กรุงเทพฯ 3 กุมภาพันธ์ 2566 - ผ่านไปแล้วกับปี 2022 ที่ธุรกิจทุกประเภทต่างก็เริ่มกลับมาเดินหน้าและแข่งขันกันอย่างเข้มข้นอีกครั้ง รวมถึงตลาดไอทีและสินค้าประเภทสมาร์ตโฟนก็เช่นกัน ซึ่งในปีที่ผ่านมา แต่ละค่ายก็ได้เปิดตัวมือถือกันไปหลายสิบรุ่น พร้อมงัดกลยุทธ์การนำเสนอนวัตกรรมเพื่อแย่งส่วนแบ่งตลาดกันอย่างดุเดือดตลอดปี โดย realme (เรียลมี) ในฐานะแบรนด์สมาร์ตโฟนเพื่อคนรุ่นใหม่ที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก ก็ได้มีการเปิดตัวสมาร์ตโฟนหลากหลายรุ่นเช่นกัน เพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานในแต่ละเซกเมนต์ได้อย่างครอบคลุม
รวมสมาร์ตโฟน realme ครองใจผู้บริโภคชาวไทยปี 2022 (และจนถึงปัจจุบัน) โดยแบ่งตาม Series ดังนี้
เริ่มต้นกันที่สมาร์ตโฟนระดับแฟล็คชิปอย่าง GT Series ที่ realme จัดแน่นในทุกด้านทั้งสเปค ดีไซน์ แบตเตอรี่ เรียกได้ว่าได้รับเสียงฮือฮาในทุกครั้งที่เปิดตัว โดยมาเริ่มกันที่
realme GT Neo 3 และ GT Neo 3T
realme GT Neo 3 และ GT Neo 3T นำแฟน ๆ ไปสัมผัสจิตวิญญาณแห่งสนามแข่งด้วยดีไซน์ที่ได้แรงบันดาลใจมาจากรถยนต์ฟอร์มูล่า-1 และธงตารางหมากรุกที่โบกสะบัด ณ จุดเส้นชัย สื่อถึงประสิทธิภาพการทำงานที่เร็วแรงเต็มสปีดสมศักดิ์ศรีแฟล็กชิปของแบรนด์ และไม่ได้เร็วเฉพาะการทำงาน แต่ยังรวมไปถึงระบบชาร์จ SuperDart Charge 80W ที่สามารถชาร์จไฟ 0-50% ได้ภายในเวลา 12 นาที นอกจากนี้ ยังมาพร้อมจอแสดงผลระดับเทพที่ Refresh Rate 120Hz พร้อมระบบเสียงลำโพงคู่ที่ให้คุณเสพความบันเทิงและคอนเทนต์ทุกรูปแบบได้อย่างเต็มอารมณ์
สำหรับรุ่น realme GT Neo 3T ยังครองแชมป์สมาร์ตโฟนยอดขายอันดับ 1 (หมวด Mobile Category) ในช่วงการจัดแคมเปญ “Shopee Super Brand Day” เมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา และยังสามารถครองยอดขายสูงสุดเป็นอันดับ 2 อย่างต่อเนื่องในกลุ่มสมาร์ตโฟนราคา 10,000-14,999 บาท ประจำเดือนธันวาคมอีกด้วย
realme GT NEO 3 (8GB/256GB) สะท้อนความโฉบเฉี่ยวแบบ Racing Stripe Design ติดตั้งขุมพลัง Dimensity 8100 5G Processor จำหน่ายในราคา 18,999 บาท
realme GT Neo 3T (8GB/128GB) นำเสนอมิติใหม่แห่งงานดีไซน์ด้วยลายธงตารางหมากรุก เลือกใช้ซีพียู Snapdragon 870 ที่รันทุกแอปได้เร็วแรงถึงใจไม่มีสะดุด จำหน่ายในราคา 12,999 บาท
