พม. จัดงานย้อนยุค มหกรรมวันผู้สูงอายุสากล ปี 2566 หนุนคนต่างวัยสร้างพื้นที่แห่งความสุขร่วมกัน

วันนี้ (29 ก.ย. 66) เวลา 16.00 น. นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เป็นประธานในพิธีเปิดงานมหกรรมวันผู้สูงอายุสากล ประจำปี พ.ศ. 2566 (International Day of Older Persons 2023) ภายใต้แนวคิด “ชาญชาลา : คนต่างวัย หัวใจเดียวกัน Across Generations” โดยมี นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นางสาวแรมรุ้ง วรวัธ อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ นายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย นายแพทย์วิชัย โชควิวัฒน Ms. Gita Sabharwal UN Resident Coordinator คณะผู้บริหารกระทรวง พม. และผู้แทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมงาน ณ สถานีรถไฟกรุงเทพฯ (หัวลำโพง)

นายวราวุธ กล่าวว่า ปัจจุบัน ประเทศไทยมีผู้สูงอายุกว่า 12 ล้านคน หรือประมาณร้อยละ 19.77 ของประชากรทั้งประเทศ และคาดว่าในอนาคตประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมสูงอายุระดัยสุดยอด ดังนั้น การสร้างความเข้าใจระหว่างคนต่างวัย ให้รับรู้ถึงความแตกต่างและสามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างมีความสุขนั้น นับเป็นสิ่งสำคัญ ซึ่งเราจึงจำเป็นต้องร่วมกันสร้าง “พื้นที่แห่งความสุข”และร่วมกันส่งเสริมให้ผู้สูงอายุเป็น “พฤฒิพลัง” หรือ Active Aging เพื่อดำรงชีวิตอยู่ร่วมกันในสังคม
โดยไม่มีอายุเป็นข้อจำกัด ทั้งนี้ กระทรวง พม. โดยกรมกิจการผู้สูงอายุ (ผส.) จึงได้จัดงานมหกรรมวันผู้สูงอายุสากล ประจำปี พ.ศ. 2566 ภายใต้แนวคิด “ชาญชาลา : คนต่างวัย หัวใจเดียวกัน Across Generations” ซึ่งสอดคล้องกับแนวคิดวันผู้สูงอายุสากล ปี พ.ศ. 2566 “Fulfilling the Promises of the Universal Declaration of Human Rights for Older Persons: Across Generations” คือ “บรรลุคำมั่นสัญญาแห่งปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนสำหรับผู้สูงอายุและคนต่างรุ่นเพื่อส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้สูงอายุได้รับสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานอย่างเท่าเทียมกัน และขจัดปัญหาความแตกต่างระหว่างคนต่างวัย รวมถึงการไม่เลือกปฏิบัติและการส่งเสริมความเสมอภาคของทุกคน”

นายวราวุธ กล่าวต่อไปว่า งานมหกรรมฯ ครั้งนี้ มีการจัดกิจกรรมที่น่าสนใจในบรรยากาศวันวานย้อนยุค ประกอบด้วย 1) การประกาศเจตนารมณ์วันผู้สูงอายุสากล 2) การแสดงนิทรรศการวิชาการ 3) ร้านจำหน่ายผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาผู้สูงอายุ เช่น น้ำตาลสด ไอศกรีมข้าวลูกชิ้นเห็ดภูฐาน ข้าวเหนียวหมู และขนมไทยโบราณ เป็นต้น 4) การถ่ายทอดภูมิปัญญาผู้สูงอายุกับคนต่างวัย เช่น โมบายรังผึ้งและสานปลาตะเพียน 5) การแสดงดนตรี โดยวงดุริยางค์ทหารบก 6) รำวงย้อนยุค และ 7) การแสดงชุดพิเศษ Across Generations เพลง "ฟังข่าวทิดแก้ว" เพื่อเป็นการสื่อสารสร้างการรับรู้ให้สังคมได้เห็นคุณค่าของวัฒนธรรมที่ดีงามของไทยการเคารพและอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุขของคนต่างวัยที่มีหัวใจเดียวกัน การสร้างสัมพันธภาพที่ดีงาม และการมีส่วนร่วมของคนต่างวัยในการดูแลผู้สูงอายุ รวมถึงได้ยึดโยงให้ทุกภาคส่วนทั้งภาครัฐ เอกชน และประชาสังคมเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาศักยภาพและพัฒนาคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้สูงอายุ

