นวัตกรรมด้านความปลอดภัยของวีซ่า ได้รับการพัฒนามาอย่างต่อเนื่อง โดยใช้เทคโนโลยีที่ตรวจสอบข้อมูล ลดการฉ้อโกง และป้องกันระบบนิเวศทางการชำระเงิน ในห้าปีที่ผ่านมา วีซ่าได้ลงทุนกว่าเก้าพันล้านเหรียญสหรัฐเพื่อยกระดับประสิทธิภาพด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์และการรับมือกับการฉ้อโกง
วีซ่า ใช้โซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) และข้อมูลในการระบุตัวตน สอบสวน ขัดขวาง และป้องกันการโจมตีระบบนิเวศทางการชำระเงินของโลก นอกจากนั้นยังสามารถนำเสนอกลยุทธ์ด้านความปลอดภัย และแผนการป้องกันที่ครอบคลุมเพื่อรับมือกับภัยคุกคามในรูปแบบใหม่ๆ
หนึ่งในโซลูชันที่สำคัญ คือ Visa Advanced Authorisation เป็นเทคโนโลยีที่วิเคราะห์องค์ประกอบข้อมูลมากกว่า 500 ข้อมูลเพื่อให้คะแนนความเสี่ยงในแต่ละธุรกรรม ซึ่งในปีงบประมาณ 2564[1] ที่ผ่านมาช่วยให้ธนาคารต่างๆ ทั่วโลกสามารถป้องกันการฉ้อโกงได้กว่า 26 พันล้านเหรียญสหรัฐ
ปัจจุบันผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ใช้ชีวิตแบบไลฟ์สไตล์ดิจิทัลเพิ่มขึ้น ดังนั้นการใช้ข้อมูลไบโอเมตริกซ์ต่างได้รับความนิยมขึ้น อาทิ การใช้ลายนิ้วมือ การจดจำใบหน้า และการให้ข้อมูลที่ใช้ยืนยันตัวตนในรูปแบบดิจิทัลเมื่อทำกิจกรรมออนไลน์
ปัจจุบันกว่า 75 เปอร์เซ็นต์ของผู้บริโภคในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รู้จักการชำระเงินด้วยไบโอเมตริกซ์ โดยมากกว่าครึ่ง (53%) เชื่อว่าเป็นวิธีการชำระเงินที่ปลอดภัยกว่า ขณะที่ความเป็นเจ้าของข้อมูลตัวตนดิจิทัลปัจจุบันของภูมิภาคนี้อยู่ในระดับต่ำ (18%) แต่กระนั้นกลุ่มผู้ที่ไม่ได้เป็นเจ้าของข้อมูลตัวตนดิจิทัลมีความรู้จักในระดับสูง (71%) และความสนใจในการชำระเงินด้วยไบโอเมตริกซ์ (63%) ก็สูงเช่นกัน[2]
“เมื่อมองถึงอนาคตด้านความปลอดภัย วีซ่าเชื่อว่าการให้ความสำคัญกับการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลของผู้บริโภค และการยืนยันตัวตนผ่านระบบดิจิทัล จะเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยป้องกันภัยคุกคามใหม่ๆ ในปัจจุบัน ที่การค้าขายมุ่งสู่ช่องทางดิจิทัลมากขึ้น นอกจากนี้เรายังอยากกระตุ้นให้ผู้เล่นในอุตสาหกรรมการชำระเงินใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีเหล่านี้เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการปกป้องผู้บริโภค และเสริมสร้างให้เศรษฐกิจประเทศไทยมั่นคงและปลอดภัยยิ่งขึ้น” พิภาวิน กล่าวเสริม
วีซ่ามีทีมผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ทั่วโลกกว่า 1,000 คน ที่ใช้เวลาตลอด 24 ชั่วโมงในการตรวจจับ ป้องกันการฉ้อโกงแบบเรียลไทม์ และวิเคราะห์ธุรกรรมทางการเงินเป็นล้านๆ รายการในทุกๆ วัน นอกจากนั้น วีซ่ายังใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่สามารถระบุรูปแบบการฉ้อโกงที่ไม่สามารถตรวจจับได้โดยมนุษย์ และเตือนให้สถาบันการเงิน และร้านค้าทราบก่อนที่ธุรกรรมฉ้อโกงจะเกิดขึ้น
โร้ดแมปด้านความปลอดภัยของวีซ่าได้ระบุขั้นตอนที่วีซ่าจะร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อเพิ่มความปลอดภัยให้กับระบบนิเวศทางการชำระเงินในประเทศไทย ได้แก่
ขับเคลื่อนการใช้เทคโนโลยีเพิ่มเสริมสร้างความปลอดภัย
สร้างความปลอดภัยในการชำระเงินรูปแบบดิจิทัล
เสริมสร้างความความยืดหยุ่นของระบบนิเวศการชำระเงิน
ป้องกันการโจมตีแบบสุ่ม
ยกระดับความพร้อมของผู้เล่นในระบบนิเวศให้รับมือกับอาชญากรรมทางไซเบอร์
ป้องกันผู้บริโภคและผู้ประกอบธุรกิจจากการเป็นเหยื่อของผู้ฉ้อโกง
###เกี่ยวกับวีซ่า
Visa Inc. (NYSE:V) เป็นผู้นำการให้บริการการชำระเงินดิจิทัลระดับโลก วีซ่าให้บริการในการทำธุรกรรมทางการเงินระหว่างผู้บริโภค ร้านค้า สถาบันการเงิน และหน่วยงานภาครัฐมากกว่า 216 พันล้านรายการต่อปี ในกว่า 200 ประเทศทั่วโลก ภารกิจของเราคือการเชื่อมโยงโลกผ่านเครือข่ายนวัตกรรมการชำระเงินที่เชื่อถือได้ สะดวก และปลอดภัยสูงสุด เพื่อให้ผู้บริโภค ร้านค้า และเศรษฐกิจเติบโตอย่างยั่งยืน เราเชื่อว่าเศรษฐกิจที่รวมทุกคนในทุกที่เข้าด้วยกัน จะช่วยยกระดับทุกคนในทุกที่ รายละเอียดเพิ่มเติมสามารถเยี่ยมชมได้ที่เว็บไซต์ Visa.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น