UNPKFC เปิดตัวโครงการผู้นำอวกาศระดับโลก เน้นการเข้าถึงพื้นที่สำหรับเยาวชนทุกคน

ผ่านพ้นงานแถลงข่าวอย่างเป็นทางการ ไปอย่างงดงาม เปิดตัวโครงการผู้นำอวกาศระดับโลก GLOBAL SPACE LEADERSHIP PROGRAM ภายใต้คอนเซ็ปต์  เน้นการเข้าถึงพื้นที่สำหรับทุกคน Space Access for All 

โครงการ GLOBAL SPACE  LEADERSHIP PROGRAM จัดตั้งขึ้นโดย โดยความร่วมมือระหว่าง สภาสหพันธ์รักษาสันติภาพ(UNPKFC), ศูนย์อวกาศหิมาลายัน HSC ( Himalayan Space Centre),สมาคมสหประชาชาติแห่งโคเชลลาแวลลีย์ มลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา UNA-USA (United Nations Association Coachella Valley California, USA Chapter) ,สมาคมแห่งสถาบันพระปกเกล้า และ Adventure of Humanity เพื่อร่วมกันผลักดัน และยืนหยัดความมุ่งมั่นที่เกี่ยวข้อง เพื่อขยายความร่วมมือระดับโลก  โดยการสร้างภารกิจร่วมกันเพื่อจุดประกายแรงบันดาลใจ ส่งเสริมความหวัง และปลูกฝังความรู้เพื่อคนรุ่นใหม่ โดยการศึกษาและจินตนาการเป็นรากฐานที่สำคัญในการกำหนดชะตากรรมร่วมกัน เพื่อเผชิญกับความท้าทายเร่งด่วน เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างลึกซึ้งต่อคุณค่าของมนุษย์ ดังนั้นจึงเป็นจุดตัดสินใจครั้งสำคัญ เปิดตัวโครงการ Global Space Leadership Program ภายใต้คอนเซปต์ (การเข้าถึงพื้นที่สำหรับทุกคน) โดยเชื่อมโยง การส่งเสริมการเรียนรู้ ไปจนถึงการพัฒนาเทคโนโลยีที่ล้ำหน้าระดับโลกที่เชื่อมโยงไปสู่ เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนภายใต้กรอบสหประชาชาติ SDG 4 Equality Education การศึกษาที่มีคุณภาพอย่างเท่าเทียม และเป้าหมายข้อที่ 17 Partnership for the goals เพื่อเสริมความแข็งแกร่ง ให้แก่กลไกการดำเนินงานและฟื้นฟูความร่วมมือระดับโลก เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน และยังคงมุ่งมั่นที่จะจุดประกายการเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในระดับโลก โดยมีดร.ธิติมา หล่อพิพัฒน์ นายกสมาคมแห่งสถาบันพระปกเกล้า และ กรรมการสภาสถาบันผู้ทรงคุณวุฒิสถาบันพระปกเกล้า เป็นประธานเปิดงานในพิธี 

ดร.อภินิตา ไชยชนะ ประธานดำเนินงานโครงการในประเทศไทย และภูมิภาคเอเซีย โครงการ Global Space Leadership Program ได้กล่าวว่า สภาสหพันธ์รักษาสันติภาพ โดยความร่วมมือ ระหว่าง Mr.Afroz Mamun ประธานผู้ก่อตั้ง ศูนย์อวกาศหิมาลายัน และฑูตค่ายอวกาศ องค์การนาซ่าสหรัฐอเมริกา (Space Camp Ambassador),  Ratu Muda Princess Karen Cantrell นายกสมาคมสหประชาชาติ แห่งโคเชลลาแวลลีย์ มลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา UNA-USA (United Nations Association Coachella Valley California, USA Chapter) , Mr. Richard Nilsson ประธานองค์กร Adventure of Humanity ซึ่งเป็นองค์กรที่ก่อตั้ง โดย Michael Jackson และ Nelson Mandela และสมาคมแห่งสถาบันพระปกเกล้า โดย ดร.ธิติมา หล่อพิพัฒน์ และด้วยพันธมิตรที่มีศักยภาพ  สามารถเสริมความเข้มแข็งให้กับเยาวชน ผู้ที่จะกำหนดโลกอนาคต อย่างมีศักยภาพในระดับโลกได้อย่างเข้มแข็งและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ภายในงานเราได้เรียนเชิญองค์กร และภาคีเครือข่ายเข้ามาร่วมจำนวนมาก เพื่อการขยายโอกาสสำหรับเยาวชนทุกพื้นที่ ที่ไม่มีโอกาสจะได้เข้าถึงการศึกษาระดับโลก อย่างเท่าเทียม จึงต้องมีการจัดงานแถลงข่าวในวันนี้ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ลูกหลานของภาคีเครือข่าย นำบุตรหลานมาเรียน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย และ ทางคณะกรรมการจัดงานโครงการ Global Space Leadership Program  ได้เตรียมจัดกิจกรรมจำนวนทั้งหมด 6 รอบ รอบละ 500 คน รวม 3,000 คน เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 นี้ โดยความร่วมมือจาก สมาคมแห่งสถาบันพระปกเกล้า ,มูลนิธิ ดร.เทียม โชควัฒนา ,บริษัทสหพัฒนพิบูล จำกัด มหาชน ,โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา 2  ,โรงเรียนสตรีวิทยา ที่จะเป็นพลังขับเคลื่อนอย่างเข้มแข็ง เพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ตามที่โครงการกำหนด 