นายวราวุธ กล่าวเพิ่มเติมว่า วันนี้ เป็นวันผู้สูงอายุสากลที่องค์การสหประชาชาติได้กำหนดขึ้น และประเทศไทยได้สานต่อ ซึ่งต้องเรียนว่า ต่อจากนี้ไป ผู้สูงอายุทุกท่านจะเป็นพลังสำคัญ ท่านไม่เป็นภาระหรือผู้ไม่มีศักยภาพ เพราะทุกท่านผ่านประสบการณ์มาอย่างมากมาย ล้วนมีศักยภาพที่พร้อมจะเป็นทรัพยากรที่สำคัญของสังคมไทย 

ดังนั้น เนื่องในวันผู้สูงอายุสากล กระทรวง พม. จึงร่วมเฉลิมฉลอง และจากนี้ไป จะเสริมสร้างศักยภาพของผู้สูงอายุในประเทศไทยให้เป็นกลุ่มคนที่เป็นกำลังหลักคอยสนับสนุนคนรุ่นต่างๆ ในสังคมไทย ซึ่งคนทุกๆ กลุ่ม จะต้องเดินไปด้วยกัน 

ทั้งนี้ ตนขอเป็นกำลังใจให้ผู้สูงอายุทุกท่านได้ใช้ชีวิตสูงวัยได้อย่างมีความสุข และกระทรวง พม. จะขับเคลื่อนนโยบายด้านผู้สูงอายุ ด้วยศูนย์บริบารผู้สูงอายุในชุมชนที่ตั้งเป้าจะให้ลูกหลานกลับมาดูแลคนในชุมชนของตนเอง ซึ่งเชื่อว่าจะทำให้ผู้สูงอายุหลายๆ ท่าน มีความสบายใจ และจะเป็นกำลังสำคัญในการประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน อีกทั้งทำให้ผู้สูงอายุมีความสุขทั้งสุขภาพกายและใจที่แข็งแรง และเติบโตไปด้วยกันกับทุกช่วงวัย 

“วันนี้เป็นบรรยากาศที่อบอุ่นมาก ได้เห็นความสนุกสนาน พลังแห่งความสร้างสรรค์ ถึงแม้ว่าจะสูงวัย แต่ไม่ได้อ่อนแรง ซึ่งรู้สึกภาคภูมิใจที่เห็นทุกท่านแข็งแรง และเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่สำคัญ รวมทั้งเป็นเข็มทิศให้กับคนรุ่นต่อๆ ไป” นายวราวุธ กล่าวในตอนท้าย 

#ช่วย24ชั่วโมง #พม24ชม #ข่าวพม #esshelpme #วราวุธรับฟังทำจริง #พมพอใจให้ทุกวัยพึงพอใจในพม #กระทรวงพม #รมวพม #รับฟังทำจริง

Share:

ททท. จัดพิธีพระราชทานรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (Thailand Tourism Awards) ครั้งที่ 14​ ตอกย้ำยกระดับห่วงโซ่อุปทานสู่มาตรฐานความยั่งยืน

เย็นนี้ (27 กันยายน 2566) ทูลกระหม่อมหญิงอุบลรัตนราชกัญญา สิริวัฒนาพรรณวดี เสด็จเป็นองค์ประธานในพิธีพระราชทานรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย หรือ Thailand Tourism Awards ครั้งที่ 14 แก่ผู้ประกอบการในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวที่ได้รับรางวัล จำนวนทั้งสิ้น 254 ราย พร้อมตอกย้ำเป้าหมายการยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย Sustainable Tourism Goals : STGs สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน (High Value and Sustainability) ด้วยสาขารางวัลใหม่ประเภทการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำเพื่อความยั่งยืน (Low Carbon & Sustainability) ณ สามย่านมิตรทาวน์ กรุงเทพมหานคร 

นายอารัญ บุญชัย ปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวว่า การเร่งฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศด้วยการท่องเที่ยวถือเป็นหนึ่งในนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย ททท. จึงได้กำหนดกลยุทธ์สำคัญในการยกระดับสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวให้ได้มาตรฐานและเป็นที่ยอมรับในระดับสากล (Beyond Standard) ทั้งในด้านการท่องเที่ยวอย่างปลอดภัยและยั่งยืน (Safe and Sustainable Tourism) 

