รีสอร์ท ริมชายหาดชะอำ อวิญานา หัวหิน (Aviyana Hua Hin) สถานที่จัดเลี้ยง บรรยากาศใกล้ชิดธรรมชาติ สุดฟิน!!

อวิญานา หัวหิน (Aviyana Hua Hin) รีสอร์ทสุดชิคที่ตอบโจทย์สำหรับจัดงานอีเวนต์ติดทะเลที่ผสมผสานบรรยากาศสุดชิลล์และความทันสมัย ที่นี้ถือเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ไม่ควรมองข้ามรีสอร์ทแห่งนี้โดดเด่นด้วยสไตล์ Modern Cozy ที่อบอุ่นและมีเสน่ห์ พร้อมสร้างความประทับใจในทุกการจัดงานไม่ว่าจะเป็นงานเลี้ยงบริษัท งานแต่งงานสุดโรแมนติก หรือกิจกรรมพิเศษอื่น ๆ อวิญานาพร้อมจะเปลี่ยนทุกช่วงเวลาให้กลายเป็นความทรงจำที่แสนพิเศษ ด้วยพื้นที่กว้างขวางกว่า 14,400 ตารางเมตร ที่ออกแบบมาเพื่อรองรับทุกไอเดียในการจัดงาน

ความพิเศษของรีสอร์ทแห่งนี้คือการจัดสรรพื้นที่ให้ตอบสนองความต้องการของผู้จัดงานได้อย่างหลากหลายตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นงานเล็กหรืองานใหญ่ อวิญานา หัวหิน (Aviyana Hua Hin) สามารถปรับแต่งพื้นที่และกิจกรรมให้ตรงตามความต้องการของผู้จัดงานโดยที่นี้มีพื้นสามารถจัดงานได้ถึง 3 โซน ซึ่งรองรับความต้องการที่หลากหลายครอบคลุมทั้งแบบในร่มและกลางแจ้ง 

เริ่มกันที่ โซนการ์เด้นและพื้นที่กลางแจ้งติดสระว่ายน้ำ เหมาะสำหรับงานเลี้ยงกลางแจ้งในบรรยากาศใกล้ชิดธรรมชาติ โดยสามารถรองรับแขกได้สูงสุด 400 คน ถัดมาสำหรับพื้นที่การจัดเลี้ยงแบบในร่ม AVOWS Ballroom ห้องบอลรูมขนาด 700 ตารางเมตร สามารถรองรับแขกได้ถึง 300 คน ภายในห้องมีระบบแสงสีเสียงรองรับอย่างครบครันเหมาะสำหรับงานประชุมสัมมนา ปิดท้ายกับการแนะนำพื้นที่สำหรับงานเลี้ยงขนาดเล็กที่เน้นความเป็นกันเองไม่เกิน 200 คน ทางรีสอร์ทได้จัดพื้นที่ดาดฟ้า Siamara ที่เหมาะกับการสร้างบรรยากาศสนุกสนานและเป็นกันเอง เช่น ดนตรีสด Cocktail ปาร์ตี้แบบไพรเวท 

นอกจากพื้นที่จัดงานที่ยืดหยุ่นแล้ว อวิญานา หัวหิน ยังมอบสิทธิพิเศษสุดคุ้มสำหรับผู้จัดงาน เพียงจองห้องพักตั้งแต่ 50 ห้องขึ้นไป ผู้จัดงานสามารถใช้บริการพื้นที่จัดกิจกรรมต่าง ๆ ของรีสอร์ทได้อย่างเต็มรูปแบบไม่ว่าจะเป็นพื้นที่กลางแจ้งหรือห้องบอลรูมขนาดใหญ่ โดยราคาห้องพักจะเริ่มต้นที่ 3,500 บาท ขึ้นอยู่กับช่วงเทศกาลและในช่วงเวลาการจอง

พร้อมทีมงานจัดเลี้ยงมืออาชีพที่พร้อมสร้างสรรค์เมนูอาหารหลากหลายสไตล์ ตั้งแต่ค็อกเทลสุดหรู โต๊ะจีนที่อบอุ่น ไปจนถึงบุฟเฟ่ต์หรือเซ็ทอาหารแบบส่วนตัว โดยทีมเชฟของทางรีสอร์ทพร้อมเนรมิตเมนูเพื่อรองรับความชอบที่แตกต่างกัน ทั้งอาหารไทย อาหารเอเชีย และอาหารท้องถิ่นที่เต็มไปด้วยความประณีต

และหนึ่งในไฮไลต์สำหรับผู้ที่กำลังมองหาสถานที่จัดงานที่สามารถพาสัตว์เลี้ยงแสนรักมาด้วยได้ อวิญานา หัวหินถือเป็นตัวเลือกที่สามารถโจทย์ไลฟ์สไตล์คนรักสัตว์ เพราะเป็นรีสอร์ท Pet-friendly ที่นี้มีห้องพักขนาด 53 ตารางเมตร Oasis Beachfront Villa จำนวน 8 ห้อง ที่ออกแบบมาโดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ต้องการให้สัตว์เลี้ยงได้สัมผัสบรรยากาศสุดชิลริมทะเล ซึ่งสำหรับห้องพักสไตล์วิลลาส่วนตัวราคาเริ่มต้นจะอยู่ที่ 7000 บาท

วางแผนและจองห้องจัดงานในแบบที่ใช่ กับ Aviyana Hua Hin 

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร.032-512-311 ,อีเมล booking@aviyanahuahin.com หรือช่องทางโซเชียลมีเดีย Website:  https://aviyanahuahin.com/ Facebook: Aviyana Hua Hin , Instagram: @aviyanahuahin , พิกัด: No. 1515 Phet Kasem Rd, Sai Tai, Cha-am District, Phetchaburi, Thailand, Phetchaburi

https://aviyanahuahin.com/corporate/

https://aviyanahuahin.com/deluxe-sea-view/



Share:

"Thailand Halal Assembly 2024" โชว์ศักยภาพฮาลาลไทยในยุคเทคโนโลยีดิจิตอล หวังสร้างโอกาสที่ยั่งยืนในอุตสาหกรรมฮาลาลไทย

เมื่อโลกก้าวสู่ยุคเทคโนโลยีดิจิตอล ทิศทางฮาลาลจะเป็นอย่างไร พร้อมค้นพบโอกาสใหม่ ๆ ทางธุรกิจและ เทคโนโลยีฮาลาลที่ตอบโจทย์อนาคตได้ กับงานฮาลาลที่ดีที่สุดในไทย “ #ThallandHalalAssembly2024 " ภายใต้แนวคิด "Toward Halal Trust Through Digital Technology 2 AIs" หรือ "ความไว้วางใจด้านฮาลาล ผ่านเทคโนโลยี ดิจิทัลสองเอไอ” หวังสร้างโอกาสที่ยั่งยืนในอุตสาหกรรมฮาลาลไทย อีกทั้งช่วยให้ประเทศ ไทยได้ขยายส่วนแบ่งทางการตลาดในเศรษฐกิจฮาลาลโลก โดยงานจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 - 20 ธันวาคม 2567 ณ โรงแรมอัลมีรอช กรุงเทพฯ โดยได้รับเกียรติจาก นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวง อุตสาหกรรม เป็นประธานเปิดงาน