ภายในงานได้มีการแต่งตั้งยุวฑูตเพื่อสันติภาพ มีหน้าที่เข้าร่วมกิจกรรมส่งเสริมสันติภาพ เพื่อเข้ารับการเรียนรู้ด้านวิชาการและเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้มีความพร้อมทั้งกายและจิตใจในการปฏิบัติหน้าที่ และเพื่อปลูกจิตสำนึกและบุคลิกภาพ การกล้าแสดงออกโดยสร้างความสามัคคี และเผยแพร่วัฒนธรรมสันติภาพในระดับนานาชาติ

ต่อมาได้มีการแต่งตั้ง นางสาวรังษิมา ทองพันชั่ง เลขานุการประจำคณะกรรมาธิการแก้ไขปัญหาหนี้สินความยากจนและลดความเหลื่อมลำ สภาผู้แทนราษฏร ให้ดำรงตำแหน่ง ผู้อำนวยการศูนย์อวกาศหิมาลายัน ประจำประเทศไทย

นอกจากนี้ทางคณะกรรมการจัดงานโครงการ Global Space Leadership Program  ได้ร่วมแสดงความยินดีกับ ดร.อภินิตา ไชยชนะ ประธานสภาสหพันธ์รักษาสันติภาพ(UNPKFC) ที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ ให้ดำรงตำแหน่งในบอร์ดบริหารที่ปรึกษาพิเศษประจำสหรัฐอเมริกา และประธานระดับโลก ประจำภูมิภาคเอเซียตะวันออกเฉียงใต้ โดย สมาคมสหประชาชาติแห่งโคเชลลาแวลลีย์ มลรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา UNA-USA (United Nations Association Coachella Valley California, USA Chapter) และในโอกาสที่เป็นคนไทยคนแรกที่ได้รับรางวัล King Charles Leadership Award จาก ราชสมาคมแห่งลอนดอน ประเทศอังกฤษ โดย The Royal Society of St. George ที่ผ่านมา

ภายในงานมีบุคลสำคัญทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิเช่น สมาคมทหารผ่านศึก ไทย- เกาหลี ในพระบรมราชูปถัมภ์ ,ยุวฑูตเพื่อสันติภาพประจำปี (UNPKFC Young Peace Ambassadors),โรงเรียนนวมินทราชินูทิศ สตรีวิทยา 2  , สมาคมทหารผ่านศึกแห่งประเทศไทย,สมาคมทหารผ่านศึกกรุงเทพ,สมาคมไทยทรงดำ(ไตดำ),มูลนิธิไทยทรงดำ ( กลุ่มชาติพันธ์) และภาคีเครือข่ายร่วมจำนวนมาก ที่จะร่วมนำพาเยาวชนและลูกหลานมาร่วมเรียน กับโครงการ

Global Space Leadership Program เพื่อการเข้าถึงอวกาศสำหรับทุกคน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง ตามวัตถุประสงค์ของโครงการฯ



Share:

พาเพื่อนๆรุ่น นมธ. 14 ธรรมศาสตร์ มาร้าน “อำแดงไต้ฝุ่น” by The River

 

พาเพื่อนๆรุ่น นมธ. 14 ธรรมศาสตร์ มาร้าน

 “อำแดงไต้ฝุ่น” by The River

พล.ต.อ. วุฒิ ลิปตพัลลภ

(อดีตรองผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ) โดยมี

เอิร์ธ สายสว่าง, มาร่วมงานด้วย

#อำแดงไต้ฝุ่น



Share:

พม. จัดพิธีรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ประจำปี 2565 และ 2566

 วันที่ 26 มิถุนายน 2567 เวลา 11.00 น. ณ ห้องประชาบดี ชั้น 19A อาคารกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายอนุกูล ปีดแก้ว ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (ปลัด พม.) เป็นประธานในพิธีรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ประจำปี 2565 และประจำปี 2566 โดยมี นางจตุพร โรจนพานิช อธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กล่าวรายงาน นางภิญญา จำรูญศาสน์ รองอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กล่าวเบิกตัวผู้เข้ารับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ฯ

นายอนุกูล กล่าวว่า พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ประจำปี 2565 และ ประจำปี 2566 เนื่องในโอกาสพระราชพิธีเฉลิมพระชนมพรรษา พุทธศักราช 2565 และ พุทธศักราช 2566 และทรงให้จัดส่งเครื่องราชอิสริยาภรณ์ไปยังผู้ได้รับพระราชทาน โดยไม่ต้องเข้าเฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับพระราชทาน โดยให้ส่วนราชการและหน่วยงานต่าง ๆ จัดพิธีรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ หน้าพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ในสถานที่ที่เหมาะสม เพื่อเป็นการถวายพระเกียรติตามขั้นตอนการปฏิบัติของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และสำนักนายกรัฐมนตรีได้ดำเนินการประกาศรายชื่อผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ดังกล่าวในราชกิจจานุเบกษาแล้ว

นายอนุกูล กล่าวว่า กระทรวง พม. โดยกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พส.) ได้จัดพิธีรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ฯ ขึ้น เพื่อสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ตลอดจนเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติ สร้างขวัญกำลังใจ และเผยแพร่คุณงามความดีของผู้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ฯ ที่ทำประโยชน์นานัปการแก่ประเทศ ศาสนา และประชาชน ในด้านการส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคมและพัฒนาสังคม

นายอนุกูล กล่าวต่อไปว่า วันนี้ มีผู้เข้ารับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ฯ ประจำปี 2565 และ 2566 รวมทั้งสิ้น 44 คน ประกอบด้วย ผู้กระทำความดีความชอบที่เป็นการบริจาคทรัพย์สินเพื่อสาธารณประโยชน์ จำนวน 22 คน  ผู้กระทำความดีความชอบที่มีผลงานอันเป็นประโยชน์แก่ประเทศ ศาสนา และประชาชน จำนวน 15 คน และผู้ทุ่มเท เสียสละ และให้ความช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายของกระทรวง พม. ในนามของอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) ด้วยดีตลอดมา จำนวน 7 คน โดยแบ่งเป็น 1) ชั้นตติยดิเรกคุณาภรณ์ จำนวน 1 คน 2) ชั้นจตุตถดิเรกคุณาภรณ์ จำนวน 5 คน 3) ชั้นเบญจมดิเรกคุณาภรณ์ จำนวน 13 คน 4) ชั้นเหรียญทองดิเรกคุณาภรณ์ จำนวน 9 คน และ 5) ชั้นเหรียญเงินดิเรกคุณาภรณ์ จำนวน 16 คน

รายชื่อผู้ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ประจำปี 2565 และประจำปี 2566 


1. ชั้นตติยดิเรกคุณาภรณ์ จำนวน 1 คน ได้แก่

 นางสาวปรางพิสุทธิ์ แดงเดช 


2. ชั้นจตุตถดิเรกคุณาภรณ์ จำนวน 5 คน ได้แก่

 1) นางรมณีย์ เธียรประสิทธิ์

 2) นายปณต ประพันธ์ศิลป์

 3) นายมนัส โนนุช 

 4) นางสาวพเยาว์ สุกแก้ว

 5) นางสาวอรอนงค์ ประทักษ์พิริยะ


3. ชั้นเบญจมดิเรกคุณาภรณ์ จำนวน 13 คน ได้แก่

 1) นายจิรโรจน์ ลัญฉนะวณิชย์

 2) นายฉัตรชัย ศิริไล

 3) นายปินเดอร์ปาลซิงห์ มาดาน

 4) นางปรียาภรณ์ อาชาภิรมย์ศิลป์

 5) นางสาวพรไพลิน อภิรักษ์คุณวงศ์

 6) นางสาวรณิดา นกไทยเจริญ

 7) นายกิตติภูมิ อภิรักษ์คุณวงศ์

 8) นายชัยรัตน์ นพสันติ

 9) นายเศวต เศวตสมภพ

 10) นางณัฏฐิณี เนตรอำไพ

 11) นางสาวถิรัญชา เศรษฐี 

 12) นางสาวสุวรรณี ชัยสันติกุลวัฒน์

 13) นางสาวโสภณา เศรษฐี


4. ชั้นเหรียญทองดิเรกคุณาภรณ์ จำนวน 9 คน ได้แก่

 1) นายกวิน นิทัศนจารุกุล

 2) นายวิน สุธีรชาติกุล

 3) นางสาวนภัสจิรา อิงคโรจน์ฤทธิ์

 4) นางนริศรา โพธิสุวรรณ

 5) นางสาวสุชาดา กุลตันติกร

 6) นางสาวอารีพรรณ พงศ์สุวรรณ

 7) นายปภาวิน นิธิเมธาวิน

 8) นายวรเทพ ตันติวรวงศ์

 9) นางพัชนี เธียรธวัช


5. ชั้นเหรียญเงินดิเรกคุณาภรณ์ จำนวน 16 คน ได้แก่

 1) นางสาวแรมรุ้ง วรวัธ

 2) นายพิชญุตม์ เมฆเกรียงไกร

 3) นางวราภรณ์ ศิริบุรานนท์

 4) นางสาวโศภิชฐ์ วงษ์กมลเศรษฐ์

 5) นายบัญชา เธียรสุนทร

 6) นายวัฒนา หยังโรจนกุล

 7) นายสุขชาติ เลิศวุฒิรักษ์

 8) นายวิวัฒน์ ศิริโวหาร (อพม.)

 9) นางสาวดวงกมล สวลีตีเมืองซ้าย (อพม.)

 10) นายอติพล ดำพิลา (อพม.)

 11) นางจันทร์แสง ไชยยงค์ (อพม.)

 12) นางจารุณี กุลปิยะวาจา (อพม.)

 13) นางจินดา ศรีนุรัตน์ (อพม.)

 14) นางชนาพร ตุลยานนท์ (อพม.) 

 15) นางพวงแก้ว พรมมิ (อพม.)

 16) นางสารภี บัวเกษ (อพม.)