รวมทั้งการรับผิดชอบต่อสังคมและสิ่งแวดล้อม (Responsible Tourism) ด้วยการต่อยอดขยายสาขารางวัลของโครงการรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (Thailand Tourism Awards) หรือ รางวัลกินรี ภายใต้ความร่วมมือระหว่างหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และองค์กรท้องถิ่น ซึ่งจะช่วยกระตุ้นให้เกิดการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้ดียิ่งขึ้น เพิ่มโอกาสทางการตลาดแก่ผู้ประกอบการ นำไปสู่การสร้างงาน สร้างรายได้กระจายสู่เศรษฐกิจของประเทศในทุกระดับอย่างกว้างขวางและทั่วถึง

นางสาวฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ ผู้ว่าการ ททท. เปิดเผยว่า รางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ถือเป็นหัวใจสำคัญในการผนึกกำลังพันธมิตรเพื่อสร้างมาตรฐานอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน Sustainable Tourism Goals : STGs มุ่งสู่เป้าหมายการท่องเที่ยวที่ปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์อย่างยั่งยืนตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจ BCG Model โดยปีนี้ ททท. ได้เพิ่มประเภทรางวัลการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ (Low Carbon & Sustainability) เพื่อตอกย้ำจุดยืนต่อความมุ่งมั่นสู่เป้าหมายการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำ พร้อมยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน (High Value and Sustainability)

 ซึ่งรางวัลดังกล่าว จะช่วยสร้างจุดเด่น เพิ่มมูลค่า และเพิ่มโอกาสทางการตลาดแก่ผู้ประกอบการในการเข้าถึงนักท่องเที่ยวกลุ่มคุณภาพที่ใส่ใจเรื่องสิ่งแวดล้อม อีกทั้งยังเป็นการสร้างความตระหนักรู้และคุณค่าในด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมแก่ผู้ประกอบการ และนักท่องเที่ยว เพื่อให้ทุกภาคส่วนเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทยอย่างแข็งแรงและยั่งยืนต่อไป

สำหรับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ครั้งที่ 14 ประจำปี 2566 มีผู้ประกอบการส่งผลงานสมัครเข้าร่วมโครงการฯ จำนวนทั้งสิ้น 908 ราย จาก 5 ประเภทรางวัล ประกอบด้วย ประเภทแหล่งท่องเที่ยว ประเภทที่พักนักท่องเที่ยว ประเภทการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ ประเภทรายการนำเที่ยว และประเภทการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำเพื่อความยั่งยืน และมีผู้ที่ผ่านการคัดเลือกชนะรางวัล รวมทั้งสิ้น 353 ราย โดยแต่ละประเภทได้รับคัดสรรผลงานที่มีคุณภาพ แบ่งเป็น 3 สาขารางวัล ได้แก่ รางวัล Thailand Tourism Gold Award (ยอดเยี่ยม) Thailand Tourism Award (ดีเด่น) 

และเกียรติบัตรรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย (Thailand Tourism Certificate) ซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้ รางวัลประเภท Thailand Tourism Gold Award (ยอดเยี่ยม) จำนวน 76 ราย รางวัล Thailand Tourism Silver Award (ดีเด่น) 169 ราย และ เกียรติบัตรรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย 99 ราย ทั้งนี้ผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัล Thailand Tourism Gold Award ต่อเนื่องกัน 3 ครั้ง จะได้รับมอบรางวัล Hall of Fame โดยในปี 2566 นี้มีจำนวนรวม 9 ราย ได้แก่ หอโบราณคดีเพ็ชรบูรณ์อินทราชัย จ.เพชรบูรณ์, พิพิธภัณฑ์เซรามิคธนบดี จ.ลำปาง, สวนสัตว์ขอนแก่น จ.ขอนแก่น, อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จ.เชียงใหม่, อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จ.ลำปาง, ดุสิตธานี กระบี่ บีช รีสอร์ต จ.กระบี่, โรงแรมเอซ ออฟ หัวหิน รีสอร์ท จ.เพชรบุรี, ศิรา สปา จ.เชียงใหม่, คามาลายา สปา จ.สุราษฎร์ธานี 

ทั้งนี้ พิธีพระราชทานรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ครั้งที่ 14 ในวันที่ 27 กันยายน 2566 จะมีการมอบรางวัลแก่ผู้ผ่านการคัดเลือกชนะรางวัลในสาขารางวัล Thailand Tourism Gold Award (ยอดเยี่ยม) Thailand Tourism Award (ดีเด่น) และรางวัล Hall of Fame จำนวนทั้งสิ้น 254 ราย

ขณะที่ รางวัลสาขาใหม่ ประเภทการท่องเที่ยวคาร์บอนต่ำเพื่อความยั่งยืน (Low Carbon & Sustainability) 

