอร์สักชิ้น หรือ มื้อพิเศษเพื่อฉลองเรื่องราวๆดี เราหวังว่า Jardin Du Boeuf จะได้เป็นส่วนหนึ่งของวันนั้นๆของคุณ และกลายเป็นร้านโปรดของลูกค้าหลากหลายรูปแบบ”
สำรองที่นั่งได้ที่ https://bit.ly/JDBooking
ช่องทางการติดต่อและอัพเดตโปรโมชั่นต่างๆ
www.instagram.com/jardinduboeufbkk
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น