รศ.ดร.วินัย ตะห์ลัน ผู้อำนวยการ ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และประธาน จัดงาน Thailand Halal Assembly 2024 กล่าวว่า # ศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ( #ศวฮ.) เป็น เจ้าภาพหลักในการจัดงาน "Thailand Halal Assembly 2024 ( #THA2024 )" การประชุมวิชาการด้าน วิทยาศาสตร์และนวัตกรรมฮาลาลนานาชาติ ซึ่งจัดขึ้นเป็นครั้งที่ 11 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อการแลกเปลี่ยนองค์ ความรู้ใหม่และนวัตกรรมใหม่ๆ ในโลกฮาลาล ให้กับมุสลิมด้วยกันเอง และผู้ที่ไม่ใช่มุสลิมที่มีความสนใจใน อุตสาหกรรมสาลาล 
โดยปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด "Toward Halal Trust Through Digital Technology 2 AIs" หรือ “ความไว้วางใจด้านฮาลาลผ่านเทคโนโลยีดิจิทัลสองเอไอ" ซึ่งปฏิเสรไม่ได้ว่าปัจจุบันโลกของเราก้าวสู่การ เป็นโลกแห่งเทคโนโลยีดิจิทัลอย่างสมบูรณ์แบบ สำหรับ #2AIs ที่ต้องการนำเสนอในงานครั้งนี้ได้แก่ เลโอที่ หนึ่ง คือ Actual Implementation ซึ่งเป็นการปฏิบัติงานผ่านการอัพสกิล ฝึกปฏิบัติด้วยหนึ่งสมองสองมือในการ ทำงาน เช่น งานการมาตรฐานฮาลาล, การวางระบบ HAL-Q. งานห้องปฏิบัติการนิติวิทยาศาสตร์ฮาลาล, งานพัฒนา นวัตกรรม, งานพัฒนาฐานข้อมูล H numbers, การตัดสินทางศาสนา (ฟุตวา) เพื่อให้มนุษย์หรือคนยังคงสภาพผู้นำ โดยมีเครื่องจักรและเอไอเป็นผู้ตาม และเอไอที่สอง คือ Artificial Intelligence โดยใช้ปัญญาประดิษฐ์ เพื่อบริหาร จัดการข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) เพื่อเป็นการลดต้นทุนการผลิต และช่วยให้เกิดความเชื่อมั่นในผลิตภัณฑ์ฮาลาล"

ภายในงานประกอบด้วยกิจกรรมต่างๆ อาทิ งาน IHSATEC (International Halal Science and Technology Conference) ครั้งที่ 11 และงาน HASIB (Halal Science, Industry and Business) งานประชุมวิชาการ ฮาลาลนานาชาติ ครั้งที่ 17 โดยมีหัวข้อการประชุมหลัก คือ “2 AIs for Thailand's Halal Trust & Confidence" และหัวข้ออื่น ๆ ที่น่าสนใจอีกมากมาย อาทิ สาสาลกับสุขภาพและความงาม, ฮาลาลกับวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และ นวัตกรรม และ Halal Route Workshop ซึ่งทั้งสองงานประสบความสำเร็จอย่างยิ่งในการจัดการประชุมระดับ นานาชาติด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี อุตสาหกรรม และธุรกิจฮาลาล โดยมีผู้เข้าร่วมจากมากกว่า 40 ประเทศ บทความวิชาการที่นำเสนอในการประชุม จะได้รับการเผยแพร่ในวารสารวิชาการนานาชาติ JHASIB หรือ Journal of Halal Science, Industry and Business ซึ่งจะเผยแพร่ปีละสองฉบับ เพื่อส่งเสริม งานวิจัยด้านวิทยาศาสตร์สา ลาลในระดับสากล

รวมถึง โซน SMEs ฮาลาล การจัดแสดงศักยภาพผู้ประกอบการในการนำเสนอผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่ร่วม พัฒนาโดยศูนย์วิทยาศาสตร์ฮาลาล จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ซึ่งมีพัฒนาการทั้งกระบวนการผลิต ผลิตภัณฑ์ และ การตลาดทั้งในและต่างประเทศ โดยผู้ประกอบการที่นำเสนอนวัตกรรมผลิตภัณฑ์ในกิจกรรมนี้ ซึ่งได้รับการคัดเลือก จากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิว่ามีความพร้อมและมีศักยภาพที่จะได้รับรางวัลนวัตกรรม SMEs ฮาลาล รวม 18 สถานประกอบการ จากผลิตภัณฑ์อาหารและสินค้าที่ไม่ใช่อาหาร เช่น Suwirun Tea Shop Thailand Premium Organic Tea, Madi Kombucha, Vanapan Vegan Nail Care และผลิตภัณฑ์อื่นๆ อีกมากมาย และที่ห้ามพลาดกับ นิทรรศการ "Halal Trust Through Digital Technology 2AIs" ที่ผสานการนำไปปฏิบัติจริงกับปัญญาประดิษฐ์ (Al) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับสินค้าและอุตสาหกรรมฮาลาลในประเทศไทย เกิดความน่าเชื่อถือและเสริมสถานะ บนเวทีโลก ซึ่งการประชุมในครั้งนี้คาดว่าจะมี ประโยชน์ อย่างยิ่งต่อการพัฒนาวิทยาศาสตร์ อุตสาหกรรม และธุรกิจ ฮาลาล ช่วยให้ประเทศไทยขยายส่วนแบ่งทางการตลาดในเศรษฐกิจฮาลาลจากมูลค่าปัจจุบัน 6.1 พันล้านดอลลาร์ สหรัฐ โดยไม่รวมการท่องเที่ยวฮาลาล ยา และโลจิสติกส์ ซึ่งกำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในขณะนี้

สำหรับผู้สนใจสามารถสอบถามข้อมูลด้านวิทยาศาสตร์ฮาลาลและนวัตกรรมฮาลาล ค้นพบโอกาสใหม่ๆ ทาง ธุรกิจและเทคโนโลยีฮาลาลที่ตอบโจทย์อนาคต รวมถึงติดตามข่าวสารต่างๆ ของงานเพิ่มเติมได้ที่ www.Thailandhalalassembly.com, Facebook: Thailand Halal Assembly หรือโทร. 02-218-0618 รศ.ดร.วินัย กล่าวปิดท้าย

Share:

พช. จัดโปรใหญ่ส่งท้ายปี โอทอปลดทะลุจอเสิร์ฟของขวัญโอทอป รับเทศกาลปีใหม่ ช้อปง่าย ผ่านแพลตฟอร์มช้อปปี้

พช. ชวนเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ชุมชนเป็นของขวัญ ของฝากในเทศกาลปีใหม่ 2568 กระตุ้นเศรษฐกิจฐานรากช่วงปลายปี จัดชุดของขวัญโอทอปยอดฮิต สั่งง่าย ช้อปสะดวกบนแพลตฟอร์มช้อปปี้ ผ่านแคมเปญ “โปรใหญ่ส่งท้ายปี OTOP ลดทะลุจอ” กับโปรโมชันส่วนลด และส่งฟรี ทั่วไทย เริ่ม 15 ธ.ค.67 – 14 ม.ค.68 ใน OTOP Amazing : 6 สีสัน Season Sale ทะลุปี

กรมการพัฒนาชุมชน โดยนายสยาม ศิริมงคล อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กระทรวงมหาดไทย จัดทำ “โครงการตลาดอะเมซิ่ง ของกินของใช้ ของดีทั่วไทย” เพื่อสร้างรายได้ให้กับผู้ผลิต ผู้ประกอบการโอทอป เพิ่มช่องทางการตลาด ยกระดับการค้าผ่านอีคอมเมิร์ซ โดยในปีนี้จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “OTOP Amazing : 6 สีสัน Season Sale ทะลุปี” ผ่านแคมเปญส่งเสริมการขายรวม 6 เดือน 6 แคมเปญ บนแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซขนาดใหญ่อย่างช้อปปี้ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 4 ทั้งนี้ ในแต่ละแคมเปญจะมีผู้ผลิต และผู้ประกอบการจาก 76 จังหวัดทั่วประเทศกว่า 500 รายเข้าร่วม และสลับหมุนเปลี่ยนกันไปในแต่ละเดือนเพื่อเพิ่มความหลากหลายให้กับผู้บริโภค