มีจำนวนทั้งสิ้น 18 ราย ประกอบด้วย รางวัลรางวัลยอดเยี่ยม จำนวน 5 ราย ได้แก่ ขิงแดง รีสอร์ท จ.กระบี่ สยามเบย์ชอร์ 

รีสอร์ท พัทยา จ.ชลบุรี เดอะ ริเวอร์รี บาย กะตะธานี คอลเล็คชั่น จ.เชียงราย พีชฮิลรีสอร์ท จ.ภูเก็ต และชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวโดยชุมชน ตําบลบางกอบัว จ.สมุทรปราการ และรางวัลดีเด่น จำนวน 13 ราย 

โดยสถานประกอบการดังกล่าวจะต้องมีนโยบาย มาตรการ ความคิดริเริ่ม ในการจัดการคาร์บอนต่ำ(Low Carbon) อย่างเป็นรูปธรรม ใส่ใจต่อการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Climate Emergency) สอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้อย่างมีประสิทธิภาพ และคำนึงถึงความสมดุลสู่ความยั่งยืน (Sustainability) ใน 3 มิติ ได้แก่ เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม

ผู้ที่สนใจสามารถตรวจสอบรายชื่อผู้ประกอบการที่ได้รับรางวัลอุตสาหกรรมท่องเที่ยวไทย ครั้งที่ 14 ประจำปี 2566 ได้ที่ www.tourismthailand.org/tourismawards หรือ facebook.com/thailandtourismawards

Share:

ไอคอนสยาม เนรมิตพื้นที่ Quality Time “ICONVILLE” ชั้น 5ศูนย์รวมความสุข ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ของทุกคนในครอบครัว

ไอคอนสยาม แลนด์มาร์กระดับโลกริมแม่น้ำเจ้าพระยา เปิดพื้นที่ใหม่ “ICONVILLE” (ไอคอนวิลล์) ตั้งอยู่ชั้น 5 ไอคอนสยาม พื้นที่ Quality Time สำหรับทุกคนในครอบครัว ออกแบบขึ้นภายใต้ความตั้งใจสำคัญที่จะสร้าง Family Space ด้วยรูปแบบที่สร้างสรรค์ให้ทุกมิติเป็นเหมือนบ้านหลังใหญ่ เพื่อทุกคนที่ก้าวเข้ามาจะเต็มไปด้วยรอยยิ้มกับพื้นที่ที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ของสมาชิกในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่สำหรับคุณพ่อ คุณแม่ หรือเด็กๆ ที่มองหาจุดเริ่มต้นของรอยยิ้มตัวเอง

ทันทีก้าวเข้าสู่ “ICONVILLE พื้นที่ Quality Time สำหรับทุกคนในครอบครัว” จะได้พบกับความครบครันที่หลากหลาย ซึ่งถูกจัดสรรตามฟังก์ชั่นต่างๆ ภายในบ้าน อาทิ 

ห้องนั่งเล่นกับพื้นที่ผ่อนคลายที่เราจะได้ใช้เวลากับลูกน้อย พร้อมของเล่น ของใช้พัฒนาการเด็ก พบกับแบรนด์ ABC The Baby (เอบีซี เดอะเบบี้) ตอบโจทย์ทุกคนในครอบครัวให้ช็อปได้อย่างสนุกกับของเล่นของใช้สำหรับเด็ก และของใช้สำหรับคุณแม่ ครบครันด้วยของเล่นเสริมพัฒนาการ และอุปกรณ์ตัวช่วยของคุณแม่และคุณลูก Beaba (เบบบา ) อีกหนึ่งแบรนด์ที่พ่อแม่และเด็กๆ จะต้องชอบกับสินค้าเด็กคุณภาพระดับพรีเมียม และยังครบครันกับเครื่องนึ่งปั่นอาหารสำหรับเด็กที่ทางแบรนด์ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้เชี่ยวชาญกับประสบการณ์ตั้งแต่ปี 1989 Babybotte (เบบี้โบเต้) แบรนด์รองเท้าเด็กจากฝรั่งเศสที่แพทย์แนะนำว่าเด็กควรใส่ตั้งแต่เริ่มเกาะยืน เพราะด้วยการออกแบบอย่างพิถีพิถันกับประสบการณ์กว่า 80 ปีทำให้เข้าใจทุกสรีระของเด็กทุกวัย ดังนั้นเด็กจะเดินดี เดินสวย และไม่มีปัญหาการยืนในระยะยาว การันตีได้จากการได้รับเลือกให้เป็นแบรนด์ที่ดูแลเรื่องรองเท้าให้ราชวงศ์ Monaco ของฝรั่งเศสโดยเฉพาะ 

