พาครอบครัวเข้าวัดทำบุญ ตักบาตร ฟังเทศน์ เจริญจิตตภาวนา ร่วมอุดหนุนสินค้าวัฒนธรรมของชุมชน
วันที่ 29 มกราคม 2566 ที่วัดบำเพ็ญเหนือ นายอิทธิพล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) เปิดเผยว่า วิถีชีวิตดั้งเดิมของสังคมไทยในอดีตมีพระพุทธศาสนาเป็นหลักยึดเหนี่ยวจิตใจ พุทธศาสนิกชนจึงมีศรัทธาในการทำบุญตักบาตร เข้าวัดร่วมกันทั้งครอบครัวเป็นประจำในวันธรรมสวนะหรือวันพระ ซึ่งเป็นประเพณีที่ได้ปฏิบัติสืบต่อกันมาเป็นเวลาช้านาน กระทรวงวัฒนธรรม โดยกรมการศาสนา ได้เห็นถึงความสำคัญดังกล่าวจึงได้จัดโครงการเข้าวัดปฏิบัติธรรมวันธรรมสวนะ “ครอบครัวหิ้วตะกร้า ศรัทธาอิ่มบุญ อุดหนุนชุมชน”
ในส่วนกลาง มีกำหนดจัดกิจกรรมต้นแบบ ในวันอาทิตย์ที่ 29 มกราคม 2566 ณ วัดบำเพ็ญเหนือ เขตมีนบุรี กรุงเทพมหานคร เชิญชวนข้าราชการ เจ้าหน้าที่หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน นักเรียน นักศึกษา และประชาชนทั่วไป พาครอบครัว ทั้ง ปู่ ย่า ตา ยาย พ่อ แม่ และลูก หิ้วตะกร้าใส่ภัตตาหาร ดอกไม้ ธูปเทียน เข้าวัดร่วมทำบุญด้วยการถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์ด้วยเอาหารสุขภาพ รักษาศีล และเจริญจิตตภาวนา เติมบุญให้เต็ม เมื่ออิ่มบุญแล้วหิ้วตะกร้าไปอุดหนุนผลิตภัณฑ์วัฒนธรรมของชุมชนตลาดน้ำขวัญเรียม เป็นการกระจายเกิดกระแสเงินหมุนเวียน เพื่อช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจชุมชนและช่วยลดปริมาณการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกลดโลกร้อนนายอิทธิพล คุณปลื้ม กล่าวว่า วันพระ มีคำเรียกอีกคำหนึ่งว่า วันธรรมสวนะ (ธรรมสวนะ หมายถึง การฟังธรรม) มีความสำคัญในทางพระพุทธศาสนา ตามความหมายของวันพระ หมายถึง วันประชุมของพุทธศาสนิกชนเพื่อปฏิบัติกิจกรรมทางศาสนาประจำสัปดาห์ โดยวันพระมีกำหนดตามปฏิทินจันทรคติ โดยมีเดือนละ 4 วัน ได้แก่ วันขึ้น 8 ค่ำ, วันขึ้น 15 ค่ำ, วันแรม 8 ค่ำ และวันแรม 15 ค่ำ วันพระในปัจจุบันเป็นวันสำคัญที่พุทธศาสนิกชนจะได้ถือโอกาสเข้าวัดเพื่อทำบุญถวายภัตตาหารแด่พระสงฆ์และฟังพระธรรมเทศนา ซึ่งการทำบุญนั้นเป็นการสร้างเหตุปัจจัยแห่งความสุขกายสุขใจให้เกิดขึ้นแก่ตัวเองและผู้อื่น ผลที่ได้รับย่อมนำความสุขกายสุขใจมาให้แก่ตนเองและผู้อื่นทั้งในปัจจุบันและอนาคต นอกจากนี้ ชาวพุทธยังถือว่าวันพระไม่ควรทำบาปใดๆ อีกด้วย
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม (รมว.วธ.) กล่าวต่ออีกว่า การจัดโครงการเข้าวัดปฏิบัติธรรมวันธรรมสวนะหรือวันพระนั้นจะมีส่วนช่วยในการส่งเสริมสนับสนุนให้พุทธศาสนิกชนได้เข้าวัดทำบุญเป็นประจำทั้งในวันพระและวันธรรมดาเพิ่มมากขึ้น อีกทั้งยังเป็นการเสริมสร้างความอบอุ่นและเข้มแข็งของสถาบันครอบครัวผ่านการทำกิจกรรมร่วมกันในวันพระ พุทธศาสนิกชนสามารถนำหลักธรรมทางพระพุทธศาสนาไปปรับใช้ในการดำเนินชีวิตให้เกิดความสงบสุขแก่ตนเอง สังคม และประเทศชาติ
เมื่อกรมการศาสนาได้ดำเนินการจัดกิจกรรมต้นแบบในส่วนกลางแล้ว จะได้ขอความร่วมมือผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครให้สำนักงานเขตในกรุงเทพมหานครร่วมจัดกิจกรรมดังกล่าวต่อไป ในส่วนภูมิภาค ร่วมกับจังหวัด และสำนักงานวัฒนธรรมจังหวัด จัดกิจกรรมต้นแบบวันพระ 4 ภาค และขอความร่วมมือผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดดำเนินกิจกรรมดังกล่าวตามวิถีชีวิตและตามบริบทของแต่ละพื้นที่ เพื่อเป็นแบบอย่างที่ดีแก่พุทธศาสนิกชนทั่วไป
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น