realme GT 2 Pro
สมาร์ทโฟนระดับเรือธงที่พรีเมียมที่สุดจาก realme ซึ่งมาพร้อมกับนวัตกรรมใหม่ ๆ ครั้งแรกของโลกในอุตสาหกรรมสมาร์ตโฟน ด้านแรกคือดีไซน์การออกแบบจาก Bio-Base polymer หรือโพลิเมอร์ชีวภาพ ตอบโจทย์กระบวนการผลิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมกำลังเป็นที่นิยมอย่างมากในขณะนี้ โดยได้ร่วมออกแบบกับคุณ Naoto Fukasawa และมากไปกว่านั้น สำหรับดีไซน์แบบ Bio-Base polymer นี้ยังช่วยลดการปล่อยมลพิษจากคาร์บอนถึง 63% ต่อกิโลกรัม ไม่เพียงแต่ดีไซน์ที่พรีเมียม แต่ realme GT 2 Pro ยังมาพร้อมชิปเซ็ต Snapdragon 8 Gen 1 ใหม่ล่าสุด มั่นใจในความเร็วแรงได้อย่างไม่มีจำกัด และยังได้จอแสดงผล Super Reality กับความละเอียด 2K AMOLED ขนาด 6.7 นิ้ว เอาใจผู้ใช้อย่างได้ในทุกด้านอย่างลงตัว
และด้วยความพรีเมียมที่มาในราคาที่คุ้มค่า จึงทำให้ realme GT 2 Pro ครองใจผู้ใช้งานด้วยกระแสที่มาแรงกับยอดขาย 300 เครื่องภายใน 1 ชั่วโมง และยังทุบสถิติยอดขายสูงสุดเป็นอันดับ 1 ในหมวดสมาร์ตโฟนระดับราคา 20,000 บาท บนช่องทางออนไลน์มาแล้ว
realme GT 2 Pro (12/256GB) มาในราคา 24,990 บาท
ตามมาด้วยรุ่น Number Series ที่ก็ไม่น้อยหน้า โดยในปีที่ผ่านมา realme ได้เปิดตัว Number Series หลายรุ่นโดยแต่ละรุ่นก็มาพร้อมความน่าประทับใจที่แตกต่างกันออกไป ทั้งนี้ทั้งนั้น realme ก็มอบความคุ้มค่าได้อย่างเหลือเชื่อ โดยมาเริ่มกันที่
realme 10 Pro Series
สุดยอดสมาร์ตโฟนตัวท็อปใน Number Series ที่ได้กระแสชื่นชมถล่มทลาย ด้วย realme 10 Pro+ 5G มาพร้อมหน้าจอโค้งที่หรูหราพร้อม Refresh Rate 120Hz ดีไซน์ตัวเครื่องและขอบจอเพรียวบางระดับ Ultra-Thin เอฟเฟ็กต์ฝาหลังแบบไฮเปอร์สเปซสุดอลังการด้วยดีไซน์เส้นแสงสุดล้ำ 3 มิติ และนอกจากดีไซน์สุดพรีเมียมแล้วยังจัดเต็มกับสเปก มอบการใช้งานที่ลื่นไหลขั้นสุด พร้อมหน่วยความจำเริ่มต้นสูงถึง 256GB เรียกได้ว่าใช้งานทั่วไปแบบเหลือ ๆ โดยไม่ต้องใส่เมโมรี่การ์ดเพิ่ม และอีกฟีเจอร์ที่เหนือกว่าแฟล็กชิปทุกรุ่นในท้องตลาดปัจจุบันคือเทคโนโลยีการปรับความสว่างหน้าจอระดับ 2160Hz PWM จึงสามารถแสดงสีสันได้แม่นยำในทุกระดับความสว่างและช่วยถนอมสายตาได้มากที่สุดในโลกสมาร์ตโฟนปัจจุบัน!