สำหรับสายสุขภาพแนะนำร้าน GENEUS DNA x GATTA Café (จีเนียส ดีเอ็นเอ X แกตตาคาเฟ่) คาเฟ่สุดชิคที่รังสรรค์เมนูเครื่องดื่มสูตรพิเศษเฉพาะบุคคลผ่านผลตรวจ DNA จาก Geneus DNA การดูแลสุขภาพระดับ DNA ไปกับเทคโนโลยีพิเศษที่ปลอดภัยที่สุดแต่หากใครไม่มีผลการตรวจ ก็สามารถแวะเข้ามาทานกาแฟสุดชิคนี้ได้เช่นกัน และ Yugen (ยูเก็น) แบรนด์เครื่องหอม ที่ใช้ส่วนผสมสุดพิเศษจากธรรมชาติที่ผ่านการรับรองแล้วว่าปลอดสารพิษเจือปนตลอดทุกขั้นตอนการผลิต เพื่อช่วยเพิ่มความมีชีวิตชีวาให้กับบ้าน และคนที่คุณรักได้ในทุกวัน นอกจากนี้ยังมีพื้นที่เติมเต็มความสุขด้วยการร่วมอุดหนุนผลิตภัณฑ์จากชุมชน กับร้านภูฟ้า สาขาที่ครบที่สุดและพร้อมที่สุดสำหรับสินค้าทุกประเภทจากชาวบ้านทั่วประเทศอีกด้วย  

ห้องอาหารกับโซนคาเฟ่ที่พร้อมตอบโจทย์ทุกคน ได้แก่ Auntie Anne’s (อานตี้ แอนส์) ขนมเพรทเซลแสนอร่อย ที่มีหลากหลายรสชาติให้ทุกคนได้เลือก ทั้งเพรทเซลคาว และเพรทเซลหวาน, Cold Stone Creamery (โคล สโตน ครีมเมอรี่) ไอศกรีม พรีเมียมสัญชาติอเมริกา เนื้อเหนียว รสชาติเข้มข้น และ พิเศษฉลองการเปิดสาขาใหม่ที่ไอคอนสยาม ทาง Auntie Anne’s Pop Up Store และ Cold Stone Creamery มัดรวมเอกลักษณ์ความอร่อยสร้างสรรค์เมนูสุดเอ็กซ์คลูซีฟ และเมนูที่เป็น Best Seller ของทั้ง 2 แบรนด์ไว้ด้วยกันอย่างลงตัว กับ 3 เมนูพิเศษที่นี่ทีเดียว ได้แก่ Almond Pretzel Caramel Latte Ice Cream, Lemonade Cheesecake Ice Cream และ CCB Sweet Cream Ice Cream

สำหรับคนที่ชื่นชอบเมนูไข่ หรือเป็น Egg Lover ชวนมาลิ้มรส Egg Desu (เอ้ก เดซ) ร้านอาหารสไตล์คาเฟ่ที่รังสรรค์เมนูไข่ให้ออกมาหน้าตาชวนรับประทาน และหลากหลายความอร่อย ถูกใจทั้งเด็กๆ และผู้ใหญ่แน่นอน แต่หากเป็นสายขนม ต้องปักหมุดกับร้าน “ERR Modern Taiwanese Dessert” (เออ โมเดิร์น ไต้หวันนีส ดิเซิร์ท) คาเฟ่ขนมหวานสูตรต้นตำรับจากไต้หวันแท้ ที่พร้อมเสิร์ฟเมนูกว่า 80 ชนิด ให้ได้เลือกทานกันตามใจชอบ 

ห้องครัวกับสินค้าภายใต้แบรนด์ดังมากมายที่ยกทัพมาวางเรียงรายให้ได้เลือกกันแบบจุใจ อาทิ Le Creuset (เลอ ครูเซ) แบรนด์เครื่องครัวสัญชาติฝรั่งเศสที่อยู่คู่ครัวมานานร่วมศตวรรษ ด้วยคุณภาพชั้นเลิศและดีไซน์ระดับพรีเมียมจึงได้รับความนิยมและจำหน่ายมากว่า 60 ประเทศทั่วโลก, Smeg (สเมก) เทคโนโลยีเรื่องเครื่องครัวจากประเทศอิตาลีที่ถูกขนานนามว่าสวยที่สุดออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การทำอาหารทั้งด้านคุณภาพและดีไซน์