นายอนุกูล กล่าวเพิ่มเติมว่า ตนขอแสดงความยินดีกับผู้ที่ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ประจำปี 2565 และประจำปี 2566 ทุกท่าน ซึ่งถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์แห่งศักดิ์ศรีและเกียรติยศที่จะต้องรักษาไว้เพื่อเป็นเกียรติประวัติของตนเองและวงศ์ตระกูลต่อไป รวมทั้งขอขอบคุณคณะผู้จัดงาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่มีส่วนร่วมในการจัดงานพิธีรับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์

#ข่าวพม #พม #ศรส #esshelpme #1300 #วราวุธศิลปอาชา #วราวุธรับฟังทำจริง #พมพอใจให้ทุกวัยพึงพอใจในพม #พมหนึ่งเดียว #พส #กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ #เครื่องราชอิสริยาภรณ์

Share:

ชาวบ้านตำบลเกาะหลัก ประจวบคีรีขันธ์ ร้องผู้ว่าประจวบฯ หลังบริษัททำเหมืองแร่หินอุตสาหกรรม ขอทำเหมืองแร่ในเขตพื้นที่ชุมชน ชาวบ้านเกรงได้รับความเดือดร้อนเหมือนปี37-39ที่ผ่านมา ด้านผู้ว่าฯสั่งเจ้าหน้าที่ตรวจสอบทันที

ชาวบ้านตำบลเกาะหลัก อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จำนวนเกือบ 700 คน ได้ร่วมลงรายชื่อเพื่อคัดค้านการยื่นขอประทานบัตรการทำเหมืองแร่หินอุตสาหกรรม  โดยบริษัทที่อยู่ระหว่างการขออนุญาตได้มีแนวโน้มสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนพื้นที่ หมู่ 6 และ หมู่7 บ้านหนองไม้แก่น เหมือนกับบริษัทที่เคยได้รับสัมปทานเมื่อปี 2537 ที่ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับชาวบ้านมาหลายปี และได้ถูกประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนรวมตัวกันผลักดันจนบริษัทดังกล่าวเลิกกิจการไป  จากนั้นสภาพแวดล้อมและธรรมชาติในบริเวณดังกล่าว ได้กลับมามีสภาพสมบูรณ์อีกครั้ง จนกระทั่งปัจจุบันได้มีบริษัทใหม่ที่จะมาขอสัมปทานในพื้นที่ติดกับบริษัทเดิมที่ได้ย้ายออกไป โดยมีเนื้อที่ประมาณเกือบ 800ไร่  ซึ่งตามระเบียบของการขออาชญาบัตรสำรวจแร่นั้นจะต้องอยู่ในกฎระเบียบในการสำรวจ ห้ามมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ตลอดจนประชาชนในพื้นที่ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทที่จะเข้ามาสำรวจนี้ไม่ได้ทำตามกฎระเบียบอย่างถูกต้อง  โดยชาวบ้านได้รวมตัวกันทั้งสองหมู่บ้าน ได้แก่พื้นที่ หมู่ 6 และ หมู่7 บ้านหนองไม้แก่น จำนวน 300ครัวเรือน มีประชากรเกือบ 700คน โดยได้มอบหมายให้นายกิตติ นามบุญลือ เป็นตัวแทนของชาวบ้านในการคัดค้านและเรียกร้อง ซึ่งที่ผ่านมาได้ร้องเรียนไปหลายหน่วยงาน ตลอดจนร้องเรียนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์  

ล่าสุดนายเกรียงไกร เรืองทิพย์ ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลเกาะหลัก ได้มีการเชิญกลุ่มชาวบ้านผู้ได้รับผลกระทบมาประชุมและรับทราบถึงปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยได้มอบหมายให้ตัวแทนของชาวบ้านหมู่ละ 5 คน เข้าร่วมประชุม โดยมีประธานสภา อบต.ฯ , ป่าไม้จังหวัดฯ, อุตสาหกรรมจังหวัดฯ ซึ่งในที่ประชุมนั้นไม่มี นายก อบต. และ กำนัน ผู้ใหญ่บ้านมาร่วมประชุมเลย ซึ่งเป็นที่น่าสงสัยว่าเรื่องความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน เป็นหน้าที่ของกำนัน และ ผู้ใหญ่บ้านโดยตรง แต่กลับไม่มาเข้าร่วมการประชุมของสภา อบต.ในครั้งนี้ และภายหลังการประชุมเสร็จสิ้น เจ้าหน้าที่ป่าไม้จังหวัด อุตสาหกรรมจังหวัด ได้เร่งรีบหลบสื่อมวลชนและประชาชนไปทางออกด้านหลังของที่ทำการ อบต.เกาะหลักแล้วขึ้นรถกลับอย่างรวดเร็ว  

ทางผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับ นายกิตติ ตัวแทนชาวบ้านถึงผลการประชุมได้ความว่าอย่างไร โดยนายกิตติ เผยว่า สภา อบต. ได้รับทราบถึงปัญหาทั้งหมดในการประชุมครั้งนี้ จึงได้มีคำสั่งให้ยุติการขออนุญาตอาชญาบัตรไว้ก่อน และให้ชาวบ้านหรือตัวแทนทำหนังสือร้องเรียนมายังประธานสภา อบต. เพื่อประธานสภา อบต.จะยื่นหนังสือต่อไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้ดำเนินการตามคำร้องเรียน ตามอำนาจหน้าที่ และจะเชิญประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนมาประชุมร่วมกันต่อไปอีกครั้งหนึ่ง 

ต่อมาชาวบ้านได้พาผู้สื่อข่าว ดูพื้นที่ในจุดที่จะขอสัมปทาน ซึ่งพื้นที่ดังกล่าวใกล้กับประปาหมู่บ้านเพียงไม่กี่ร้อยเมตร และใกล้กับบ้านเรือนของประชาชนอีกนับ10หลัง และยังพบว่ามีการนำหินมากองรวมกัน ต้นไม้มีการถูกตัด และยังมีการแอบเจาะน้ำบาดาล ซึ่งชาวบ้านได้แจ้งให้ป่าไม้ทราบแล้ว 