โดยที่ผ่านมากับแคมเปญแรกของโครงการ คือ “Celebrating 62nd Birthday Sale” เนื่องในโอกาสครบ 62 ปี การก่อตั้งกรมการพัฒนาชุมชน ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 15 ตุลาคม – 14 พฤศจิกายน 2567 พบว่า สามารถสร้างรายได้ให้กับผู้ผลิต และผู้ประกอบการที่เข้าร่วมแคมเปญกว่า 18.2 ล้านบาท และแคมเปญที่ 2 “อร่อยเด็ด ลดเดือด ดีลฟิน กิน จุกๆ” ระหว่างวันที่ 15 พฤศจิกายน – 14 ธันวาคม 2567 พบว่าได้ผลตอบรับเป็นที่น่าพอใจทั้งจากผู้ประกอบการที่เข้าร่วมแคมเปญ และผู้บริโภคที่ร่วมสนับสนุนผลิตภัณฑ์โอทอปผ่านช่องทางออนไลน์ อีกทั้ง ยังสามารถขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มผู้บริโภคใหม่ที่เป็นกลุ่มวัยรุ่นเพิ่มขึ้นจากการทำการตลาด และประชาสัมพันธ์ผ่านอินฟลูเอนเซอร์ทางโซเชียลมีเดียที่ได้รับความนิยม อย่าง Facebook, X, Instagram, Tiktok อีกด้วย


สำหรับแคมเปญ “OTOP Amazing : โปรใหญ่ส่งท้ายปี OTOP ลดทะลุจอ” เป็นแคมเปญที่ 3 ของโครงการ จะอยู่ในช่วงเทศกาลของการเลือกซื้อของขวัญ ของฝาก ต้อนรับปีใหม่ การสนับสนุนผลิตภัณฑ์ชุมชน ผลิตภัณฑ์โอทอปคุณภาพดีจากทั่วประเทศไทย มาเป็นของขวัญ ของฝาก ในช่วงเทศกาลปีใหม่ เป็นอีกหนึ่งไอเดียที่น่าสนใจ เนื่องจากสามารถเลือกผลิตภัณฑ์ได้หลากหลาย ตอบโจทย์ได้ทุกกลุ่ม ทุกช่วงวัย อาทิผลิตภัณฑ์แปรรูปจากผลไม้ไทย เช่น มะพร้าวแก้วเคียงเลย โอทอป 5 ดาว จาก จ.เลย, สมุนไพร เช่น เซทของขวัญมอบให้ผู้ใหญ่ยาสามัญประจำบ้าน แผนโบราณ "ฮอมเมิน" จาก จ.พะเยา, ผ้าทอมือ เช่น ชุดกล่องของขวัญผ้าพันคอผ้าฝ้ายย้อมครามบ้านนาขาม จาก จ. สกลนคร รวมถึงหัตถกรรมพื้นบ้าน และของใช้ที่ระลึกที่แสดงถึงเอกลักษณ์ความเป็นไทย เป็นต้น ซึ่งสามารถสร้างความประทับใจให้กับผู้รับ และยังเป็นการส่งเสริมผลิตภัณฑ์ชุมชนไทยอีกด้วย โดยผู้บริโภคจะได้เลือกสรรผลิตภัณฑ์โอทอป พร้อมสนับสนุนผลิตภัณฑ์ชุมชนได้อย่างสะดวก จากผู้ประกอบการโดยตรง พร้อมกับโปรโมชั่นส่วนลดสินค้า และส่วนลดค่าขนส่ง ตลอดระยะเวลา 30 วันของแคมเปญ

ทั้งนี้ แคมเปญที่ 3 ของโครงการฯ “โปรใหญ่ส่งท้ายปี OTOP ลดทะลุจอ” จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 15 ธันวาคม 2567 – 14 มกราคม 2568 จะเป็นสีสันของชุดเซตผลิตภัณฑ์โอทอปที่เหมาะกับการเป็นของขวัญของฝากในเทศกาลปีใหม่ และผลิตภัณฑ์หลากหลายประเภททั้งอาหารและเครื่องดื่ม, ผ้า เครื่องแต่งกาย, ของใช้/ของตกแต่ง/ของที่ระลึก และสมุนไพรที่ไม่ใช่อาหาร ที่คัดสรรและรวบรวมไว้ในแคมเปญกว่า 750 ผู้ประกอบการ มากกว่า 5,000 ผลิตภัณฑ์ มาขายบนแพลตฟอร์มช้อปปี้ พร้อมรับส่วนลดสูงสุด 100 บาท และคูปองส่งฟรี ได้ทั้งแคมเปญ ตลอดทุกวัน 24 ชั่วโมง ที่ https://shopee.co.th/m/otop หรือ พิมพ์คำว่า OTOP หรือ โอทอป หรือ โอทอปอะเมซิ่ง 

Share:

เทอร์มินอล21 พระราม3 และ แฟชั่นไอส์แลนด์ ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุข ครั้งแรกในไทย! เอาใจสาวก ‘ชินจัง’ กับธีมตะลุยหิมะ ท้าลมหนาวงาน SHINCHAN WINTER Wonderland พร้อมสนุกกับมินิคอนเสิร์ตจากกองทัพศิลปินชั้นนำ เริ่ม 20 ธ.ค. 67 – 1 ม.ค. 68

 

ศูนย์การค้าเทอร์มินอล21 พระราม3 ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ขอมอบความสุข ฉลองส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปี 68 ในธีม ‘SHINCHAN WINTER Wonderland’ ร่วมตื่นตาตื่นใจไปกับคาแรคเตอร์ชินจังสุดคิ้วท์ ! นำทัพแก๊งเพื่อนมาสนุกตะลุยแดนหิมะ ให้ทุกคนได้สัมผัสบรรยากาศโลกแห่งจินตนาการของชินจังทั่วทั้งศูนย์การค้าฯ พร้อมร่วมสนุกไปกับ Snowy Playground ลานหิมะท้าลมหนาว และ Ice Hocky ลานฮอกกี้สุดมัน เนรมิตความสนุกตลอดงาน (เข้าฟรี! เพียงแสดงใบเสร็จสินค้าภายในศูนย์ฯ ไม่มีขั้นต่ำ) รวมไปถึง Photo Spot ชินจังก้นเด้งดึ๋ง จุดถ่ายรูปที่ทุกคนต้องไม่พลาดมาเช็คอิน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรม Meet & Greet มาสคอตชินจังลิขสิทธิ์แท้ ท่ามกลางวิว Sunset ริมแม่น้ำ ในวันที่ 22, 24, 29 และ 31 ธันวาคม 2567 ตามรอบที่กำหนด ณ บริเวณเวทีกิจกรรมชั้น G และ 2

สำหรับนักช้อปสายอาร์ตและสาวกชินจัง พบกับสินค้าชินจังลิขสิทธิ์แท้มากกว่า 1,000 ไอเท็ม และสิทธิพิเศษแลกรับของพรีเมี่ยมชินจังสุดลิมิเต็ด ไม่ว่าจะเป็น กระเป๋าชินจังนุ่มฟูสุดน่ารัก ที่รองแก้ว พร้อมท้อปอัปความฟิน ร่วมทำ Workshop DIY เพ้นท์คุกกี้สุดน่ารักลายชินจัง และบริการห่อของขวัญฟรีลายชินจังสุดน่ารัก เมื่อทำตามเงื่อนไข (จำนวนจำกัด) ต่อด้วยไฮไลท์สุดพิเศษ 