ห้องแต่งตัวกับพื้นที่ที่ถูกจัดสรรไว้สำหรับสินค้าแฟชั่นทุกรูปแบบ รวมถึงผลิตภัณฑ์ในการดูสุขภาพตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า นำโดย DragCura (แดร็กคูรา) อุปกรณ์ Oral Care ที่คัดสรรผลิตภัณฑ์คุณภาพระดับพรีเมียม ผ่านการดีไซน์และรับรองโดยทันตแพทย์ทั่วโลก O'right (โอไรท์) แบรนด์ความงามจากไต้หวัน ซึ่งเป็นแบรนด์แรกของโลกที่ได้รับการรับรอง Zero Carbon จาก SGS ที่เป็นมากกว่าผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผมและผิวพรรณ แต่ยังทุ่มเท รักษาสิ่งแวดล้อมเพื่อสังคมที่ยั่งยืน , Dr.Pong (ดอกเตอร์พงศ์) สกินแคร์สำหรับคนเป็นสิวผิวแพ้ง่าย ที่มุ่งเน้นเรื่องการสร้างสรรค์สกินแคร์สำหรับผิวคนไทย สำหรับโซนเสื้อผ้า เครื่องประดับ โดยมีแบรนด์ไฮไลต์มาร่วมสร้างสีสันให้การแต่งตัวเป็นเรื่องสนุก อาทิ NooYoo (นูยู) จำหน่ายเครื่องประดับเกรดพรีเมียมแบบที่ไม่ต้องกังวลเรื่องการระคายเคือง และยังให้บริการเจาะหูด้วย, Ravipa (ระวิภา) เครื่องประดับดีไซน์มินิมอลที่อัดแน่นด้วยความหมายดีๆ ในดีไซน์ที่เรียบหรู และยังมีแบรนด์ที่จะมาช่วยเติมเต็มห้องแต่งตัวของสาวๆ ให้กลายเป็นโลกแห่งแฟชั่น ไม่ว่าจะเป็น MOS แบรนด์กระเป๋าโดยดีไซเนอร์คนไทย ที่ผลิตจากหนังงูแท้ทุกใบ, 12 VICTORY (12 วิคตอรี่) แบรนด์เครื่องประดับคริสตัล ตั้งแต่ต่างหู สร้อยคอนาฬิกา จนถึงแหวนที่หยิบจับมาใส่ได้ทุกวัน แมตช์ไปงานก็ได้, OPIUM กระเป๋าหนังจระเข้คุณภาพดีที่มาพร้อมดีไซน์หลากหลาย, Marco Polo (มาร์โค โปโล) แว่นตาหลากหลายคอลเลคชัน มีให้เลือกหลายสีหลากรูปทรง พร้อมกรอบแว่นที่ต่างสไตล์ให้แมตช์ได้อย่างสนุก, Bangkok Bootery The Exotic (บางกอกบู๊ทเทอร์รี่ ดิ เอ็กโซติก) ผลิตภัณฑ์กระเป๋าและเครื่องหนังจระเข้ที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการออกแบบผลิตภัณฑ์เครื่องหนังทำมือมานานกว่า 82 ปี ทำให้ BANGKOK BOOTERY ได้รับความนิยมจากผู้ใช้กระเป๋าหนังจระเข้มาจนถึงทุกวันนี้ Jetriya (เจติยา) 

แบรนด์เสื้อผ้าที่ออกแบบให้มีเอกลักษณ์และแตกต่างตามผู้สวมใส่ ตั้งแต่ผ้าลินินและผ้าฝ้ายคุณภาพสูงจากธรรมชาติ 

ร่วมค้นพบความสุขที่ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ บนพื้นที่แห่งใหม่ “ICONVILLE พื้นที่ Quality Time สำหรับทุกคนในครอบครัว” ชั้น 5 ไอคอนสยาม สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 1338 หรือติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : ICONSIAM 

#ICONSIAM #ICONVILLE #ICONICLifestyle



   

 

Share:

สะเทือนวงการเครื่องซักผ้า! ไฮเออร์ เปิดตัวเครื่องซักผ้าใหม่​ สองซีรีส์ 929A Series และ 278 Series

กรุงเทพฯ ประเทศไทย - ไฮเออร์ (ประเทศไทย) ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับโลกและแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าอันดับ 1 ของโลกติดต่อกัน 14 ปีซ้อน เปิดตัวเครื่องซักผ้ารุ่นใหม่พร้อมกัน 2 ซีรีส์ คือ เครื่องซักผ้าฝาหน้ารุ่น 929A และ เครื่องซักผ้าฝาบนรุ่น 278 ที่สะเทือนวงการเครื่องซักผ้าด้วยการตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คุณแม่บ้านคุณพ่อบ้านยุคใหม่ ให้ซักผ้าด้วยความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เครื่องซักผ้ารุ่นใหม่ทั้งสองซีรีส์นี้ มีการรับประกันตัวเครื่อง 3 ปี และรับประกันมอเตอร์นานถึง 12 ปี อีกด้วย