ล่าสุดผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รับทราบเรื่องนี้แล้ว และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ที่รับเรื่องร้องทุกข์และเชิญผู้เกี่ยวข้องมาให้ปากคำเพิ่มเติมแล้ว



Share:

ททท.เปิดมุมลับเที่ยวหน้าฝนภาคตะวันออกชวนออกเดินทางสัมผัสเสน่ห์มุมมองใหม่แดนบูรพาต่อเนื่องได้ตลอดทั้งปี กับกิจกรรมตัวอย่างเปิดตัวมุมลับ ”อาบน้ำใต้แสงจันทร์คืนเดือนเพ็ญ@สะดือทะเลหวานตะวันออก” 1 คำอธิษฐาน 1 คำขอของแทร่ ณ อ่าววงเดือน เสม็ดเกาะแก้วพิสดาร อ.เมือง จ.ระยอง

เมื่อวันศุกร์ที่ 21 มิถุนายน 2567 นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.)  พร้อมด้วย นส.ศิรินุช  สุทธิรัตน์ รอง ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก ททท. นายมรกต สุดดี ผู้อำนวยการกองตลาดภาคตะวันออก  นายจิรศักดิ์   อ่วมอุไร ผอ.ททท.สำนักงานฉะเชิงเทรา นส.อุไร  มุกประดับทอง  ผอ.ททท.สำนักงานพัทยา  นายวัชรพล สารสอน  ว่าที่ ร.ต.กรกฏ โอภาส ผอ.ททท.สำนักงานตราด    นางวันดี  เผื่อนอุดม ผอ.ททท.สำนักงานนครนายก นส.เพ็ญสุดา โพธิ์เงิน รอง ผอ.ททท.สำนักงานจันทบุรี  นางสริญทิพญ ทัพมงคลทรัพย์ นายกสมาคมท่องเที่ยวเกาะเสม็ด จ.ระยอง พร้อมด้วยคณะนักศึกษา วปอ.60 หมู่นกเค้าแมว (นำโดยประธานหมู่ นายยุทธนา เจียมตระการ) พันธมิตรธุรกิจท่องเที่ยว สื่อมวลชน และนักท่องเที่ยว


ได้ร่วมเปิดแคมเปญกิจกรรม “เล่าเรื่องราว Point Of View 9X9 มุมลับ เที่ยวหน้าฝนภาคตะวันออก” และ ประกอบพิธีกรรมอีกหนึ่งมุมลับ 1 คำอธิฐาน 1 คำขอ กับ ”อาบน้ำใต้แสงจันทร์คืนเดือนเพ็ญ“ ซึ่งตรงจัดกับวันพระ ขึ้น 15 ค่ำของทุกเดือน (ครั้งต่อไปเดือนกรกฎาคม 2567 ตรงกับวันเสาร์ที่ 20 กรกฎาคม 2567) โดยมี คณะพราหมณ์ สังข์ทอง ประกอบพิธีการ ณ อ่าววงเดือน เสม็ดเกาะแก้วพิสดาร อ.เมือง จ.ระยอง เพื่อเสริมสิริมงคลและกระตุ้นการท่องเที่ยว 9 จังหวัดภาคตะวันออก(จังหวัดชลบุรี สมุทรปราการ ระยอง ฉะเชิงเทรา  จันทบุรี ตราด สระแก้ว ปราจีนบุรี และนครนายก)ในช่วงหน้าฝน หรือ  Green Season อย่างต่อเนื่อง 


พร้อมเตรียมเปิดโปรโมชั่นพิเศษ “Super Deal”เพื่อสร้างบรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวให้คึกคักในช่วงหน้าฝนตามนโยบายของรัฐบาลต่อไป

การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) โดยภูมิภาคภาคตะวันออก ต่อยอดแคมเปญ “9 ที่เที่ยวฝนนี้…มีดีที่ตะวันออก” ด้วยกิจกรรม “เล่าเรื่องราว Point Of View 9X9 มุมลับ เที่ยวหน้าฝนภาคตะวันออก” ชวนสัมผัสสีสันแห่งดินแดนบูรพา ผ่านการนำเสนอ 9 แหล่งท่องเที่ยวมุมมองใหม่ มุมลับ มุมอันซีน รวมทั้งสินค้า และบริการด้านท่องเที่ยวที่สะท้อนถึงอัตลักษณ์และเสน่ห์ความเป็นไทยใน 9 จังหวัด ตามแนวคิด 5 Must Do in Thailand ของนโยบาย IGINITE TOUIRSM THAILAND เพื่อสร้างบันดาลใจและเพิ่มแรงส่ง กระตุ้นบรรยากาศการท่องเที่ยวในช่วง Green Season เมืองไทยไม่หลับใหล โดยเฉพาะส่งเสริมการท่องเที่ยวในทั้งเมืองหลักและเมืองน่าเที่ยวของ 9 จังหวัดภาคตะวันออกอย่างต่อเนื่องยาวจนถึงสิ้นปี 2567  ชูอัตราลักษณ์ ทำ Content Marketing จุดร่วม จุดต่างกัน จุดขายเชื่อมโยงส่งต่อกัน  เพื่อกระตุ้นและส่งเสริมการตลาดท่องเที่ยวในหน้าฝนนี้ให้มีการเดินทางตลอดทั้งเดือนกรกฎาคม ปี2567 โดยคาดการณ์ว่าจะมีนักท่องเที่ยวและผู้เยี่ยมเยือนในภูมิภาคภาคตะวันออกไม่ต่ำกว่า 3.5 ล้านคน/ครั้ง ก่อให้เกิดรายได้เงินสะพัดประมาณกว่า 10,000 ล้านบาท