ร่วมสนุกไปกับมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินแนวหน้าระดับประรวมถึงสิทธิร่วมทำ Workshop DIY เพ้นท์คุกกี้สุดน่ารักลายชินจัง เมื่อทำตามเงื่อนไข (จำนวนจำกัด) ต่อด้วยไฮไลท์สุดพิเศษ ร่วมสนุกไปกับมินิคอนเสิร์ตจากศิลปินแนวหน้าระดับประเทศ ได้แก่ 20 ธ.ค. 67 เวลา 18.00 น. พบกับ INK WARUNTORN, 23 ธ.ค. 67 เวลา 18.00 น. พบกับ SERIOUS BACON, 25 ธ.ค. 67 เวลา 18.00 น. พบกับ THE TOYS, 27 ธ.ค. 67 เวลา 18.00 น. พบกับ YOURMOOD และ 31 ธ.ค. 67 เวลา 20.00 น. พบกับ BELL WARISARA ปิดท้ายความประทับใจคืนสิ้นปีกับการชมพลุแรกแห่งปีก่อนใคร “First light, First Spark” ในเวลา 21.00 น. ณ ชั้น G และ ชั้น 2 ริมแม่น้ำเจ้าพระยา

ทางด้าน ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์ จัดเต็มไม่แพ้กัน เอาใจนักช้อปย่านรามอินทราที่ไม่อยากไปไหนไกลกับคาแรคเตอร์ ‘SHINCHAN WINTER Wonderland’ ร่วมตื่นตาตื่นใจไปกับ Snowball Playground สุดว้าวไปกับสไลด์เดอร์บ่อบอลยักษ์ และกิจกรรมสุดน่ารักจากชินจังจอมแก่นอีกมากมาย พบกับ Shinchan Giant Balloon ขนาดใหญ่กว่า 4 เมตร ที่แรกในประเทศไทย พร้อมใกล้ชิดกับกิจกรรม Meet & Greet มาส คอตชินจังสุดน่ารัก น่ากอด ลิขสิทธิ์แท้ ในวันที่ 21, 25, 28 ธันวาคม 2567 และ 1 มกราคม 2568 ตามรอบที่กำหนด

นอกจากนี้ยังร่วมส่งต่อความคุ้มกับโปรโมชั่นสุขสันต์วันช้อป รับฟรี! กระเป๋าชินจังนุ่มฟูสุดน่ารัก, ที่รองแก้วลายชินจัง, หรือเลือกรับ Gift Voucher และของสมมาคุณกว่า 2,500 รางวัล พร้อมร่วมสนุกฟรี! ไปกับกิจกรรมชินจังจอมแก่น เมื่อทำตามครบเงื่อนไขที่กำหนด อีกทั้งยังสนุกไปกับกิจกรรมมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Snowball playground สไลด์เดอร์ยักษ์บ่อบอล ธีมคาแรกเตอร์ SHINCHAN WINTER Wonderland, ตู้คีบตุ๊กตาชินจังลิขสิทธิ์แท้ Shinchan Claw Machine และ ครั้งแรก! กับ Shinchan Sticker Photo Booth ตู้สติ๊กเกอร์ชินจังภายใต้ธีม Winter Wonderland และ Photo Spot ชินจังและแก๊งเพื่อนตะลุยแดนหิมะ จุดถ่ายรูปที่ทุกคนจะต้องมาเช็คอิน แถมงานนี้ยังแจกฟรี! หน้ากาก Action Kamen เมื่อถ่ายรูปภายในงาน พร้อมแชร์ลงเฟสบุ๊คและติด #Shinchanwinterwonderland2024

 

ปิดท้ายความสนุกกับมินิคอนเสิร์ตจากเกิร์ลกรุ๊ป Sugar 'N Spice 5 สาวสวยดาวดวงใหม่ของค่าย LIT Entertainment วันที่ 20 ธ.ค. 67 เวลา 16.00 น. และวันที่ 28 ธ.ค.67 ฟินไปกับศิลปินไอดอล จากค่าย Idolfactory ตั้งแต่ 14.00 น. เป็นต้นไป

ติดตามรายละเอียดและข่าวสารความเคลื่อนไหวได้ทางเว็บไซต์ www.termina21.co.th และ www.fashionisland.co.th รวมทั้งช่องทางออนไลน์ทุกแพลตฟอร์มของทุกศูนย์การค้า ได้แก่

• ศูนย์การค้าเทอร์มินอล21 สาขาพระราม3 www.facebook.com/Terminal21RM3ShoppingMall

• ศูนย์การค้าแฟชั่นไอส์แลนด์และเดอะพรอมานาด https://www.facebook.com/FashionislandPromenade

 

Share:

“พิพัฒน์” มอบ เลขา “อารี” วางศิลาฤกษ์อาคารสำนักงานประกันสังคมจังหวัดบุรีรัมย์ สาขานางรอง พร้อมยกระดับการให้บริการ เพิ่มความสะดวกแก่ นายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ประกันตนในเขตพื้นที่ทั้ง 10 อำเภอ


นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มอบหมายให้ นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์อาคารสำนักงานประกันสังคมจังหวัดบุรีรัมย์ สาขานางรอง ในวันอาทิตย์ที่ 8 ธันวาคม 2567 โดยมี นายเจริญ แหวนเพ็ชร รองผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม ผู้บริหารและหัวหน้าส่วนราชการในสังกัดกระทรวงแรงงาน หัวหน้าส่วนราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เข้าร่วมพิธี ณ ตำบลนางรอง อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์

นายอารี ไกรนรา เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ขอขอบพระคุณท่าน พิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเป็นอย่างสูง ที่กรุณาให้ผมมาเป็นประธานในพิธีวางศิลาฤกษ์ก่อตั้งอาคารสำนักงานประกันสังคมจังหวัดบุรีรัมย์ สาขานางรอง แห่งใหม่ ในวันนี้ ซึ่งจะเป็นการเพิ่มความสะดวกให้แก่นายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ประกันตน และประชาชน ในเขตพื้นที่รับผิดชอบ 10 อำเภอ รวมถึงอำเภอในจังหวัดที่เป็นเขตรอยต่อ ให้สามารถเข้ามาใช้บริการได้ ซึ่งจะส่งผลดีต่อการยกระดับการให้บริการ สร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้รับบริการ และเสริมสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้แก่สำนักงานประกันสังคม ในโอกาสนี้ ผมขอขอบคุณ คณะผู้บริหาร แขกผู้มีเกียรติ และผู้ที่มาร่วมงานทุกท่าน และขออาราธนาคุณพระศรีรัตนตรัยและสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ได้ดลบันดาลประทานพรให้กับ “ครอบครัวแรงงาน” ประสบแต่ความสุข ความสำเร็จ ทั้งแรงกายแรงใจที่เข้มแข็ง พร้อมร่วมกันขับเคลื่อนภารกิจงานของกระทรวงแรงงาน ให้เป็นที่พึ่ง เป็นองค์กร ที่ทุกคนยอมรับ เชื่อมั่น และไว้วางใจ ให้กับแรงงานและประชาชนตลอดไป

นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม ได้จัดสรรเงินรายได้ตามงบประมาณรายจ่ายที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการประกันสังคม พ.ศ. 2566 ลงวันที่ 26 ธันวาคม 2565 โดยจัดสรรเงินงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารงานของสำนักงานประกันสังคมจังหวัดบุรีรัมย์ สาขานางรอง ยุทธศาสตร์ที่ 2 การสร้างพลังแห่งการขับเคลื่อนสู่องค์กรแห่งความเชื่อมั่นความไว้วางใจและมีธรรมาภิบาล โดยการก่อสร้างอาคารสำนักงานประกันสังคมจังหวัดบุรีรัมย์ สาขานางรอง (ปี 2566 – 2568) วงเงินกว่า 38 ล้านบาท เป็นการก่อสร้างอาคารสำนักงานฯ ในที่ราชพัสดุทะเบียนเลขที่ บร 123 ตำบลนางรอง อำเภอนางรอง จังหวัดบุรีรัมย์ เนื้อที่จำนวน 5 ไร่ เพื่อให้บริการแก่นายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ประกันตน และประชาชนทั่วไป ผมขอขอบคุณแขกผู้มีเกียรติทุกท่าน ที่มาร่วมงานในครั้งนี้ เพื่อเป็นความเป็นสิริมงคล ให้กับ “ครอบครัวแรงงาน” ที่จะร่วมการขับเคลื่อนนโยบาย สร้างหลักประกันทางสังคม เน้นทักษะทันสมัย ให้คนไทยมีงานทำ สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย เศรษฐกิจ และแรงงานไทยที่มั่นคง”

ด้าน นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวว่า สำนักงานประกันสังคมมีความมุ่งมั่นพัฒนางานของสำนักงานประกันสังคมในทุกมิติ เพื่อบรรลุวิสัยทัศน์ “องค์กรแห่งความเชื่อมั่น ด้านการให้บริการประกันสังคมที่ทันสมัย” การก่อสร้างอาคารสำนักงานประกันสังคมจังหวัดบุรีรัมย์ สาขานางรอง แล้วเสร็จ จะเป็นการเพิ่มความสะดวกให้แก่นายจ้าง ลูกจ้าง ผู้ประกันตน และประชาชนในเขตพื้นที่รับผิดชอบ 10 อำเภอ คือ อำเภอนางรอง อำเภอชำนิ อำเภอหนองกี่ อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอละหานทราย อำเภอปะคำ อำเภอโนนดินแดง อำเภอโนนสุวรรณ อำเภอบ้านกรวด และอำเภอประโคนชัย ซึ่งมีสถานประกอบการจำนวน 941 แห่ง ผู้ประกันตนกองทุนประกันสังคม จำนวน 28,183 คน ทั้งนี้ กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม พร้อมยกระดับการให้บริการงานด้านประกันสังคม ให้เป็นที่ยอมรับ เชื่อมั่น ไว้วางใจจากทุกภาคส่วน พร้อมขับเคลื่อนพัฒนาระบบประกันสังคม อยู่คู่สังคมไทยในการสร้างหลักประกันความมั่นคงในการดำรงชีวิตให้กับลูกจ้าง ผู้ประกันตน ซึ่งเป็นครอบครัวประกันสังคมในทุกช่วงชีวิต อย่างยั่งยืนตลอดไป



Share:

เริ่มแล้ว !! “หินซ้อน” เปิดตัวเทศกาลท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์กับการท่องเที่ยวแนวใหม่ “มหัศจรรย์การอาบป่า“ ขานรับลมหนาวช่วงปีใหม่

เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวตำบลหินซ้อน สมาคมท่องเที่ยวสระบุรีและอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี  ร่วมกับตำบลหินซ้อน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และคณะผู้ร่วมผจญภัย จัดกิจกรรมเปิดตัวเทศกาลท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ “มหัศจรรย์การอาบป่า”ในลำน้ำป่าสัก ( Forest Bathing ) ” เพื่อนำนักท่องเที่ยวสู่เส้นทางธรรมชาติและดูแลสุขภาพและชุมชน ต้อนรับปีใหม่ ปี 2568  โดย มีนายมนตรี ปรีดา นายอำเภอแก่งคอย นายกิตินันท์ แม้นเลขา ประธานชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวตำบลหินซ้อน นางสาววัณณิกา รัตพงศ์ นายกสมาคมการท่องเที่ยวจังหวัดสระบุรี นส.จุฑามาศ สายสุวรรณ์ เลขาธิการ สมาคม ฯ นายบุญมี สรรพคุณ อุปนายก สมาคม ฯ และ คณะองค์การบริหารส่วนตำบลหินซ้อน ณ ตำบลหินซ้อน อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี 

นายมนตรี ปรีดา นายอำเภอแก่งคอย
กล่าวว่า ที่นี่เหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่รักสายแอดเวนเจอร์ รักธรรมชาติ ด้านหลังคือแม่น้ำป่าสัก ซึ่งเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา เราได้ร่วมกันล่องแก่งหนึ่งครั้งแล้ว ครั้งนี้เป็นกิจกรรมคลิกอ๊อฟหลังจากน้ำในแม่น้ำป่าสักเริ่มใส สวย และน้ำไม่เชี่ยวและปลอดภัยแล้ว หินซ้อน! “แหล่งท่องเที่ยวสำหรับคนรักสุขภาพและการผจญภัย” A Wellness Adventures, Ecotourism & Forest Bathing Destination สำหรับคนรุ่นใหม่ที่ใส่ใจในสิ่งแวดล้อม)

วันนี้ทีมงาน มีโอกาสท่องเที่ยวจังหวัด สระบุรี อีกหนึ่งกิจกรรมทางธรรมชาติ การล่องป่าสัก พายเรือ

แคนนู พายเรือคายัคกัน ก็ทั้งหมด 15 ลำ ระยะทาง 3 กิโลเมตร จากท่าที่ วัดศรีวังม่วง ไปสิ้นสุดและขึ้นที่

ท่าสะบก ระหว่างสองฟากฝั่ง  สามารถสัมผัสทั้งป่าทั้งธรรมชาติสวยงาม เสน่ห์ของการพายเรือคายัค

ในครั้งนี้ นอกจากจะได้ชมความสวยงามทางธรรมชาติ เสน่ห์อีกจุดหนึ่งคือ หยุดพัก เล่นน้ำ ถ่ายภาพ และชมผาหมีเหนือ เสือใต้  Unseen แห่งใหม่ของจังหวัดสระบุรี ซึ่งเมื่อล่องลำน้ำไปได้สักระยะ แวะที่จุดชมวิวผาหมีเหนือ เสือใต้ ตรงนั้นจะเป็นจุดไฮไลท์ซึ่งสวยงามแห่งหนึ่งในประเทศไทยที่อยากแนะนำ

นางสาวปนัดดา มาศศรีไสย หนึ่งในคณะกรรมการชมรมฯ สำหรับนักท่องเที่ยวที่สนใจที่จะมาท่องเที่ยวกับชมรมฯ ของเรา หินซ้อน สามารถเข้าชมรายละเอียดได้ที่ Facebook Fanpage : ชมรมส่งเสริมการท่องเที่ยวหินซ้อน จะสามารถจองได้ในวันเสาร์ วันอาทิตย์และวันนักขัตฤกษ์ วันธรรมดาจองเป็นกรุ๊ป 10 คนขึ้นไป เราจะประสานงานทุกอย่างให้ ทั้งเรือและเจ้าหน้าที่ไว้ให้บริการ  

ท่องเที่ยวเชิงนิเวศน์ตำบลหินซ้อน อำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี เพื่อร่วมต้อนรับปีใหม่ 2568 ด้วยการท่องเที่ยวแนวใหม่ ‘Forest Bathing’ ที่จะพาให้ใกล้ชิดธรรมชาติมากยิ่งขึ้น พร้อมดูแลสุขภาพและชุมชนไปพร้อมกัน “มหัศจรรย์การอาบป่าในลำน้ำป่าสัก ด้วยการพายเรือคายัคและแคนนูมผาหมีเหนือ เสือใต้ สัมผัสกลิ่นไอธรรมชาติรอบตัวคุณ“ (Kayaks & Canoe Forest Bathing) เปิดบริการเฉพาะวันเสาร์-อาทิตย์และ