เครื่องซักผ้าฝาหน้า 929A Series มีถังซักขนาดใหญ่กว้างถึง 525 มิลลิเมตร ช่วยให้สามารถใส่ผ้าได้มากกว่า ซักได้สะอาดขึ้น และช่วยลดรอยยับของเสื้อผ้า เพิ่มประสิทธิภาพการซักได้กว่า 50% ทำให้ง่ายต่อการหยิบผ้ามากขึ้น พร้อมด้วยมี Refresh Mode ที่ช่วยลดกลิ่นอับ กำจัดเชื้อโรค ไวรัส แบคทีเรีย อีกทั้งยังมี Dual Spray System ทำความสะอาดแบบคู่ กำจัดสิ่งสกปรกตกค้างบริเวณขอบยางและฝาประตู ปกป้องเสื้อผ้าของคุณให้สะอาดหมดจดทุกการซัก นอกจากนี้ตัวยางขอบประตูและช่องใส่ผงซักฟอกยังผลิตจากวัสดุที่ป้องกันการสะสมของแบคทีเรียตกค้างได้ถึง 99.9% ที่รับรองโดยสถาบัน VDE และยังเพิ่มประสิทธิภาพให้สูงสุดด้วย Pillow Drum ช่วยถนอมผ้ามากขึ้น ด้วยถังซักรูปหมอน จำนวน 560 shape และรูปล่อยน้ำกว่า 720 รู

และอีกรุ่นกับ เครื่องซักผ้าฝาบน 278 Series ที่มี Direct Drive Inverter Motor มอเตอร์แบบไร้สายพานต่อตรงเข้าเครื่องที่ทั้งทำงานเงียบและประหยัดพลังงาน พร้อมเทคโนโลยี 4D Magic Filter ดีไซน์ไส้กรองแบบใหม่ซึ่งเพิ่มประสิทธิภาพได้ถึง 4 เท่าของไส้กรองปกติ ป้องกันสิ่งสกปรกไหลออก เสริมด้วย Pillow Tub ตัวถังซักภายในดีไซน์รูปหมอนช่วยลดรอยขีดข่วนระหว่างเสื้อผ้ากับตัวถังซักและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำความสะอาดได้ดียิ่งขึ้น และสุดพิเศษด้วย ABT Pulsator จานซักเคลือบสารป้องกันแบคทีเรียเพื่อป้องกันแบคทีเรียตกค้างได้ถึง 99.9% 

สินค้ามีวางจำหน่ายแล้ว ณ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป หรือตัวแทนจำหน่ายผลิตภัณฑ์ไฮเออร์ทั่วประเทศ สอบถามจุดจำหน่ายและรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติมได้ทาง Line official : @haierthailand

สามารถติดตามข้อมูลข่าวสาร โปรโมชัน และกิจกรรมต่าง ๆ จากไฮเออร์ได้ที่ Facebook: Haier Thailand, Instagram: @haierthailand_official, X (Twitter): @ThailandHaier และ TikTok: @haier_thailand หรือดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติม ได้ที่ https://www.haier.com/th


เกี่ยวกับไฮเออร์

ไฮเออร์ เป็นผู้ผลิตและผู้นำรายใหญ่ในด้านผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ล้ำสมัยของโลก โดยมีพันธกิจในการสร้างสรรค์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านเพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี และตอบสนองความต้องการที่หลาก หลายและมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของผู้บริโภคกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ไฮเออร์ครองแชมป์แบรนด์เครื่องใช้ภายในบ้านอันดับ 1 ของโลกติดต่อกัน 14 ปีซ้อน ตั้งแต่ปี 2551 ถึงปี 2565 โดยการจัดอันดับของสถาบันยูโรมอนิเตอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยข้อมูลทางการตลาดที่น่าเชื่อถือที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ มิดัส คอมมิวนิเคชัน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด อีเมล: haier@midas-pr.com

Share:

ไฮเออร์ ประเทศไทย และ ปอป้อ ทรัพย์สิรี ปล่อยวิดีโอไวรัลตัวใหม่ ภายใต้แนวคิด "ไฮเออร์ ไม่หยุดเติมเต็มชีวิตในแต่ละวัน"