นายสมชาย ชมภูน้อย ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก ททท. กล่าวว่า ททท. โดยภูมิภาคภาคตะวันออก สานต่อกลยุทธ์เชื่อมโยงเมืองหลักสู่เมืองน่าเที่ยว ตามนโยบาย IGINITE TOUIRSM THAILAND ของรัฐบาล ร่วมจุดพลังการท่องเที่ยวไทยช่วงครึ่งหลังปี 2567 ผ่านการ

นำเสนอมิติใหม่แห่งประสบการณ์ท่องเที่ยวไทยในแนวคิด 5 Must Do in Thailand คัดสรรเอกลักษณ์ไทย และสร้าง Story ให้มากกว่าที่นักท่องเที่ยวเคยรู้จัก พร้อมเพิ่มมูลค่าแก่สินค้าและบริการด้านการท่องเที่ยวไทย โดยเฉพาะภูมิภาคตะวันออกกำหนดแนวคิดหลัก

ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว Theme  “คัลเลอร์ฟูลบูรพา ชู 4 ประเด็น คือ (1) ยืนหนึ่งเรื่องกิน (2) สุดฟินเรื่องเที่ยว (3) เต็มเหนี่ยวเที่ยวสายศรัทธา(สายมู) (4) เรียนรู้เรื่องรักษ์” เพื่อสร้างแรงบันดาลใจ เร่งกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศไทยต่อเนื่องตลอดทั้งปี ภายใต้การบูรณาการร่วมกับภาครัฐและเอกชน นำไปสู่การบรรลุเป้าหมายท้าทายของรัฐบาล รายได้การท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท

จากความสำเร็จของการเปิดฤดูกาลผลไม้และแคมเปญ “อร่อยทุกไร่ชิมไปทุกสวน” ในช่วงเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งถือเป็นไฮไลต์การท่องเที่ยวของภูมิภาคแล้ว ททท. ยังขอเพิ่มแรงส่งกระตุ้นการท่องเที่ยวอย่างต่อเนื่อง โดยนำเสนออัตลักษณ์ของสินค้าและบริการทางการท่องเที่ยวที่โดดเด่นเข้ามาผสมผสานจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวตลอดทั้ง 12 เดือน พร้อมเดินหน้าประชาสัมพันธ์แหล่งท่องเที่ยวและเส้นทางท่องเที่ยวด้วยกิจกรรม “9X9 มุมลับ เที่ยวหน้าฝนภาคตะวันออก” นำเสนอมุมมองใหม่ ๆ มุมลับ ๆ มุมอันซีนของแหล่งท่องเที่ยวในภูมิภาคตะวันออก ที่มีศักยภาพ น่าสนใจ แต่ยังไม่เป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย พร้อมเชื่อมโยง แหล่งท่องเที่ยว ร้านอาหาร กิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ในเส้นทางท่องเที่ยวหรือรูปแบบการ

ท่องเที่ยวที่หลากหลาย จำนวน 9 แห่งในเมืองหลักและเมืองน่าเที่ยวทั้ง 9 จังหวัดในภาคตะวันออก ประกอบด้วย จังหวัดชลบุรี สมุทรปราการ ระยอง ฉะเชิงเทรา  จันทบุรี ตราด สระแก้ว ปราจีนบุรี และนครนายก  เพื่อให้นักท่องเที่ยวได้รับประสบการณ์การท่องเที่ยวที่มีคุณค่าและความหมาย เกิดเป็นความสุขทันทีที่เที่ยวไทย ของแทร่ 

เริ่มจาก #จังหวัดระยอง มาพร้อมกับคอนเซปต์ “ทะเลหวานตะวันออก” (Let’s Sea RAYONG) ชวนไปท่องเที่ยวชิว ๆ ในคาเฟ่หลายสไตล์ทั้งฟาร์มกลางธรรมชาติ ป่าเขา ศิลปะ ก่อนจะออกไปเช็กอินจุดชมวิว อุทยานแห่งชาติเขาแหลมหญ้า ชมแพหญ้าหนังหมากลางป่าเสม็ดพันปี ณ สวนพฤกษศาสตร์ระยอง หรือจะเพิ่มสิริมงคลที่ วัดถ้ำเขาประทุน อ.เขาชะเมา วัดหมอมุ่ย อ.ปลวกแดง สะดือทะเล เกาะแก้วพิสดาร (เสม็ด) วัดตะเคียนทอง ไปต่อที่ 