ด้วยฟีเจอร์เด่น ๆ ที่กล่าวมา จึงไม่น่าแปลกใจที่ realme 10 Pro Series จะติดอันดับ Top 2 สมาร์ตโฟนขายดีในระดับราคา 14,000-16,999 บาท บนแพลตฟอร์ม Shopee ประจำเดือนธันวาคมที่ผ่านมา
realme 10 Pro Series นำเสนอ 2 รุ่น ทั้ง realme 10 Pro 5G (8GB/256GB) ในราคา 11,999 บาท และ realme 10 Pro+ 5G (12GB/256GB) ในราคา 15,999 บาท
realme 9 Pro Series
realme 9 Pro Series นับเป็นสมาร์ตโฟนที่เอาใจผู้ที่ชื่นชอบการถ่ายภาพเป็นอย่างมาก ด้วยการเป็น Capture The Light ซึ่งนับว่าเป็นสมาร์ตโฟนที่มาพร้อมกล้องระดับเรือธงในระดับ Mid-range โดยมาด้วยกัน 2 รุ่น คือ realme 9 Pro+ ด้วยการเต็มกับกล้องที่ดีที่สุดในสมาร์ทโฟนระดับเซ็กเมนต์เดียวกัน พร้อมชูเทคโนโลยี ProLight Imaging Technology พร้อมจัดเต็มกับความแรงด้วยชิปประมวลผล MediaTek Dimensity 920 5G และอีกหนึ่งรุ่นกับ realme 9 Pro มาพร้อมกับชิปเซ็ต Qualcomm Snapdragon 695 5G ตัวแรกในระดับเซกเมนต์เดียวกัน และเพิ่มหน่วยความจำ Dynamic RAM ได้ถึง 13GB ไม่เพียงเท่านั้น ยังมาพร้อมระบบระบายความร้อนแบบ Liquid Cooling System ทำให้ realme 9 Pro มอบประสิทธิภาพการทำงานเหนือขั้น
และด้วยสเปคอันคุ้มค่าที่กล่าวมาข้างต้น จึงทำให้ realme 9 Pro Series ยังเป็นสมาร์ตโฟนที่มาแรงและเป็นกระแสจนถึงวันนี้ พร้อมการันตีจากการคว้ารางวัลสมาร์ทโฟนแห่งปี 2022จากสื่อไอทีหลายเจ้า แสดงให้เห็นว่า realme 9 Pro Series นั้นคุ้มค่าและสามารถมัดใจผู้ใช้งานได้อย่างปฏิเสธไม่ได้
realme 9 Pro Series นำเสนอ 2 รุ่นทั้ง realme 9 Pro (6/128) ราคา 8,999 บาท, realme 9 Pro (8/128) ราคา 9,999 บาท และ realme 9 Pro+ (8/256) ราคา 12,999 บาท
ปิดท้ายด้วยสมาร์ตโฟนรุ่นเล็กอย่าง C Series ที่ก็ปังไม่แพ้กัน นั่นเพราะ realme ตั้งใจที่จะมอบประสิทธิภาพที่คุ้มค่าผ่านสมาร์ตโฟนในทุกระดับ เพื่อให้ครอบคลุมผู้ใช้งานได้อย่างทั่วถึง
realme C33
หนึ่งในบัดเจ็ตสมาร์ตโฟนที่ครองใจวัยรุ่นทั่วโลกจนถูกยกย่องให้เป็น Budget King ในทันทีที่เปิดตัว กับ realme C33 ด้วยการออกแบบฝาหลังที่งดงามเกินบรรยายให้เป็นเอ็กเฟ็กต์ระลอกคลื่นที่เล่นแสงได้จากทุกทิศทาง ผสานรูปทรงตัวเครื่องที่บางเพียง 8.3 มม. ทำให้เป็นมือถือรุ่นเริ่มต้นที่ดูหรูหราเกินราคาและมีสไตล์โดดเด่นที่สุดในสมาร์ตโฟนเซกเมนต์เดียวกัน ทั้งยังคงตอบโจทย์ผู้ใช้งานยุคใหม่ด้วยกล้องถ่ายรูปสุดล้ำนำเทรนด์ที่ให้ความละเอียดสูงถึง 50 ล้านพิกเซล พร้อมการประมวลผลภาพด้วย CHDR algorithm รูปแบบใหม่ ที่มีโหมดถ่ายภาพมากมายทั้ง Beauty, Super Night, HDR, Panoramic View, Portrait, Time-lapse และ Expert Mode ซึ่งตอบทุกโจทย์การถ่ายภาพได้อย่างลงตัว