กรุงเทพฯ ประเทศไทย - ไฮเออร์ (ประเทศไทย) ผู้นำด้านผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าระดับโลกและแบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าอันดับ 1 ของโลกติดต่อกัน 14 ปีซ้อน เปิดตัววิดีโอไวรัลใหม่ ภายใต้แนวคิด "ไฮเออร์ ไม่หยุดเติมเต็มชีวิตในแต่ละวัน" ถ่ายทอดความรู้สึกผ่าน ปอป้อ ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย นักแบดมินตัน ดีกรีแชมป์โลกประเภทคู่ผสม โดยเป็นการนำเสนอการใช้ชีวิตทั้งการซ้อมการแข่งขัน และเวลาพักผ่อนอยู่ที่บ้านของปอป้อ โดยมีผู้เติมเต็มชีวิตในแต่ละวันอย่างเครื่องใช้ไฟฟ้าไฮเออร์ มาตอกย้ำคอนเซปต์ของแบรนด์ "Haier Inspired Living การใช้ชีวิตของคุณ คือ แรงบันดาลใจของเรา"

โดยวิดีโอไวรัลนี้นำเสนอแนวคิดและการใช้ชีวิตของปอป้อ ที่มีเครื่องใช้ไฟฟ้าจากไฮเออร์เป็นส่วนหนึ่งของ การถ่ายทอด เช่น เครื่องปรับอากาศที่สามารถควบคุมระบบผ่านแอปพลิเคชัน Haier Smart หรือ ตู้เย็น IOT ที่มีระบบ Food Management ซึ่งเป็นตู้เย็นที่มีจอ Touch Screen สำหรับการจัดการวัตถุดิบและสามารถดูอาหารผ่านจอได้ รวมไปถึงเครื่องซักผ้าที่มีระบบ Refresh Mode ที่ช่วยถนอมผ้า และเครื่องอบผ้าที่มีโปรแกรม Sport เหมาะสำหรับอบชุดกีฬาโดยเฉพาะ อีกทั้งยังมีทีวีที่สามารถควบคุมด้วยเสียง Hand-Free Voice Control โดยปราศจากรีโมตคอนโทรล พร้อมเครื่องครัว เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก และเครื่องทำน้ำอุ่น ที่ช่วยให้ชีวิตของปอป้อ และ ทุกคนสะดวกสบายยิ่งขึ้น


ซึ่งวิดีโอไวรัลนี้มีมากกว่า 10 ตอน ซึ่งสามารถรับชมแต่ละตอนผ่านทางช่องทาง Social Media ต่าง ๆ ของ ไฮเออร์ ประเทศไทย ได้แล้ววันนี้ จนถึงช่วงปลายปี

สามารถติดตามข้อมูลข่าวสาร โปรโมชัน และกิจกรรมต่าง ๆ จากไฮเออร์ได้ที่ Facebook: Haier Thailand, Instagram: @haierthailand_official, X (Twitter): @ThailandHaier และ TikTok: @haier_thailand หรือดูรายละเอียดสินค้าเพิ่มเติม ได้ที่ https://www.haier.com/th

เกี่ยวกับไฮเออร์

ไฮเออร์ เป็นผู้ผลิตและผู้นำรายใหญ่ในด้านผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ล้ำสมัยของโลก โดยมีพันธกิจในการสร้างสรรค์เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านเพื่อชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี และตอบสนองความต้องการที่หลาก หลายและมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของผู้บริโภคกว่า 100 ประเทศทั่วโลก ไฮเออร์ครองแชมป์แบรนด์เครื่องใช้ภายในบ้านอันดับ 1 ของโลกติดต่อกัน 14 ปีซ้อน ตั้งแต่ปี 2551 ถึงปี 2565 โดยการจัดอันดับของสถาบันยูโรมอนิเตอร์ อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยข้อมูลทางการตลาดที่น่าเชื่อถือที่สุดแห่งหนึ่งของโลก

สามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ มิดัส คอมมิวนิเคชัน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด อีเมล: haier@midas-pr.com

Share:

Recent Posts

ค้นหาบล็อกนี้

Contact Us ::

📲 (+66) 081 4345154
✉️ Insightoutstory@gmail.com

Add Line📲 Click 👇👇

Translate

🚉 ช.ส.ท.พาเที่ยว นครฯ

Review By Nichapa

POPULAR NEWS

Fanpage Facebook

ป้ายกำกับ

คลังบทความของบล็อก