#จังหวัดจันทบุรี "เมืองผลไม้&อัญมณี ทะเลหวานตะวันออก" ตอบโจทย์หลากหลายสไตล์ท่องเที่ยว อาทิ ค้นหา “กิ้งก่ายักษ์” แห่งอุทยานแห่งชาติน้ำตกพลิ้ว เช็กอินถ่ายภาพมุมสวย ๆ ที่แหล่งท่องเที่ยวลานหินสีชมพู, อ่าวกระทิง วนอุทยานแหลมสิงห์, เกาะกวาง ทรายเปลี่ยนทิศแล้วแต่ฤดูกาล, ตึกแดง,กำแพงแห่งศรัทธา, ลอดพระแสงดาบพระเจ้าตากสินมหาราช อู่ต่อเรือพระเจ้าตากสินมหาราช หรือจะเยี่ยมชมวัดสวรรค์ตาก วัดล้านนากลางป่าใหญ่หนึ่งเดียวในพื้นดินบูรพา 

#จังหวัดตราด “เมืองพักตากอากาศ บรรยากาศหมู่เกาะและชุมชนท่องเที่ยว สวรรค์ตะวันออก” อาทิ แหล่งท่องเที่ยวโรงแรมเรือร้าง เกาะช้าง ชิมเมนูซิกเนเจอร์ ปลาย่ำสวาท เช็กอินมุมถ่ายรูปเกาะหมาก ต้นมะพร้าวบนเกาะกูด หาดทรายแดง หรือพระแสงราชศัสตราประจำเมือง (จำลอง) ที่นี่ 

#จังหวัดชลบุรี “สีสันตะวันออก” ชวนมาสนุกสนาน More Fun กับแหล่งท่องเที่ยวหลากหลายสไตล์ อาทิ สถาบันวิทยาศาสตร์ทางทะเล พิพิธภัณฑ์พระพุทธคุณ สวนนงนุช วัดเขาไม้แดง Tappia Floating Cafe Pattaya Sunny Beach House Pattaya หรือจะเติมพลังกันต่อที่ ครัววันสุข ร้านป้า บ้านอำเภอ ก็มีให้อิ่มอร่อยแบบเต็มสตรีม ลงมาถึง

 #จังหวัดฉะเชิงเทรา “เมืองสายน้ำ สายศรัทธา สายบุญ“ (ไหว้พระ ไหว้เทพ ไหว้เจ้า) นำเสนอแหล่งท่องเที่ยว อาทิ วัดหงส์ทอง Unseen New Chapter เก็บแสงสุดท้ายที่ปลายสะพานแก้วSea Walk แห่งแรกของเมืองไทย 

#จังหวัดปราจีนบุรี เมืองแห่งสมุนไพร ประวัติศาสตร์ทวารวดี วิถีธรรมชาติ(เขาใหญ่) โดดเด่นด้วยแหล่งท่องเที่ยวพระพุทธทวารวดีศรีปราจีน สิรินธรโลกนาถ ปราจีนบุรี อ.เมือง จ.ปราจีนบุรี Unseen New Chapter 2023 


#จังหวัดนครนายก ดินแดนของการผจญภัย ธรรมชาติ กีฬา และประชุมสัมมนา ชวนมาสัมผัสเสน่ห์ของธรรมชาติ เขาช่องลม หุบเขามหัศจรรย์ กรีนแลนด์นครนายก จุดชมเหยี่ยวดำทุ่งใหญ่ ชมเหยี่ยวอพยพหลายหมื่นตัว 

#จังหวัดสระแก้ว ประตูสู่เพื่อนบ้าน เมืองค้าขาย ชายแดน ดวงตาสวรรค์ ณ เทือกเขากกมะม่วง อ.คลองหาด ชมการส่องของแสงตะวันลอดผ่านช่องของเขาทะลุ ที่เรียกได้ว่าเหมือนดวงตาสวรรค์ สามารถดูได้ปีละ 2 ครั้งเท่านั้น #จังหวัดสมุทรปราการ เมืองท่องเที่ยวใกล้กรุงฯ ต้องไม่พลาดวัดสาขลา ...ชมพระปรางค์เอนสุด Unseen ไหว้พระขอพรจากพระสังกัจจายน์มหาลาภ

นอกจากนี้ ททท. ยังเตรียมเสนอโปรโมชั่นสุดพิเศษ “Super Deal” เพื่อส่งเสริมการขายในพื้นที่ภาคตะวันออกทั้ง 9 จังหวัด ในราคาสุดคุ้มให้นักท่องเที่ยวได้มีทางเลือกที่ตามมาอีกหลากหลาย  

เตรียมพบกันได้ที่ “งานไทยเที่ยวไทย” วันที่ 27 – 30 มิถุนายน 2567 เวลา 10.00 น. – 21.00 น. ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค บางนา กรุงเทพมหานคร โปรโมชั่น เด็ดๆจากภาคตะวันออก พร้อมการซื้อ-ขาย Online ผ่านห้าง ททท. ; Tourism Department Store (https://www.tourismdepartmentstore.com)

ผู้ที่สนใจสามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มได้ที่ Facebook 6 สำนักงาน ททท.สำนักงานพัทยา, ททท.สำนักงานระยอง, ททท. สำนักงานจันทบุรี, ททท. สำนักงานตราด, ททท.สำนักงานฉะเชิงเทรา (ดูแลพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา และสมุทรปราการ) และ ททท.สำนักงานนครนายก (ดูแลพื้นที่ จ.นครนายก ปราจีนบุรี และสระแก้ว) หรือ TAT Contact Center โทร.1672


Share:

“ซันซุ” จัดใหญ่เอาใจสายหม่าล่า ปล่อยเมนูใหม่ “หมึกกรุบ” เส้นบุกปรุงรส ของกินเล่นสุดชิค! ปลุกกระแสปังทั่วเมือง