วันหยุดนักขัตฤกษ์ ◦ วันธรรมดาพิเศษสำหรับนักท่องเที่ยวกลุ่มเท่านั้น โดยจัดเตรียมอาหารว่างระหว่างเดินทาง น้ำดื่ม ค่าเช่าเรือ เสื้อชูชีพ วิทยากร บุคลากรสอนพาย Life Guard บริการรถรับ-ส่ง และประกันภัยฯ ประชาสัมพันธ์ชมรมฯ 

สนใจร่วมกิจกรรมติดต่อ

คุณตุ๊กตา - พริตา ยอดประสาท โทร : 097-063-3742

คุณแอน - สุพัตตรา เชื่อมขุนทศ 092 861 7872 

Share:

“พิพัฒน์" มุ่งสร้างสวัสดิการให้เงินทดแทนการขาดรายได้ แรงงานอิสระและอาสาสมัครแรงงาน ในพื้นที่ กทม. กว่า 1.72 ล้านคน

วันที่ 27 พฤศจิกายน 2567 นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดโครงการสื่อสารสร้างการรับรู้ประชาสัมพันธ์งานประกันสังคมให้กับแรงงานอิสระและอาสาสมัครแรงงานในพื้นที่ กทม. โดยมี นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม พร้อมด้วยคณะผู้บริหารกระทรวงแรงงาน ผู้บริหารสำนักงานประกันสังคม อาสาสมัครแรงงาน เครือข่ายประกันสังคมมาตรา 40 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครและสื่อมวลชน เข้าร่วมกิจกรรมในโครงการดังกล่าว ณ โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ รัชดา กรุงเทพมหานคร

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่าการอบรมโครงการสื่อสารสร้างการรับรู้ประชาสัมพันธ์งานประกันสังคม ในครั้งนี้ กระทรวงแรงงานมีความมุ่งมั่นดำเนินการตามเป้าหมาย ภายใต้นโยบาย “หลักประกันทางสังคมเด่น เน้นทักษะทันสมัย คนไทยมีงานทำ สร้างวัฒนธรรมความปลอดภัย เศรษฐกิจแรงงานไทยมั่งคง” ที่ถือเป็นส่วนสำคัญโดยเฉพาะกลุ่มอาสาสมัครแรงงาน เครือข่ายประกันสังคมในพื้นที่กรุงเทพมหานครให้มีส่วนร่วมในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้สิทธิประโยชน์ รวมทั้ง ส่งเสริมให้แรงงานอิสระได้รับสวัสดิการในทุกด้าน อาทิ การคุ้มครองด้านสุขภาพ ให้ได้รับค่าชดเชยตั้งแต่วันแรกเมื่อแพทย์สั่งหยุดงาน เมื่อจ่ายเงินสมทบครบตามเงื่อนไข ด้านสังคม 

ด้านอาชีพ และด้านที่อยู่อาศัย ซึ่งกระทรวงแรงงานได้ขยายสิทธิการกู้ซื้อบ้านให้ครอบคลุมกับผู้ประกันตนทุกมาตรา จึงอยากให้ส่งเสริมการสร้างการรับรู้ให้กับอาสาสมัครแรงงาน เครือข่ายประกันสังคม ในพื้นที่สามารถนำไปขยายถึงผู้อาศัยในชุมชนให้ได้รับสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ได้อย่างครอบคลุม ปัจจุบันกรุงเทพมหานครมีผู้ประกันตนมาตรา 40 จำนวน 1.72 ล้านคน โดยผู้ประกันตนมาตรา 40 ได้รับสิทธิประโยชน์สูงสุดถึง 5 กรณี  เช่น กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยจะได้รับเงินทดแทนการขาดรายได้สูงสุดถึง 90 วัน กรณีทุพพลภาพรับเงินทดแทนการขาดรายได้ 500 – 1,000 บาทต่อเดือน ได้รับสูงสุดตลอดชีวิต กรณีเสียชีวิตได้รับเงินค่าทำศพสูงสุด 50,000 บาท กรณีชราภาพได้เงินบำเหน็จ และกรณีสงเคราะห์บุตรได้รับเงินรายเดือนตั้งแต่บุตรแรกเกิดจนถึงอายุครบ 6 ปีบริบูรณ์ ทั้งนี้ สำนักงานประกันสังคมยังมีโครงการสินเชื่อที่อยู่อาศัยเพื่อผู้ประกันตน เปิดโอกาสให้ผู้ประกันตนมาตรา 40 ที่อยากมีบ้านเป็นของตัวเอง/มีสิทธิ์ได้วงเงินกู้ซื้อบ้านหรือซื้อที่ดินปลูกบ้านได้สูงสุด 2 ล้านบาทต่อราย เพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี 

มีความมั่งคงและเป็นกำลังสำคัญในการพัฒนาระบบเศรษฐกิจต่อไป

                             

        นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ปัจจุบันมีผู้ประกันตนมาตรา 40 จำนวนกว่า 11 ล้านคน มีตัวแทนเครือข่ายประกันสังคม จำนวนกว่า 25,000 คน และเครือข่าย “บวร” กลุ่มสมาชิกบ้าน วัด โรงเรียน และโรงงาน จำนวน 247,000 คน ทั่วประเทศ กระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม ได้ให้ความสำคัญกับการสื่อสาร การสร้างการรับรู้และการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ภารกิจด้านการประกันสังคมให้ประชาชน อาสาสมัครแรงงาน เครือข่ายแรงงานในพื้นที่ได้รับทราบ จึงได้จัดให้มีโครงการสื่อสารสร้างการรับรู้ประชาสัมพันธ์งานประกันสังคมในวันนี้


          ด้าน นางมารศรี ใจรังษี เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวเสริมว่า สำนักงานประกันสังคมต้องการเน้นย้ำความสำคัญของประกันสังคมมาตรา 40 ที่ให้การคุ้มครองแก่แรงงานนอกระบบ และเพิ่มพูนศักยภาพของเครือข่ายประกันสังคมให้มีความรู้ ความเข้าใจ เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ที่ผู้ประกันตนจะได้รับ ให้สามารถขยายผล รณรงค์ให้แรงงาน ภาคอิสระเข้าสู่ระบบประกันสังคมเพิ่มขึ้น สำหรับการจัด “โครงการสื่อสารสร้างการรับรู้ประชาสัมพันธ์งานประกันสังคม” ถือเป็นส่วนหนึ่งในการประชาสัมพันธ์ สร้างการรับรู้ถึงการมีส่วนร่วมของเครือข่ายประกันสังคม เช่น การให้บริการรับสมัครผู้ประกันตนมาตรา 40 การรับสมัครเครือข่ายประกันสังคม การอภิปรายร่วมแลกเปลี่ยนความรู้ด้านการประกันสังคมมาตรา 40 การออกร้านจำหน่ายสินค้าของเครือข่ายประกันสังคม การจัดนิทรรศการของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน รวมทั้งการจัดกิจกรรมต่าง ๆ ของภาคีเครือข่ายอีกด้วย

-------------------------------------------

ศูนย์สารนิเทศ สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน


Share:

เวเบอร์ ตราตุ๊กแก ลุยสื่อสารผลิตภัณฑ์ ครบทั้งงานปูกระเบื้อง งานกันซึม และ เคมีภัณฑ์ก่อสร้าง สร้างความเชื่อมั่น เติบโตอย่างยั่งยืน

กรุงเทพฯ, 26 พฤศจิกายน 2567 - เวเบอร์ ตราตุ๊กแก ผู้เชี่ยวชาญด้านผลิตภัณฑ์กาวซีเมนต์ กาวยาแนว กันซึม และ เคมีภัณฑ์ก่อสร้าง เปิดตัวโฆษณาใหม่ ลุยสื่อสารกลุ่มผลิตภัณฑ์ครบ ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคทุกกลุ่ม ทั้ง ช่าง ผู้รับเหมา สถาปนิก และเจ้าของบ้าน ให้ได้มากที่สุด โดยเพิ่มความหลากหลายของช่องทางการสื่อสาร และกิจกรรมด้านการตลาด สร้างความเชื่อมั่น มั่นใจ ภายใต้แบรนด์ เวเบอร์ ตราตุ๊กแก ในทุกกลุ่มผลิตภัณฑ์ ในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ 