นอกจากนี้ realme C33 ยังเป็นหนึ่งในบัดเจ็ตสมาร์ตโฟนเพียงไม่กี่รุ่นในท้องตลาดที่ให้แบตเตอรี่ความจุสูงถึง 5000mAh และใช้ถาดใส่ซิมแบบ 3 สล็อต โดยใส่ซิมการ์ดได้ 2 ซิม และยังสามารถใส่ Micro SD card เพิ่มได้สูงสุดถึง 1TB! ถือเป็นฟังก์ชันเด็ดที่แม้แต่มือถือระดับแฟล็กชิปก็ไม่มีให้
บัดเจ็ตสมาร์ตโฟน realme C33 เสนอขายในราคาเพียง 4,499 บาทเท่านั้น
realme ยังนำเสนอรุ่นอัปเกรดจาก C33 มาสู่ C35 โดยได้เพิ่มฟีเจอร์อีกมากมาย ทั้งงานออกแบบฝาหลังไดนามิกเรืองแสงอันล้ำสมัย พร้อมดีไซน์ตัวเครื่องที่บางกว่าเดิมเพียง 8.1 มม. ซึ่งถือเป็นรุ่นที่บางเบาที่สุดของ C Series ในปัจจุบัน อีกหนึ่งการอัปเกรดคือในส่วนกล้องถ่ายภาพที่ขยับมาใช้เซ็นเซอร์กล้องหลักเทียบเท่ากับรุ่นท็อปในปีที่แล้วของแบรนด์อย่าง GT2 Pro ซึ่งมีความละเอียดสูงถึง 50 ล้านพิกเซลด้วยรูรับแสงกว้าง f/1.8 ช่วยเก็บรายละเอียดของแสงสีได้ครบถ้วนทุกมิติ
นอกจากนี้ ยังให้หน้าจอความละเอียดระดับ Full HD ซึ่งหายากในมือถือระดับราคาเดียวกัน ด้วยขนาดหน้าจอใหญ่ขึ้นที่ 6.6 นิ้ว ช่วยให้คุณรับชมวิดีโอและคอนเทนต์ต่าง ๆ ได้อย่างสมจริงและเต็มตามากขึ้น และยังคงมาพร้อมฟีเจอร์เด่นอื่น ๆ ที่มีในรุ่น C33 ทั้งแบตเตอรี่ความจุ 5,000mAh, เทคโนโลยี Dynamic RAM Expansion Technology (DRE) เพื่อการใช้งานแบบ Multitasking, และระบบ Quick Charge 18W
และด้วยความคุ้มค่าที่เข้าถึงได้นี้ทำให้ realme C35 ติดโผอยู่ในอันดับ 6 ในกลุ่มสมาร์ตโฟนยอดขายดีในตลาดเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จากการรายงานของ Canalys Report ประจำไตรมาส 1 ปี 2565 อีกด้วย
realme C35 วางจำหน่ายในราคาเริ่มต้น 4,499 บาท
สำหรับปี 2023 นี้ realme ยังคงมุ่งมั่นนำเสนอผลิตภัณฑ์สมาร์ตโฟนและอุปกรณ์ AIoT คุณภาพสูงเพื่อให้ครอบคลุมความต้องการของผู้บริโภคทุกกลุ่มอย่างต่อเนื่อง โดยแฟน ๆ เรียลมีสามารถติดตามข่าวสารล่าสุดและการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ผ่านทางเฟซบุ๊ก realme Official Fan Page หรือดูข้อมูลเพิ่มเติมอย่างเป็นทางการได้ที่เว็บไซต์ realme https://www.realme.com/
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น