ซันซุ ปล่อยความอร่อยไม่ซ้ำ หลังทำเยลลี่บุก 0 แคล เจ้าแรกของประเทศไทย ถูกใจคนรุ่นใหม่ จนเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมอย่างมาก ล่าสุดพร้อมเดินหน้าส่งความสุขอย่างต่อเนื่องด้วย Product ใหม่ “หมึกกรุบ” เส้นบุกปรุงรสรูปปลาหมึก ของกินเล่น ที่จะเติมรสชาติให้ทุกมื้ออร่อยมากยิ่งขึ้น การันตีคุณภาพด้วยความสำเร็จจากการเป็นผู้นำเทรนด์ตลาดของกินเล่น จาก 2 อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง ซารต์ - ปัทมพร ปรีชาวุฒิเดช และกานต์ - อรรถกร รัตนารมย์ ผู้ก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ซันซุโซลูชั่น จำกัด

โดยล่าสุดจัดงานอีเวนต์เปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ใจกลางเมือง ที่อาคารซีพีทาวเวอร์ สีลม ได้รับความร่วมมือกับพาร์ทเนอร์ บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) และ 7-Eleven ในการสนับสนุนช่องทางการจัดจำหน่ายสินค้า ในงานยังได้จัดกิจกรรมตอกย้ำความอร่อยให้กับหนุ่มสาวชาวออฟฟิศ ซึ่งได้รับความสนใจเป็นจำนวนมาก พร้อมทั้งร่วมเล่นเกมสนุก ๆ ลุ้นรับของรางวัลสุดพิเศษจากซันซุ 

“หมึกกรุบ” เส้นบุกปรุงรสรูปปลาหมึก เปิดตัว 2 รสชาติ ได้แก่ รสหม่าล่า สูตรดั้งเดิม และรสหม่าล่า สูตรเผ็ดไฟลุก เป็นรสชาติที่คนไทยชื่นชอบ และกำลังเป็นกระแสนิยม ภายใต้คอนเซปต์สุดว้าว “หมึกกรุบ 

ชุบมื้ออร่อยให้ตัวคุณ” และ “ไม่ต้องรู้ว่ามายังไง แค่รู้เอาไว้ว่าอร่อยมาก !” หลังจากวางจำหน่ายเพียง 2 สัปดาห์ ก็ขึ้นแท่นเป็นสินค้าขายดี ทำยอดขายได้เกือบ 2 ล้านชิ้น กลายเป็นไวรัลดังในโซเชียลที่หลายคนอยากลิ้มลอง ตอบโจทย์สายกินได้ทุกเพศทุกวัย กินง่ายเป็น Snack หรือเป็น Topping กินคู่กับอาหาร Ready to eat เข้ากันดีกับบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป เพิ่มความอร่อยให้มื้ออาหารของคุณ แบบไม่รู้สึกผิดเพราะไม่มีคอเลสเตอรอล ไขมันต่ำ และให้พลังงานแค่ 4 แคลอรีกว่าๆ ต่อชิ้นเท่านั้น !

คุณปัทมพร ปรีชาวุฒิเดช (ซารต์) และคุณอรรถกร รัตนารมย์ (กานต์) กล่าวว่า “ด้วยความที่เป็นคนชอบกินเยลลี่อยู่แล้ว บวกกับกระแสของหม่าล่าที่มาแรงมาก ๆ ก็เลยทำให้เกิดไอเดีย นำมาทำเป็น Product ใหม่ คือ หมึกกรุบ เส้นบุกปรุงรสรูปปลาหมึก เราเริ่มทำด้วย 2 รสชาติที่คนไทยคุ้นเคย คือรสหม่าล่า แต่ก็ยังคงเอกลักษณ์ของแบรนด์ คืออร่อยแบบไม่รู้สึกผิด เพราะไม่มีคอเลสเตอรอล ไขมันต่ำ แคลอรี่น้อย และเป็นมากกว่าขนมกินเล่น ดีใจมากที่ได้รับกระแสตอบรับแบบดีเกินคาดจากลูกค้า ปีนี้เลยตั้งเป้าจะเพิ่มกำลังการผลิตให้เพียงพอต่อความต้องการของลูกค้า และได้เริ่มขยายฐานลูกค้าไปยังประเทศเพื่อนบ้านอย่าง สปป.ลาว และกัมพูชา พร้อมทั้งวางแผนที่จะผลิตรสชาติใหม่ ๆ ในอนาคตอีกด้วย”

ทั้งนี้ผลิตภัณฑ์ “หมึกกรุบ” บุกปรุงรสรูปปลาหมึก ทั้ง 2 รสชาติ วางจำหน่ายแล้วที่ร้านสะดวกซื้อ 

7-Eleven  / Mr.D.I.Y และ CJ More ทุกสาขา รวมถึงช่องทางออนไลน์ Lazada , Shopee , Laz Choice , Tiktok ,Line Myshop ด้วยราคาสุดคุ้มเพียง 25 บาท (มี 6 ซอง) 



Share:

Recent Posts

ค้นหาบล็อกนี้

Contact Us ::

📲 (+66) 081 4345154
✉️ Insightoutstory@gmail.com

Add Line📲 Click 👇👇

Translate

🚉 ช.ส.ท.พาเที่ยว นครฯ

Review By Nichapa

POPULAR NEWS

Fanpage Facebook

ป้ายกำกับ

คลังบทความของบล็อก