นางสาวศิวารยา ศรีติรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แซง-โกแบ็ง ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า “บริษัทเน้นการสื่อสาร และเร่งทำกิจกรรมด้านตลาดใน 3 กลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก คือกลุ่มผลิตภัณฑ์สำหรับงานปูกระเบื้อง งานกันรั่วซึม และ เคมีภัณฑ์ก่อสร้าง อย่างต่อเนื่องในปีนี้ โดยชูเรื่องผลิตภัณฑ์นวัตกรรมที่ได้รับมาตรฐานยุโรป พร้อมขยายตลาดให้เข้าถึงกลุ่มของผู้บริโภคที่ต้องการผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ ป้องกันและแก้ไขปัญหาต่างๆของที่อยู่อาศัยให้แข็งแรง ทนทาน และปลอดภัยต่อทุกคนให้มากที่สุด ผ่านช่องทางตัวแทนจำหน่าย ช่องทางโมเดิร์นเทรด กลุ่มผู้รับเหมา และกลุ่มโครงการ รวมถึงในช่องทางออนไลน์ ซึ่งได้รับผลตอบรับที่ดีและมียอดขายเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง”

สำหรับแผนการสื่อสารการตลาดในปีนี้ เวเบอร์ ตราตุ๊กแก ได้วางแผนปูพรมสื่อสารทุกช่องทาง ทั้งการสื่อสารทางการตลาดออฟไลน์และออนไลน์ โดยใช้สื่อโฆษณา “ทุกพื้นที่ เชื่อมั่น มั่นใจ เวเบอร์ ตราตุ๊กแก” ควบคู่กับ กิจกรรมชิงโชค ภายใต้ ชื่อแคมเปญ ช้อปถูกใจ รวยลุ้นล้าน แจกทองทุกสัปดาห์ มูลค่าของรางวัลมากกว่า 2.4 ล้านบาท และใช้ KOL / Influencer เจาะตลาดกลุ่มคนรุ่นใหม่ในหลายช่องทาง เช่น TikTok พร้อมทั้งจัดโรดโชว์ในสถานที่ต่างๆ สร้างความจดจำด้านคุณภาพของสินค้า และความน่าเชื่อถือของแบรนด์ ที่มีมามากกว่า 38 ปี ในกลุ่มผลิตภัณฑ์หลัก คือ กาวซีเมนต์ เวเบอร์ไทล์ ฟิกซ์ สำหรับงานปูกระเบื้อง พื้น ผนัง สระว่ายน้ำ , กาวยาแนว เวเบอร์คัลเลอร์ พาวเวอร์ สูตร 3 พลังป้องกัน ราดำ แบคทีเรีย ตะไคร่น้ำ และ กันซึม เวเบอร์ดราย ซีล อะคริลิคกันรั่วซึม 100% สำหรับดาดฟ้า หลังคา ผนัง ใช้งานง่าย สะท้อนความร้อน ทนต่อรังสี UV เพื่อการเติบโตอย่างต่อเนื่อง บริษัทฯมองเห็นโอกาสในการทำตลาดเพื่อสนับสนุนยอดขายในปีนี้ โดยได้วางแผนการขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้าน เช่น ลาว กัมพูชา และพม่า นอกเหนือจากประเทศไทยที่เป็นประเทศหลัก ทำให้มั่นใจว่ายอดขายปีนี้จะเติบโตอย่างต่อเนื่องตามแผนธุรกิจที่วางไว้

Share:

51Talk ส่งเด็กไทยเข้าร่วม COP29 การประชุมแห่งสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ บทพิสูจน์การสนับสนุนเยาวชนก้าวสู่เวทีระดับโลก

ธาร ธีรภาสิริ (มียู) วัย 12 ปี ตัวแทนของ 51Talk จากประเทศไทย ร่วมงานการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 29 

(the United Nations Climate Change Conference) หรือ COP29 

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย, วันที่ 26 พฤศจิกายน 2567: 51Talk (ไฟฟ์วันทอล์ก) แพลตฟอร์มหลักสูตรการศึกษาภาษาอังกฤษออนไลน์สำหรับเยาวชนระดับโลก ครอบคลุมการให้บริการมากกว่า 50 ประเทศทั่วโลก และมีผู้ใช้บริการแล้วกว่า 40 ล้านคน ส่งนักเรียนดาวเด่นจากสี่ประเทศ ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น ซาอุดิอาระเบีย และไทย ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในงานครั้งสำคัญระดับโลกอย่างการประชุมแห่งสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ครั้งที่ 29 (the United Nations Climate Change Conference) หรือ COP29 ระหว่างวันที่ 11-22 พฤศจิกายน 2567 ที่เมืองบากู ประเทศอาเซอร์ไบจาน พร้อมเปิดโอกาสให้ทัศนศึกษาเรียนรู้เพิ่มเติมตลอดระยะเวลาที่เข้าร่วมงาน โดยการประชุมที่จัดขึ้นนี้มีผู้นำและตัวแทนจากทั่วโลกมากมายมาร่วมเสวนาเพื่อหาแนวทางจัดการปัญหาสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน

ธาร ธีรภาสิริ หรือ มียู วัย 12 ปี ตัวแทนของ 51Talk ประเทศไทย เป็นผู้ชนะจากโครงการ “เสียงเล็ก ๆ ที่เปลี่ยนโลก LITTLE VOICE FOR A BETTER WORLD: 51Talk English Speech Contest 2024 For UN Climate Change Conference" ที่จัดขึ้นเพื่อเปิดโอกาสให้เยาวชนไทยอายุระหว่าง 6-12 ปี ได้พัฒนาทักษะการใช้ภาษาอังกฤษในที่สาธารณะ ส่งเสริมความมั่นใจ และกล้าแสดงออกทางความคิดเห็น นำไปสู่การเข้าถึงโอกาสใหม่ ๆ ที่เชื่อมต่อกับผู้คนทั้งโลก โดยธารได้ถ่ายทอดวิธีแก้ปัญหาของตนเองเพื่อช่วยลดการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ ไปจนถึงผลลัพธ์ของการเริ่มจากตนเองว่าจะช่วยเปลี่ยนแปลงโลกนี้ได้อย่างไร

บรรยากาศในงาน “เสียงเล็ก ๆ ที่เปลี่ยนโลก LITTLE VOICE FOR A BETTER WORLD”

ภายในงาน COP29 นักเรียนที่มีศักยภาพโดดเด่นของ 51Talk จากจีน ญี่ปุ่น ซาอุดิอาระเบีย และไทย ได้รับเชิญในฐานะตัวแทนเยาวชนขึ้นกล่าวสุนทรพจน์บนเวทีองค์การสหประชาชาติ ทำให้เห็นถึงความตั้งใจที่จะอุทิศตนเพื่อดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมทั้งปัจจุบันและอนาคต ปัญหาหรือภัยพิบัติที่เกิดขึ้นหรือกำลังจะเกิดขึ้น รวมถึงรณรงค์สร้างสำนึกรับผิดชอบร่วมกันต่อการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ อันเป็นส่วนหนึ่งในการรวมพลังสร้างอนาคตที่ยั่งยืนสืบไป 

