นายธีรเจต ลาภจตุรพิธ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาเลียน มอเตอร์ไซค์เคิล จำกัด (Stallions) และ นางสาวอาวีมาศ สิริแสงทักษิณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สวอพ แอนด์ โก จำกัด (Swap & Go) เปิดตัวโครงการความร่วมมือส่งเสริมการใช้งานรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า พร้อมขยายเครือข่าย Battery Swapping หรือสลับเปลี่ยนแบตเตอรี่ สร้างทางเลือกในการใช้พลังงานสะอาด เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนไทย ถือเป็นกลไกสำคัญที่สอดรับกับแผนพัฒนาประเทศ และเป็นการขยายผลจากต้นแบบการดำเนินธุรกิจในลักษณะแพลตฟอร์ม และโครงสร้างพื้นฐานการสลับเปลี่ยนแบตเตอรี่ให้กับมอเตอร์ไซด์ไฟฟ้าโดยไม่ต้องรอชาร์จของบริษัท Swap & Go ที่ได้พัฒนาแบตเตอรี่รุ่นใหม่ที่มีพลังงานสูงขึ้น รองรับการขยายตัวของผู้ใช้งานรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้าซึ่งมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นในอนาคต
นายธีรเจต ลาภจตุรพิธ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สตาเลียน มอเตอร์ไซค์เคิล จำกัด (Stallions) กล่าวว่า ในโลกธุรกิจวันนี้ การจะมีสถานีสลับแบตเตอรี่และคุ้มค่ากับการลงทุน คือต้องมีรถมาเติมหรือใช้บริการสลับแบตเตอรี่ที่มากพอ และสิ่งที่เป็นอุปสรรคมาโดยตลอดคือ ราคารถที่ขายพร้อมกับการเป็นเจ้าของแบตเตอรี่ที่ราคาแบตเตอรี่สองลูกเกือบครึ่งแสนรวมตัวรถแล้ว ราคารถที่พอใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพคือเกือบแสน นับว่าอุปสรรคที่เกิดจาก ราคารถ ที่ยังไม่เอื้อต่อการเกิดตลาด Mass ได้จริงๆ
การจับมือของ สถานีสลับแบตเตอรี่กับผู้ผลิตรถจักรยานยนต์ไฟฟ้า Swap &Go และกลุ่มธุรกิจ Stallions group รวมถึงพันธมิตรอันดับ 3 จากจีน ภายใต้แบรนด์ TAILG ได้ร่วมผนึกกำลังในการส่งเสริมการใช้รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า ที่สามารถสลับแบตเตอรี่ ได้ โดย TAILG จะใช้ฐานการผลิตและประกอบ รวมถึงเปิดรับ OEM / ODM ผลิตรถภายใต้มาตรฐาน TAILG รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าที่โรงงาน เดอะ สตาเลียน จึงทำให้อุปสรรคต่างๆ คลี่คลายลง เป็นอีกก้าวที่ทำให้ ราคารถที่ไม่ต้องพร้อมแบตเตอรี่สองลูกก็สามารถเข้าถึง รถจักรยานยนต์ไฟฟ้าได้แล้ว ในราคาจับต้องได้ซึ่งเป็นราคาพอๆ กับราคารถน้ำมัน นับว่าเป็นอีกก้าวสำคัญ ในการเพิ่มอัตราเร่ง การเปลี่ยนผ่านครั้งนี้ เป็นไปอย่างยอดเยี่ยม นับเป็นข่าวดีของผู้บริโภคอย่างเราเรา ที่จะได้ใช้รถที่ทำให้เกิด Green earth พลังงานสะอาดที่จะลดมลพิษ ที่เกิดจากการเผาไหม้ของเครื่องยนต์รถน้ำมัน นับเป็นข่าวดีจริงๆ
ทางด้าน นางสาวอาวีมาศ สิริแสงทักษิณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สวอพ แอนด์ โก จำกัด (Swap & Go) กล่าวว่า ปัญหาและอุปสรรคสำคัญของการเปลี่ยนผ่านจากยุคของรถจักรยานยนต์น้ำมันไปสู่รถจักรยานยนต์ไฟฟ้า จากจำนวนรถจักรยานยนต์ที่กำลังถอยไปสู่การเปลี่ยนผ่านกว่า 21 ล้านคัน หากเราดู โครงสร้างพื้นฐานของ รถจักรยานยนต์น้ำมัน สิ่งที่ขับเคลื่อนมันมาตลอดหลายสิบปี หรือเกือบร้อยปี คือ ตัวรถ น้ำมัน สถานีบริการ ผู้ค้า การซ่อมบำรุง กว่าโครงสร้างพื้นฐานเหล่านี้จะครบและอยู่ในระดับที่ สะดวกและสบายคือการพัฒนามาตลอดเมื่อจะเกิดการเปลี่ยนผ่านอีกครั้ง การเริ่มต้น เพื่อให้เกิดตลาดของผู้ใช้ในระดับ MASS จึงไม่ง่ายเพราะเป็นประสบการณ์ใหม่ในรอบร้อยปี ทั้ง ECOSYSTEM ในการสร้าง Basic Infrastructure โครงสร้างพื้นฐาน คนที่เริ่มก่อนจึงต้องหาพันธมิตร เพื่อให้เกิดโครงสร้างพื้นฐานในการกระตุ้นให้เกิดตลาด ในระดับ Mass เพื่อให้เกิดความคุ้มค่า ทั้งผู้ลงทุน ทั้งผู้ใช้ ตลอดทั้ง Supply chain
ทั้งนี้ กลุ่มบริษัท Stallions ผู้ผลิตและจำหน่ายรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าชั้นนำ ได้จับมือร่วมกับแบรนด์ TAILG ซึ่งเป็นแบรนด์จักรยานยนต์ไฟฟ้าอันดับ 3 ของจีน ที่มียอดการผลิตปีละ 12 ล้านคัน เพื่อมุ่งสร้างฐานการผลิตบนมาตรฐาน TAILG Technology เพื่อส่งออกตลาดทั้งอเมริกายุโรปและอาเซียนรวมถึงประเทศไทย รวมทั้งได้พัฒนารถจักรยานยนต์ไฟฟ้าให้สามารถใช้งานสลับแบตเตอรี่ในระบบของ Swap & Go โดยความร่วมมือนี้ เป็นการเตรียมความพร้อมในการเพิ่มจำนวนการใช้งานรถจักรยานยนต์ไฟฟ้าในประเทศไทยผ่านการสร้างพันธมิตรทางธุรกิจ ร่วมขับเคลื่อนและเพิ่มศักยภาพการใช้พลังงานสะอาดของประเทศ สอดรับกับวิสัยทัศน์ของกลุ่ม ปตท. ในการสร้างสรรค์นวัตกรรมพลังงานอนาคตที่ยั่งยืนร่วมกัน
#SwapandGO #Stallionsgroup #evtransformation #thailandevtransformation
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น