ธาร เยาวชนชาวไทยหนึ่งเดียวได้ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์บนเวทีระดับโลก COP29 ว่า “ปัญหาสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ มีจุดร่วมกันอย่างหนึ่งคือเกิดจากการกระทำของมนุษย์ หากเราทำลายโลกได้ เราก็รักษาโลกได้เช่นกัน ธารจึงขอเสนอแนวทาง SEEDS โดย S ย่อมาจาก Save หมายถึง การพยายามประหยัดให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นอาหาร น้ำ หรือไฟฟ้า เช่น ปิดไฟและเครื่องปรับอากาศทุกครั้งก่อนออกจากห้อง E ย่อมาจาก Earth ให้คิดถึงโลกทุกครั้งเมื่อก้าวเดิน ควรมีการใช้ซ้ำ ลดการใช้ นำกลับมาใช้ใหม่ และปลูกต้นไม้เพื่อดูดซับก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ E ย่อมาจาก Encourage เป็นการบอกต่อและสนับสนุนให้คนอื่น ๆ ช่วยกันดูแลโลก D ย่อมาจาก Don’t Wait เพราะปัญหาเหล่านี้เป็นเรื่องเร่งด่วน ทุกคนลงมือทำได้ทันที และ S ย่อมาจาก Sustainability เช่น เลือกใช้พลังงานทดแทน เทคโนโลยีที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แยกขยะนำไปรีไซเคิล เป็นต้น เพื่อช่วยเปลี่ยนแปลงโลกทั้งใบได้อย่างยั่งยืน แม้ SEEDS จะเป็นการกระทำเล็ก ๆ ในชีวิตประจำวัน แต่หากช่วยกันปลูกคนละไม้คนละมือมันจะกลายเป็นต้นไม้ใหญ่ที่คอยปกป้องเราและพาเราไปสู่โลกที่ดีกว่า”

นอกจากเข้าร่วมเวทีใหญ่ของสหประชาชาติแล้ว ธารยังได้รับเชิญให้แสดงทรรศนะด้านสิ่งแวดล้อมภายใต้หัวข้อ “Youth Leadership in Climate Action” ณ Thailand Pavilion จัดโดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) อีกด้วย 

นับแต่ปี 2562 เป็นต้นมา 51Talk ได้สนับสนุนให้เยาวชนเข้าร่วมงานของสหประชาชาติผ่านการกล่าวสุนทรพจน์บนเวทีที่ได้รวบรวมผู้มีความรู้และประสบการณ์ไว้อย่างคับคั่ง ด้วยทักษะภาษาอังกฤษของนักเรียน 51Talk ที่เปี่ยมไปด้วยพรสวรรค์และพรแสวง ทำให้สามารถสื่อสารได้อย่างมั่นใจ ตรงประเด็น ทั้งยังมีเสน่ห์เฉพาะตัว จึงสร้างความประทับใจแก่ผู้ร่วมงาน COP29 ได้อย่างไร้ข้อกังขา เป็นนิมิตหมายอันดีว่าเยาวชนเหล่านี้เห็นความสำคัญของสิ่งแวดล้อมอย่างลึกซึ้ง และสามารถนำความเข้าใจไปต่อยอดให้เป็นรูปธรรมได้

นอกจากนี้ 51Talk ได้จัดกิจกรรมล่าลายเซ็น “Our planet, Our responsibility. We speak for the world!” กระตุ้นให้ผู้ร่วมงานได้ตระหนักถึงการมีส่วนร่วมในการช่วยแก้ปัญหาโลกร้อน โดย กนกพร สิมะพิเชฐ เจ้าของเพจ 2madames อีกทั้งเป็นหนึ่งในคณะกรรมการผู้ตัดสินโครงการ “เสียงเล็ก ๆ ที่เปลี่ยนโลก LITTLE VOICE FOR A BETTER WORLD” พร้อมครอบครัวได้เดินทางไปเข้าร่วมกิจกรรมกับเหล่าเยาวชนในงาน COP29 ครั้งนี้

นักเรียนทั้งสี่ประเทศจาก 51Talk ร่วมสนับสนุนโครงการ “Our planet, Our responsibility. We speak for the world!”

โครงการจาก 51Talk เพื่อสร้างความตระหนักในการแก้ปัญหาโลกร้อน “Our planet, Our responsibility. We speak for the world!”

ไม่เพียงเป็นแพลตฟอร์มการเรียนออนไลน์เท่านั้น โครงการของ 51Talk ยังเป็นแรงบันดาลใจให้เด็ก ๆ เห็นประโยชน์ของการฝึกฝนภาษาอังกฤษเพื่อนำไปใช้ได้จริง ส่งต่อความกระตือรือร้นที่จะสื่อสารกับผู้คนต่างชาติต่างภาษา โดยแพลตฟอร์ม 51Talk ได้มีการพัฒนาและออกแบบหลักสูตรให้เหมาะกับความต้องการของนักเรียนแต่ละคน จึงมั่นใจได้ว่าทักษะการใช้ภาษาอังกฤษของนักเรียนจะได้รับการยกระดับขึ้นแน่นอน พิสูจน์ได้จากการส่งเยาวชนเข้าร่วมเวทีระดับโลกของสหประชาชาติที่ผ่านมา

เอมิลี่ หลี่ ผู้จัดการทั่วไป 51Talk Thailand กล่าวว่า “ที่ 51Talk เราเชื่อมั่นว่าการเรียนรู้ไม่ได้จำกัดอยู่เพียงในห้องเรียน ผู้เรียนสามารถค้นพบศักยภาพของตนเองได้อย่างเต็มที่ เรารู้สึกดีใจและขอบคุณผู้ปกครองทุกท่านที่ให้การสนับสนุนเด็ก ๆ เข้าเรียนภาษาอังกฤษกับ 51Talk รวมทั้งให้เด็ก ๆ ได้เข้าร่วมการแข่งขันเพื่อสั่งสมประสบการณ์และรับโอกาสที่จะได้เป็นส่วนหนึ่งในโครงการของสหประชาชาติในปีนี้ หัวข้อเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องที่สำคัญและเกี่ยวข้องกับอนาคตของเราทุกคนทั่วโลก เราเชื่อว่าไม่ว่าจะเป็นการแข่งขันกล่าวสุนทรพจน์ที่ประเทศไทย หรือบนเวทีระดับโลกอย่าง COP29 จะช่วยให้นักเรียนของเราทุกคนได้รับประสบการณ์ที่ดีจากการเรียนและการแข่งขันกลับไป ทีม 51Talk ทุกคนมีเป้าหมายเดียวกันที่จะสนับสนุนให้นักเรียนได้พัฒนาความสามารถด้านการใช้ภาษาอังกฤษของตนเอง และการคิดวิเคราะห์เชิงตรรกะอย่างมีเหตุผล และได้เป็นหนึ่งในกระบอกเสียงเพื่อส่งสัญญาณให้คนมากมายได้รับรู้ถึงความสำคัญด้านสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการใช้ชีวิตในอนาคต”

เอมิลี่ ผู้จัดการทั่วไป 51Talk 

ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชน 51Talk ในการเรียนรู้ภาษาอังกฤษเพื่อเปิดโลกกว้างไปกับเรา ทดลองเรียนแบบตัวต่อตัวกับครูผู้สอนชาวต่างชาติฟรีได้แล้วตั้งแต่วันนี้ที่เว็บไซต์ 51Talk Thailand หรือกด https://wap.51talk.com/landing/unonlinecampaign.html ได้เลย

Share:

Recent Posts

ค้นหาบล็อกนี้

Contact Us ::

📲 (+66) 081 4345154
✉️ Insightoutstory@gmail.com

Add Line📲 Click 👇👇

Translate

🚉 ช.ส.ท.พาเที่ยว นครฯ

Review By Nichapa

POPULAR NEWS

Fanpage Facebook

ป้ายกำกับ

คลังบทความของบล็อก